บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อรรถกถาวัจฉปาลเถรคาถา เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร? แม้พระเถระนี้ก็มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญไว้ในภพนั้นๆ ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ใน วันหนึ่ง เอาถาดสำริดใบใหญ่ใส่ข้าวปายาสไปแสวงหาพระทักขิไณยบุคคล เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี เสด็จจงกรมอยู่ในอากาศ เกิดอัศจรรย์บันดาลใจ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า แสดงความประสงค์จะถวาย (ข้าวปายาส). พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัยความอนุเคราะห์ รับข้าวปายาสไว้. ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ผู้สมบูรณ์ด้วยสมบัติในพระนครราชคฤห์ ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่า วัจฉปาละ. เมื่อพระอุรุเวลกัสสปเถระแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ในสมาคมแห่งพระเจ้าพิมพิสาร แล้วแสดง สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า เราต้องการจะบวงสรวงบูชายัญ จึงคดข้าวปายาสใส่ในถาดสำริดด้วยมือของตนแล้วไปสู่ป่างิ้ว ได้เห็นพระสัมพุทธเจ้ามีพระฉวีวรรณดังทองคำ มีพระลักษณะประเสริฐ ๓๒ ประการ แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จออกจากป่าใหญ่. สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านระ เสด็จขึ้นเดินจงกรมในอากาศอันเป็นทางลม เราเห็นความอัศจรรย์ อันไม่เคยเป็นขนลุกชูชันนั้นแล้ววางถาดสำริดลง ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่าวิปัสสี ทูลว่า ข้าแต่มหามุนี พระองค์เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าในโลก พร้อมทั้งเทวโลกและมนุษยโลก ขอจงทรงอนุเคราะห์รับข้าวปายาสของข้าพระองค์เถิด. พระผู้มีพระภาคเจ้า สัพพัญญู ผู้นำของโลก เป็นศาสดาผู้ยอดเยี่ยมในโลก ทรงทราบความดำริของเราแล้ว ทรงรับ. ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ถวายทานใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายข้าวปายาส. ในกัปที่ ๔๑ แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์ พระนามว่าพุท ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะประกาศความที่พระนิพพานอันตนบรรลุแล้วโดยง่ายดาย จึงได้กล่าวคาถานี้ว่า พระโยคาวจรผู้มีปกติ เห็นเนื้อความอันสุขุมและละเอียด ผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ผู้ประพฤตินอบน้อม ถ่อมตน ผู้ ประพฤติศีลของพระพุทธเจ้า โดยเอื้อเฟื้อ พึงบรรลุพระ นิพพานได้โดยไม่ยาก ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุสุขุมนิปุณตฺถทสฺสินา ความว่า พระโยคาวจรยกสังขารขึ้นสู่ไตรลักษณ์มีความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น แล้วเห็นเนื้อความในธรรมมีอริย บทว่า มติกุสเลน ความว่า ผู้มีปรีชา คือปัญญาฉลาดเฉียบแหลม ได้แก่ ฉลาดในการยังธรรมวิจยสัมโพชฌังคปัญญาให้เกิดขึ้นว่า ปัญญาย่อมเจริญแก่ผู้ประพฤติ บทว่า นิวาตวุตฺตินา ความว่า มีปกติประพฤตินอบน้อมถ่อมตนในเพื่อน บทว่า สํเสวิตพุทฺธสีลินา ความว่า ศีลของพระพุทธเจ้า อันพระโยคาวจรซ่องเสพแล้ว คือประพฤติแล้วโดยเอื้อเฟื้อ ชื่อว่าผู้มีศีลของพระพุทธเจ้าอันประพฤติแล้วโดยเอื้อเฟื้อ อันพระโยคาวจรผู้มีศีลของพระพุทธเจ้า อันประพฤติแล้วโดยเอื้อเฟื้อนั้น. อีกอย่างหนึ่ง ศีลของพระพุทธเจ้า อันพระโยคาวจรนั้น ซ่องเสพแล้ว คือเข้าไปบำเรอแล้ว เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า มีศีลของพระพุทธเจ้าอันเสพแล้ว อัน หิ ศัพท์ มีเหตุเป็นอรรถ ขยายความว่า เพราะพระโยคาวจรมีความประพฤติถ่อมตน มีศีลของพระพุทธเจ้าอันซ่องเสพแล้ว มีปัญญาเฉียบแหลม มีปกติเห็นเนื้อความอันสุขุมและละเอียด ฉะนั้น พระนิพพาน อันพระโยคาวจรนั้นจึงได้โดยไม่ยาก. อธิบายว่า บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมสำคัญ ก็คาถานี้นั่นแหละได้เป็นคาถาพยากรณ์พระอรหัตผลของพระเถระ ฉะนี้แล. จบอรรถกถาวัจฉปาลเถรคาถา ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา เอกกนิบาต วรรคที่ ๘ ๑. วัจฉปาลเถรคาถา จบ. |