บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] หน้าต่างที่ ๖ / ๘. ข้อความเบื้องต้น นางปุณณาถวายขนมรำแด่พระพุทธเจ้า ในสมัยนั้น พระทัพพมัลลบุตรเป็นผู้จัดแจงเสนาสนะเพื่อภิกษุทั้งหลาย ท่านยังนิ้วมือให้สว่างเพื่อภิกษุทั้งหลาย ผู้ฟังธรรมแล้วไปสู่เสนาสนะของตนๆ นิรมิตภิกษุทั้งหลายผู้ไปข้างหน้าๆ เพื่อประโยชน์แก่การแสดงทาง. นางปุณณาเห็นภิกษุทั้งหลายผู้เที่ยวไปบนภูเขา ด้วยแสงสว่างนั้น จึงคิดว่า "เราถูกทุกข์ของตัว แต่เช้าตรู่ จึงหยิบรำชุบน้ำให้ชุ่มแล้ว ทำขนมบนฝ่ามือ ปิ้งที่ถ่านเพลิง ห่อไว้ในพก คิดว่า "จักกินขนมที่ทางไปสู่ท่าน้ำ" จึงถือหม้อ เดินบ่ายหน้าไปยังท่าน้ำ. ____________________________ ๑- ทีฆชาติเกน = สัตว์มีชาติแห่งสัตว์ยาว. แม้พระศาสดาก็เสด็จดำเนินไปทางนั้นเหมือนกัน เพื่อเข้าบ้าน. นางเห็นพระศาสดาแล้ว คิดว่า "ในวันอื่นๆ ถึงเมื่อเราพบพระศาสดา ไทยธรรมของเราก็ไม่มี, เมื่อไทยธรรมมี เราก็ไม่พบพระศาสดา. ก็บัดนี้ ไทยธรรมของเราก็มี ทั้งพระศาสดาก็ปรากฏเฉพาะหน้า. ถ้าพระองค์ไม่ทรงคิดว่า "ทานของเราเศร้าหมองหรือประณีต แล้วพึงรับไซร้, เราพึงถวายขนมนี้" ดังนี้แล้ว จึงวางหม้อไว้ ณ ส่วนข้างหนึ่ง ถวายบังคมพระศาสดา กราบทูลว่า "ขอพระองค์จงทรงรับทานอันเศร้าหมองนี้ ทำการสงเคราะห์แก่หม่อมฉันเถิด พระเจ้าข้า." พระศาสดาทอดพระเนตรดูพระอานนทเถระแล้ว ทรงน้อมบาตรที่ กราบทูลว่า"ขอธรรมที่พระองค์ทรงเห็นแล้วนั่นแหละ จงสำเร็จแก่หม่อมฉันเถิด พระเจ้าข้า." พระศาสดาประทับยืนอยู่นั่นแหละ ได้ทรงกระทำอนุโมทนาว่า "จงสำเร็จอย่างนั้น." พระศาสดาเสวยขนมของนางปุณณา แม้พระศาสดาก็ทรงดำริว่า "นางปุณณานั่น คิดอย่างไรหนอแล?" ทรงทราบวาระจิตของนางแล้ว จึงทอดพระเนตรดูพระอานนทเถระ แล้วทรงแสดงอาการที่จะประทับนั่ง. พระเถระได้ปูลาดจีวรถวาย. พระศาสดาได้ประทับนั่งทำภัตกิจ ณ ภายนอกพระนครนั่นเอง. เทพดาในห้องแห่งจักรวาลทั้งสิ้น บีบโอชารสอันสมควรแก่เทพดาและมนุษย์ทั้งหลาย ให้เหมือนรวงผึ้งแล้ว ใส่ลงในขนมนั้น. ส่วนนางปุณณาได้ยืนแลดูอยู่. ในเวลาเสร็จภัตกิจ พระเถระได้ถวายน้ำ. พระศาสดาทรงทำภัตกิจเสร็จแล้ว ตรัสเรียกนางปุณณามา ตรัสว่า "ปุณณา เพราะเหตุไร เจ้าจึงดูหมิ่นสาวกทั้งหลายของเรา?" นางปุณณา. หม่อมฉันมิได้ดูหมิ่น พระเจ้าข้า. พระศาสดา. เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าแลดูสาวกทั้งหลายของเราแล้วคิดอย่างไร? นางปุณณา. หม่อมฉันคิดเท่านี้ว่า เราไม่ถึงความหลับ ก็เพราะอุปัทวันตราย สาวกของพระพุทธเจ้าตื่นเสมอ ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ บาทพระคาถาว่า นิพฺพานํ อธิมุตฺตานํ ได้แก่ ผู้มีอัธยาศัยในพระนิพพาน. สองบทว่า อตฺถํ คจฺฉนฺติ ความว่า อาสวะทั้งหลายแม้ทั้งปวงของผู้เห็นปานนั้น ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ คือความฉิบหาย ได้แก่ความไม่มี. ในกาลจบเทศนา นางปุณณายืนอยู่ตามเดิมนั่นเอง ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว เทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้ประชุมกันแล้ว. ภิกษุพากันสรรเสริญพระศาสดา ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย กรรมที่ทำได้ยากอันพระ พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอแล? เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "ด้วยเรื่องชื่อนี้" ดังนี้แล้ว จึงตรัสว่า "ไม่ใช่ในบัดนี้เท่านั้น ภิกษุทั้งหลาย ถึงในก่อน เราก็บริโภครำที่ พระโพธิสัตว์ เมื่อจะทดลอง (ถาม) ลูกม้าสินธพนั้น จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า เจ้ากินหญ้าอันเป็นเดน, เจ้ากินข้าวตังและรำ (มาจนโต), นี่เป็นอาหารเดิมของเจ้า เพราะเหตุไร บัดนี้ เจ้าจึงไม่กิน? ลูกม้าสินธพฟังดังนั้นแล้ว จึงได้กล่าว ๒ คาถานอกนี้ว่า ในที่ใด ชนทั้งหลาย ไม่รู้จักสัตว์ผู้ควรเลี้ยง โดยชาติหรือโดยวินัย, ท่านมหาพราหมณ์ เออก็ ในที่นั้น มีข้าวตังและรำมาก, ส่วนท่านแลย่อมรู้จัก ข้าพเจ้าดีว่า ม้าเช่นใดนี้เป็นม้าสูงสุด ข้าพเจ้ารู้อยู่ อาศัยท่านผู้รู้ จึงไม่กินรำของท่าน." ดังนี้แล. ____________________________ ๑- ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๓๖๑; อรรถกถา ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๓๖๑; เรื่องนางปุณณทาสี จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท โกธวรรคที่ ๑๗ |