บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
นางสิกขมานาชื่อติสสาแม้นี้ ก็สร้างสมบุญบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมกุศลที่เป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ เพราะกุศลที่ได้รวบรวมไว้เป็นปัจจัย จึงบังเกิดใน พระศาสดาทรงเปล่งพระรัศมีตามนัยที่กล่าวแล้วในหนหลัง ได้ภาษิตพระคาถาแก่พระเถรีนั้นว่า ดูก่อนติสสา เธอจงศึกษาในไตรสิกขา โยคะ กิเลสเครื่องประกอบทั้งหลายอย่าได้ครอบงำเธอ เธอ จงพรากจากโยคะทั้งหมด เป็นผู้ไม่มีอาสวะเที่ยวไป ในโลก. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ติสฺเส เป็นคำเรียกพระเถรีนั้น. บทว่า สิกฺขสฺสุ สิกฺขาย ความว่า จงศึกษาในสิกขา ๓ อย่างมีอธิสีลสิกขาเป็นต้น คือจงยังสิกขา ๓ ที่สัมปยุตด้วยมรรคให้ถึงพร้อม. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเหตุในการยังสิกขา ๓ เหล่านั้นให้ถึงพร้อมในบัดนี้. บทว่า มา ตํ โยคา อุปจฺจคุํ ความว่า สมัยที่ควรประกอบเหล่านี้ คือ ความเป็นมนุษย์ ความไม่บกพร่องแห่งอินทรีย์ ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า ความได้ศรัทธา อย่าล่วงเลยเธอไปเสีย. อีกอย่างหนึ่ง โยคะ ๔ มีกามโยคะเป็นต้นนั่นแหละ อย่าเข้าใกล้ คืออย่าครอบงำเธอ. บทว่า สพฺพโยควิสํยุตฺตา ความว่า พ้นจากโยคะทั้งหมดมีกามโยคะเป็นต้น เพราะพ้นนั้นแหละ แต่นั้นจงเป็นผู้ไม่มีอาสวะเที่ยวไปในโลก จงอยู่ด้วยธรรมเป็นเครื่องอยู่สบายในปัจจุบัน. นัยมีอาทิว่า พระเถรีนั้นฟังคาถานั้นแล้วเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต ดังนี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล. จบอรรถกถาติสสาเถรีคาถาที่ ๔ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา เอกกนิบาต ๔. ดิสสาเถรี จบ. |