ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑]อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 15อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 16อ่านอรรถกถา 25 / 17อ่านอรรถกถา 25 / 440
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปัณฑิตวรรคที่ ๖

หน้าต่างที่ ๙ / ๑๑.

               ๙. เรื่องพระเถระผู้ตั้งอยู่ในธรรม [๖๘]               
               ข้อความเบื้องต้น               
               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระธรรมิกเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "น อตฺตเหตุ" เป็นต้น.

               อุบาสกหนีไปบวชได้บรรลุพระอรหัต               
               ได้ยินว่า อุบาสกคนหนึ่งในกรุงสาวัตถี อยู่ครองเรือนโดยชอบธรรม. อุบาสกนั้นเป็นผู้ใคร่จะบวช วันหนึ่ง เมื่อนั่งสนทนาถึงถ้อยคำปรารภความสุขกับภรรยา จึงพูดว่า "นางผู้เจริญ ฉันปรารถนาจะบวช." ภรรยาอ้อนวอนว่า "นาย ถ้ากระนั้น ขอท่านจงคอย จนกว่าดิฉันจะคลอดบุตรซึ่งอยู่ในท้องก่อนเถิด." เขาคอยแล้ว ในเวลาที่เด็กเดินได้ จึงอำลานางอีก เมื่อนางวิงวอนว่า "นาย ขอท่านจงคอยจนกว่าเด็กนี้เจริญวัยเถิด." จึงมาคิดว่า "ประโยชน์อะไรของเราด้วยหญิงนี้ ที่เราลาแล้วหรือไม่ลา, เราจักทำการสลัดออกจากทุกข์แก่ตนละ" ดังนี้แล้ว ออกไปบวชแล้ว. ท่านเรียนกัมมัฏฐาน พากเพียรพยายามอยู่ ยังกิจแห่งบรรพชิตของตนให้สำเร็จแล้ว จึง (กลับ) ไปเมืองสาวัตถีอีก เพื่อประโยชน์แก่การเยี่ยมบุตรและภรรยาเหล่านั้น แล้วได้แสดงธรรมกถาแก่บุตร.

               บุตรและภรรยาออกบวชได้บรรลุพระอรหัต               
               แม้บุตรนั้นออกบวชแล้ว. ก็แลครั้นบวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต. ฝ่ายภรรยาเก่าของภิกษุ (ผู้เป็นบิดา) นั้นคิดว่า "เราอยู่ครองเรือนเพื่อประโยชน์แก่ชนเหล่าใด, ชนเหล่านั้นแม้ทั้งสองก็บวชแล้ว, บัดนี้ ประโยชน์อะไรของเราด้วยการครองเรือนเล่า? เราจักบวชละ" แล้วจึงออกไปบวชในสำนักนางภิกษุณี
               ก็แลครั้นบวชแล้ว ไม่นานเลยก็ได้บรรลุพระอรหัต.

               พวกภิกษุสรรเสริญพระธรรมิกะ               
               ภายหลังวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนากันขึ้นในธรรมสภาว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรมิกอุบาสกออกบวช บรรลุพระอรหัตแล้ว ทั้งได้เป็นที่พึ่งแก่บุตรและภรรยา ก็เพราะความที่ตนตั้งอยู่ในธรรม."
               พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ นั่งประชุมกันด้วยเรื่องอะไรหนอ?" เมื่อพวกภิกษุกราบทูลว่า "ด้วยกถาชื่อนี้พระเจ้าข้า" แล้ว,
               จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาว่าบัณฑิตไม่พึงปรารถนาความสำเร็จเพราะเหตุแห่งตน (และ) ไม่พึงปรารถนาความสำเร็จเพราะเหตุแห่งคนอื่น, แต่พึงเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม มีธรรมเป็นที่พึ่งโดยแท้"
               เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
                                   ๙. น อตฺตเหตุ น ปรสฺส เหตุ              
                                   น ปุตฺตมิจฺเฉ น ธนํ น รฏฺฐ
                                   น อิจฺเฉยฺย อธมฺเมน สมิทฺธิมตฺตโน
                                   ส สีลวา ปญฺญวา ธมฺมิโก สิยา.
                         บัณฑิตย่อมไม่ทำบาป เพราะเหตุแห่งตน, ย่อมไม่ทำบาป
                         เพราะเหตุแห่งบุคคลอื่น, บัณฑิตไม่พึงปรารถนาบุตร
                         ไม่พึงปรารถนาทรัพย์ ไม่พึงปรารถนาแว่นแคว้น, (และ)
                         ไม่พึงปรารถนาความสำเร็จเพื่อตน โดยไม่เป็นธรรม,
                         บัณฑิตนั้นพึงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา ตั้งอยู่ในธรรม.

               แก้อรรถ               
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า น อตฺตเหตุ ความว่า ธรรมดาบัณฑิต ย่อมไม่ทำบาป เพราะเหตุแห่งตนหรือเพราะเหตุแห่งบุคคลอื่น.
               บทว่า น ปุตฺตมิจฺเฉ ความว่า บัณฑิตไม่พึงปรารถนาบุตร หรือทรัพย์ หรือแว่นแคว้น ด้วยกรรมอันลามก, บัณฑิต เมื่อปรารถนาแม้สิ่งเหล่านั้น ย่อมไม่กระทำกรรมลามกเลย.
               บทว่า สมิทฺธิมตฺตโน ความว่า บัณฑิตไม่พึงปรารถนา แม้ความสำเร็จเพื่อตน โดยไม่เป็นธรรม. อธิบายว่า บัณฑิตย่อมไม่ทำบาป แม้เพราะเหตุแห่งความสำเร็จ.
               บทว่า ส สีลวา ความว่า บุคคลผู้เห็นปานนี้นั่นแล พึงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา และตั้งอยู่ในธรรม. อธิบายว่า ไม่พึงเป็นอย่างอื่น.
               ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.

               เรื่องพระเถระผู้ตั้งอยู่ในธรรม จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปัณฑิตวรรคที่ ๖
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑]
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 15อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 16อ่านอรรถกถา 25 / 17อ่านอรรถกถา 25 / 440
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=479&Z=514
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=21&A=1
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=21&A=1
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๑  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :