บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร? แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้นๆ เกิดในเรือนแห่งตระกูล ใน ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวโลก กระทำบุญแล้วท่องเที่ยวไปๆ มาๆ อยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเป็นบุตรของนายเกวียนคนหนึ่ง ในวัฑฒคาม แคว้นอวันตี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่าอิสิทัตตะ. เขาเจริญวัยแล้ว เป็นอทิฏฐสหายของจิตตคฤหบดี ในมัจฉิกาสัณฑชนบท ได้รับข่าวสาสน์ที่จิตตคฤหบดี เขียนพรรณนาพระพุทธคุณส่งไปให้เกิดความเลื่อมใสในพระศาสดา บวชในสำนักของพระมหากัจจายนเถระ ปรารภวิปัสสนาแล้ว ได้เป็นผู้มีอภิญญา ๖ ต่อกาลไม่นานนัก. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑- เราได้ถวายผลไม้มีกลิ่นหอม แด่พระสัมพุทธเจ้าผู้มีพระฉวีวรรณปานดังทองคำ ผู้สมควร ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๙๘ ก็ท่านเป็นผู้มีอภิญญา ๖ คิดว่าจักไปสู่ที่บำรุงของพระพุทธเจ้า อำลาพระเถระ แล้วเดินทางไปสู่มัชฌิมประเทศโดยลำดับ เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง อันพระศาสดาทรงทำปฏิสันถาร ด้วยพระดำรัสมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุ ยนต์คือสรีระ มีจักร ๔ มีทวาร ๙ อันเธอพอทนได้ พอให้เป็นไปได้หรือ ดังนี้ เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผล ด้วยมุขคือการทูลตอบพระดำรัส โดยประกาศให้ทรงรู้ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า จำเดิมแต่เวลาที่ข้าพระองค์ได้รับข่าวของพระองค์ ทุกข์ทั้งปวงของ เบญจขันธ์ ข้าพระองค์กำหนดรู้แล้ว ตัดรากขาดแล้ว ตั้งอยู่ ข้าพระองค์บรรลุถึงความสิ้นทุกข์แล้ว บรรลุความสิ้นอาสวะ แล้ว ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา ความว่า อุปาทานขันธ์แม้ทั้ง ๕ อันเรากำหนดรู้แล้วโดยประการทั้งปวงด้วยมรรคปัญญาอันประกอบด้วย บทว่า ติฏฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกา ความว่า ทุกข์เหล่านั้นย่อมตั้งอยู่จนกว่าจิตดวงหลังจะดับ เพราะทุกข์เหล่านั้นอันเรากำหนดรู้แล้วโดยประการทั้งปวง คือเพราะมูลแห่งกิเลสมีอวิชชาและตัณหาเป็นต้น อันเราตัดขาดแล้ว ได้แก่เพราะเหตุแห่งทุกข์อันเราละได้แล้วด้วยอริยมรรค. บทว่า ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปตฺโต ความว่า ก็ความสิ้นไป คือความหมดไปแห่งวัฏทุกข์ ชื่อว่าอันเราถึงแล้วโดยลำดับ เพราะความที่แห่งทุกข์เหล่านั้นมีรากอันเราตัดแล้ว ได้แก่ พระนิพพานอันเราบรรลุแล้ว. บทว่า ปตฺโต เม อาสวกฺขโย ความว่า พระอรหัตที่ชื่อว่า มีนามอันได้แล้วว่า ความสิ้นไปแห่งอาสวะ เพราะเป็นผลอันพระอริยบุคคลพึงได้เฉพาะ ในที่สุดแห่งความสิ้นไปของอาสวะ ส่วนอาจารย์บางพวกกล่าวว่า อนฺติมายํ สมุสฺสโย (ร่างกายนี้มีเป็นครั้งสุดท้าย). อธิบายว่า ร่างกาย คืออัตภาพของเรานี้ ชื่อว่ามีในที่สุด คือเป็นภพสุดท้ายของภพทั้งปวง เพราะความที่พระนิพพานอันเราบรรลุแล้วนั่นเอง. ก็คำใดที่ข้าพเจ้าไม่ได้กล่าวไว้ในบทนั้นๆ คำนั้นง่ายทั้งนั้นแล เพราะมีนัยอันข้าพเจ้ากล่าวแล้วในหนหลัง. จบอรรถกถาอิสิทัตตเถรคาถา จบวรรควรรณนาที่ ๑๒ ในอรรถกถาเถรคาถา ชื่อว่า ปรมัตถทีปนี จบอรรถกถาเอกนิบาต อันประดับประดาไปด้วยเถรคาถา ๑๒๐ คาถา ----------------------------------------------------- ในวรรคนี้รวมพระเถระได้ ๑๐ รูป คือ ๑. พระเชนตเถระ ๒. พระวัจฉโคตตเถระ ๓. พระวนวัจฉเถระ ๔. พระอธิมุตตเถระ ๕. พระมหานามเถระ ๖. พระปาราปริยเถระ ๗. พระยสเถระ ๘. พระกิมพิลเถระ ๙. พระวัชชีบุตรเถระ ๑๐. พระอิสิทัตตเถระ รวมหัวข้อที่มีในเอกนิบาต .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา เอกกนิบาต วรรคที่ ๑๒ ๑๐. อิสิทัตตเถรคาถา จบ. |