บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร? ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ท่าน ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านบังเกิดในเทพชั้นนิมมานรดี ท่องเที่ยวไปๆ มาๆ ในเทวโลกและมนุษยโลก ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในสักยราชตระกูล ได้นามว่าภคุ เจริญวัยแล้ว ออกบวชพร้อมท่านพระอนุรุทธะและพระกิมิละ๑- อยู่ใน ____________________________ ๑- ม. ม. เล่ม ๑๓/ข้อ ๑๙๕ วันหนึ่ง เพื่อจะบรรเทาความที่ถูกถีนมิทธะครอบงำ จึงออกจากวิหาร ขึ้นสู่ที่จงกรมล้มลง ทำการล้มนั้นนั่นแหละให้เป็นขอสับ บรรเทาถีนมิทธะ เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า๒- เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้มียศใหญ่ปรินิพพานแล้ว เราได้เอาผอบอันเต็มด้วยดอกไม้ไปบูชาพระสรีระ เรายังจิตให้เลื่อมใสในบุญกรรมนั้นแล้วได้ไปสู่สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เราถึงจะไปอยู่ยังเทวโลกก็ยัง นี้เป็นการเห็นครั้งสุดท้ายของเรา ภพที่สุดกำลังเป็นไป ถึงทุกวันนี้ ฝน ____________________________ ๒- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๔๘ ก็แลครั้นท่านบรรลุพระอรหัตแล้ว ปล่อยให้กาลล่วงไปด้วยสุขอันเกิดแต่ผลจิต และสุขอันเกิดแต่พระนิพพาน อันพระศาสดาผู้เสด็จเข้าไปใกล้ เพื่อทรงชื่นชมถึงการอยู่โดดเดี่ยวแล้วตรัสถามว่า ภิกษุ เธอเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่บ้างหรือ. เมื่อจะประกาศการอยู่ด้วยความไม่ประมาทของตนจึงได้ภาษิต ๔ คาถาเหล่านี้ว่า ข้าพระองค์ถูกความง่วงเหงาหาวนอนครอบงำ ได้ออก ไปจากวิหารขึ้นสู่ที่จงกรม ล้มลงที่แผ่นดิน ณ ที่ใกล้บันได จงกรมนั้นนั่นเอง ข้าพระองค์ลูบเนื้อลูบตัวแล้วขึ้นสู่ที่จงกรม อีก เป็นผู้มีจิตตั้งมั่นแล้วในภายใน เดินจงกรมอยู่ แต่นั้นการ กระทำไว้ในใจโดยอุบายอันแยบคายได้บังเกิดขึ้นแก่ข้าพระ องค์ อาทีนวโทษปรากฏแก่ข้าพระองค์ ความเบื่อหน่ายก็ตั้ง ลงมั่น ลำดับนั้น จิตของข้าพระองค์ก็หลุดพ้นจากสรรพกิเลส ขอพระองค์จงทอดพระเนตรดูความที่แห่งธรรมเป็นธรรมอัน ดีเลิศ ข้าพระองค์ได้บรรลุวิชชา ๓ แล้ว ได้ทำกิจพระพุทธ ศาสนาเสร็จแล้ว. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มิทฺเธน ปกโต ความว่า ผู้ถูกมิทธะอันกำจัดความไม่สามารถเป็นสภาวะ กล่าวคือความเกียจคร้านแห่งกายครอบงำ. บทว่า วิหารา ได้แก่ จากเสนาสนะ. บทว่า อุปนิกฺขมึ ได้แก่ ออกไปเพื่อเดินจงกรม. บทว่า ตตฺเถว ปปตึ ฉมา ความว่า ล้มลงที่ภาคพื้น เพราะถูกความหลับครอบงำ ที่บันไดจงกรมนั้นนั่นแล. บทว่า คตฺตานิ ปริมชฺชิตฺวา ความว่า ตามนวดอวัยวะแห่งร่างกายตน โดยล้มลงที่ภาคพื้นเกลือกฝุ่นอยู่. บทว่า ปุนปารุยฺห จงฺกมนํ ความว่า ไม่ถึงทำหน้าสยิ้วว่า บัดนี้เราล้มแล้ว ขึ้นสู่ที่จงกรมแม้อีก. บทว่า อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต ประกอบความว่า เรามีจิตตั้งมั่นแล้วด้วยดี คือเป็นผู้มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งจงกรม ด้วยการข่ม คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล. ก็นี้แลเป็นการพยากรณ์พระอรหัตผลของพระเถระ. จบอรรถกถาภคุเถรคาถาที่ ๒ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา จตุกกนิบาต ๒. ภคุเถรคาถา จบ. |