บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒] หน้าต่างที่ ๕ / ๑๒. ข้อความเบื้องต้น หนามบ่งหนาม พระราชาทรงทราบความที่พระอัครมเหสีนั้นมัวเมาอยู่ในรูป จึงตรัสให้พวกนักกวีแต่งเพลงขับเกี่ยวไปในทางพรรณนาพระเวฬุวัน แล้วก็รับสั่งให้พระราชทานแก่พวกนักฟ้อนเป็นต้น. เมื่อนักฟ้อนเหล่านั้นขับเพลงเหล่านั้นอยู่ พระนางทรงสดับแล้ว พระเวฬุวันได้เป็นประหนึ่งไม่เคยทอดพระเนตรและทรงสดับแล้ว. พระนางตรัสถามว่า "พวกท่านขับหมายถึงอุทยานแห่งไหน?" เมื่อพวกนักขับทูลว่า "หมายอุทยานเวฬุวันของพระองค์ พระเทวี" ก็ได้ทรงปรารถนาจะเสด็จไปพระอุทยาน. พระศาสดาทรงทราบการเสด็จมาของพระนาง เมื่อประทับนั่งแสดงธรรมอยู่ในท่ามกลางบริษัทแล จึงทรงนิรมิตหญิงรูปงาม ยืนถือพัดก้านตาลพัดอยู่ที่ข้างพระองค์. ฝ่ายพระนางเขมาเทวีเสด็จเข้าไปอยู่แล ทอดพระเนตรเห็นหญิงนั้น จึงทรงดำริว่า "ชนทั้งหลายย่อมพูดกันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสโทษของรูป ก็หญิงนี้ยืนพัดอยู่ในสำนัก ในร่างกายนี้ไม่มีสาระ พระนางเขมาพอทอดพระเนตรเห็นรูปนั้น จึงทรงดำริว่า "รูปนั้นแม้เห็นปานนี้ ก็ถึงความสิ้นความเสื่อมไปโดยครู่เดียวเท่านั้น, สาระในรูปนี้ ไม่มีหนอ?" พระศาสดาทรงตรวจดูวาระจิตของพระนางเขมานั้นแล้ว จึงตรัสว่า "เขมา เธอคิดว่า สาระมีอยู่ในรูปนี้หรือ? เธอจงดูความที่รูปนั้นหาสาระมิได้ ในบัดนี้" แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า :- "เขมา เธอจงดูร่างกายอันอาดูร ไม่สะอาดเน่าเปื่อย ไหลออกทั้งข้างบน ไหลออกทั้งข้างล่าง อันคนพาลทั้งหลาย ปรารถนายิ่งนัก." ในกาลจบพระคาถา พระนางดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะพระนางว่า "เขมา สัตว์เหล่านี้เยิ้มอยู่ด้วยราคะ ร้อนอยู่ด้วยโทสะ งงงวยอยู่ด้วยโมหะ จึงไม่อาจเพื่อก้าวล่วงกระแสตัณหาของตนไปได้ ต้องข้องอยู่ในกระแสตัณหานั้นนั่นเอง" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ ____________________________ ๑- ผู้อันราคะย้อมแล้ว. ๒- อันโทสะประทุษร้ายแล้ว. บาทพระคาถาว่า เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา ความว่า บัณฑิตทั้งหลายตัดเครื่องผูกนั่นแล้ว เป็นผู้หมดห่วงใย คือไม่มีอาลัย ละทุกขทั้งปวงด้วยอรหัตมรรคแล้ว ก็เว้น คือไป. ในกาลจบเทศนา พระนางเขมาทรงดำรงอยู่ในพระอรหัต. เทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว. พระศาสดาตรัสกะพระราชาว่า "มหาบพิตร พระนางเขมาจะบวชหรือปรินิพพาน จึงควร?" พระราชา. โปรดให้พระนางบวชเถิด พระเจ้าข้า อย่าเลยด้วยการปรินิพพาน. พระนางบรรพชาแล้ว ก็ได้เป็นสาวิกาผู้เลิศ ดังนี้แล. เรื่องพระนางเขมา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔ |