![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() มีเรื่องเกิดขึ้นอย่างไร? แม้พระเถระนี้มีบุญญาธิการได้ทำไว้แล้วในพระ ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านเมื่อท่องเที่ยวไปมาในเทวโลกและมนุษยโลก ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์มีนามว่าปัสสิกะ เจริญวัยแล้ว ได้เห็นยมกปาฏิหาริย์ของพระศาสดา กลับมีศรัทธา บวชแล้วบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ ได้เป็นผู้อาพาธ. ครั้งนั้น ญาติทั้งหลายได้พากันอุปัฏฐากท่านให้หายโรค ตามวิธียาที่หมอได้รอบรู้เห็นมาแล้ว. ท่านหายอาพาธแล้ว เกิดสลดใจรีบเร่งภาวนาขึ้น ได้เป็นพระอริยเจ้าผู้มีอภิญญา ๖. ด้วยเหตุนั้น ในอปทานท่านจึงได้กล่าวไว้ว่า๑- ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี ผู้มีพระยศมาก ที่ระหว่างป่า มีจิตเลื่อมใส ดีใจ ได้ถวายผลไม้มิลักขะในกัปที่ ๑,๘๐๐ ข้าพเจ้าได้ถวายผลไม้ใดในครั้งนั้น ด้วยทานนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลของการถวายผลไม้นั้น. กิเลสทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้เผาแล้ว ฯลฯ คำสั่งสอนของพระ ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๕๘ อนึ่ง ท่านมีอภิญญา ๖ แล้วได้ไปสำนักของพวกญาติทางอากาศ สถิต ครั้งนั้น พระศาสดาได้ตรัสถามท่านปัสสิกเถระนั้นผู้เข้ามาถึงที่บำรุงของพระ ท่านเมื่อจะทูลถึงอุปการะที่ตนได้ทำแก่ญาติทั้งหลายแด่พระศาสดา จึงได้กล่าวคาถาไว้ ๓ คาถาว่า คนผู้มีศรัทธา มีปัญญา ดำรงอยู่ในธรรม ถึง พร้อมด้วยศีล แม้คนเดียว ก็มีประโยชน์แก่ญาติพวก พ้องทั้งหลาย ผู้ไม่มีศรัทธาในโลกนี้ ญาติทั้งหลาย เหล่านั้นที่ข้าพระองค์ขู่ตักเตือน ด้วยความอนุเคราะห์ เพราะความรักกันฉันญาติและเผ่าพันธุ์ จึงพากันทำ สักการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ถึงแก่กรรมล่วงลับไปแล้ว ก็ประสบความสุขที่เป็นไตรทิพย์ พี่น้องและโยมผู้ หญิงของข้าพระองค์ ผู้รักกามสุข ก็พากันบันเทิงใจ. บรรดาคาถาเหล่านั้น ในคาถาแรกมีเนื้อความดังต่อไปนี้ ผู้ใดมีศรัทธา ด้วยอำนาจความเชื่อในกรรมและผลของกรรม และความเชื่อในพระรัตนตรัย ชื่อว่าผู้มีปัญญา เพราะประกอบด้วยกัมมัสสกตาญาณเป็นต้นนั้นนั่นเอง ชื่อว่าผู้ดำรงในธรรม เพราะตั้งอยู่ในพระธรรมคือพระพุทธโอวาท ได้แก่นวโลกุตรธรรม ชื่อว่าถึงพร้อมด้วยศีล ด้วยอำนาจศีลที่เนื่องด้วยอาจาระ ศีลที่เนื่องด้วยมรรค และศีลที่เนื่องด้วยผล ผู้นั้นแม้คนเดียวก็มีประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกพ้อง ผู้ได้นามว่า ชื่อว่าญาติ เพราะหมายความว่าต้องรู้กันว่า คนเหล่านี้เป็นคนของเรา และชื่อว่าเผ่าพันธุ์ เพราะหมายความว่าผูกพันกันด้วยเครื่องผูกมัด คือความรักอย่างนั้น ในที่นี้คือในโลกนี้ ผู้ชื่อว่าไม่มีศรัทธาดังที่กล่าวมาแล้ว. เพื่อแสดงเนื้อความที่ท่านกล่าวไว้แล้ว โดยทั่วไปอย่างนี้แล้วให้น้อมเข้ามาสู่ตน ท่าน บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นิคฺคยฺห อนุกมฺปาย โจทิตา ญาตโย มยา ความว่า ญาติทั้งหลายอันข้าพระ ญาติเหล่านั้น เมื่อไม่สามารถฝ่าฝืนโอวาทของข้าพระ คำว่า เต (ที่กล่าว) อีก เป็นเพียงนิบาต. บทว่า ติทิวํ สุขํ ได้แก่ ความสุขที่นับเนื่องในเทวโลก. อีกอย่างหนึ่ง ได้ประสบความสุขที่เป็นไตรทิพย์ ที่น่าปรารถนา. (เพื่อจะแก้คำถาม) ว่า ก็ท่านเหล่านั้น คือใคร? พระเถระจึงได้กล่าวว่า พี่น้องและโยมผู้หญิงของข้าพระ อธิบายว่า เป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยวัตถุกามตามที่ตนต้องการพากันรื่นเริงใจ. จบอรรถกถาปัสสิกเถรคาถา ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ติกนิบาต ๘. ปัสสิกเถรคาถา จบ. |