บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] หน้าต่างที่ ๕ / ๙. ข้อความเบื้องต้น ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ปมาทํ อปฺปมาเทน เป็นต้น. พระเถระตรวจดูสัตวโลกด้วยทิพยจักษุ ____________________________ ๑- ปิปผลิ แปลว่า ไม้เลียบ หรือดีปลี รวมกับคูหาศัพท์ แปลว่า ถ้ำอันประกอบด้วยไม้เลียบหรือดีปลี อีกนัยหนึ่ง ถ้ำนี้ พระมหากัสสปเถระอาศัยอยู่มากกว่าที่อื่น นามเดิมของพระเถระ ชื่อว่าปิปผลิ ถ้าแปลมุ่งเอาชื่อพระเถระเป็นที่ตั้งแล้ว ก็แปลว่า ถ้ำเป็นที่อยู่ของพระปิปผลิ. ๒- อาโลกกสิณ กสิณกำหนดเอาแสงสว่างเป็นอารมณ์. พระศาสดาประทับนั่งในพระเชตวันนั่นแล ทรงตรวจดูด้วยทิพยจักษุว่า วันนี้ กัสสปผู้บุตรของเรา อยู่ด้วยธรรมเป็นเครื่องอยู่อะไรหนอ? ทรงทราบว่า ตรวจดูการจุติและเกิดของสัตว์ทั้งหลายอยู่, จึงตรัสว่า ชื่อว่าการจุติและการเกิดแห่งสัตว์ทั้งหลาย แม้อันพุทธญาณไม่ทรงกำหนด, ใครๆ ไม่สามารถจะทำการกำหนดสัตว์ทั้งหลาย ผู้ถือปฏิสนธิในท้องของมารดา อันมารดาบิดายังไม่ทันรู้ก็จุติเสียแล้วได้, การรู้จุติและปฏิสนธิของสัตว์เหล่านั้น ไม่ใช่วิสัยของเธอ, วิสัยของเธอมีประมาณน้อย, ส่วนการรู้การเห็นสัตว์ทั้งหลายผู้จุติและเกิดอยู่โดยประการทั้งปวง เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเท่านั้น ดังนี้แล้ว ทรงแผ่พระรัศมีไป เป็นประหนึ่งว่า ประทับนั่งอยู่ในที่เฉพาะหน้า ตรัสพระคาถานี้ว่า
แก้อรรถ ชื่อว่าผู้ไม่เศร้าโศก เพราะความเป็นผู้ละลูกศร คือความโศกเสียได้แล้ว, ย่อมพิจารณาเห็น คือย่อมมองเห็นประชา คือหมู่สัตว์ ผู้ชื่อว่ามีความเศร้าโศก เพราะความเป็นผู้ละลูกศร คือความโศกยังไม่ได้ ซึ่งจุติอยู่ และเกิดอยู่ ด้วยทิพยจักษุ. ถามว่า เหมือนอะไร ? แก้ว่า เหมือนคนผู้ยืนบนยอดเขา ย่อมมองเห็นชนผู้ยืนอยู่บนพื้นดินได้ฉะนั้น. อธิบายว่า บุคคลผู้ยืนอยู่บนยอดเขา ย่อมมองเห็นชนผู้ยืนอยู่ที่พื้นดินได้ หรือผู้ยืนอยู่บนปราสาทชั้นบน ย่อมมองเห็นชนผู้ยืนอยู่ในบริเวณแห่งปราสาทได้โดยไม่ยากฉันใด ปราชญ์คือบัณฑิต ได้แก่พระมหาขีณาสพแม้นั้น ก็ย่อมพิจารณาเห็นคนพาลทั้งหลาย ผู้ยังถอนพืชคือวัฏฏะไม่ได้ จุติอยู่และเกิดอยู่โดยไม่ยากฉันนั้น. ในกาลจบคาถา ชนเป็นอันมากกระทำให้แจ้งแล้วซึ่งพระอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. เรื่องพระมหากัสสปเถระ จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรคที่ ๒ |