บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
แม้พระเถรีชื่อมิตตาองค์นี้ก็สร้างสมบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่ง ในพุทธุปปาทกาลนี้เกิดในศากยราชตระกูล ในกรุงกบิลพัสดุ์ รู้ความแล้ว ฟังธรรมในสำนักของพระศาสดา ได้ศรัทธา ได้เป็นอุบาสิกา เวลาต่อมานางบวชในสำนักของพระมหาปชาบดีเถรี เจริญวิปัสสนาอยู่ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า๑- ในพระนครพันธุมดีมีกษัตริย์พระนามว่าพันธุมราช ข้าพเจ้าเป็นมเหสีของท้าวเธอ ประพฤติร่วมกัน ในกาลนั้นข้าพเจ้าอยู่ในที่ลับนั่งคิดอย่างนี้ว่า บุญกุศลที่จะพาเราไปไม่ได้ทำไว้เลย เราจะต้องตกนรกที่มีความเร่าร้อนมาก ทั้งเผ็ดร้อนร้ายแรงแสนทารุณเป็นแน่ เราไม่สงสัยในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระราชากราบทูล คำนี้ว่า ขอพระองค์โปรดประทานสมณะองค์หนึ่งแก่หม่อมฉัน หม่อมฉันจักให้ท่านฉัน พระเจ้าข้า. พระราชาผู้ใหญ่ได้ประทานสมณะผู้อบรมอินทรีย์แล้วแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารับบาตรของท่าน เอา สิ่งที่ใจปรารถนาได้เกิดแก่ข้าพเจ้าสมปรารถนา ข้าพเจ้าได้เป็นมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๒๐ องค์ ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ตนเองท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่ ข้าพเจ้าพ้นจากเครื่องผูกพันทุกอย่างแล้ว มีการอุบัติไปปราศแล้ว อาสวะทุกอย่างหมดสิ้นแล้ว บัดนี้ภพใหม่มิได้มี. ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ ข้าพเจ้าได้ให้ทานใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้นข้าพ ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๑๔๖ เอกปิณฑปาตทายิกาเถรีอปทาน ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว พิจารณาการปฏิบัติของตนได้กล่าวคาถาสองคาถานี้เป็นอุทานว่า ข้าพเจ้าปรารถนาเทพนิกาย เข้าจำอุโบสถประกอบ ด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ๘ ค่ำแห่ง ปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ วันนี้ข้าพเจ้ามีภัตตาหาร มื้อเดียว มีศีรษะโล้น ห่มผ้าสังฆาฏิ ไม่ปรารถนาเทพนิกาย ข้าพเจ้ากำจัดความกระวนกระวายในหทัยได้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จาตุทฺทสึ ปญฺจทสึ ได้แก่ ดิถีเป็นที่เต็มแห่งวัน ๑๔ ชื่อจาตุททสี. ดิถีเป็นที่เต็มแห่งวัน ๑๕ ชื่อปัญจทสี. ตลอดวันจาตุททสี ๑๔ ค่ำและวันปัญจทสี ๑๕ ค่ำ นั้นเชื่อมความว่าแห่งปักษ์. ก็บทนี้เป็นทุติยาวิภัตติใช้ในอรรถอัจจันตสังโยค (แปลว่า ตลอด) ประกอบความว่าตลอดดิถีที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นด้วย. บทว่า ปาฏิ หาริยปกฺขญฺจ ได้แก่ ปักษ์สำหรับผู้รักษาอุโบสถ และปักษ์แห่งอุโบสถศีลที่พึงรักษาในวัน ๑๓ ค่ำ แรม ๑ ค่ำ ๗ ค่ำและ ๙ ค่ำ โดยวันต้นเป็นวันเข้า วันสุดท้ายเป็นวันออกตามลำดับของวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำและ ๘ ค่ำ. อฏฺฐงฺคสุสมาคตํ ความว่า ประกอบด้วยดีด้วยองค์ ๘ ประการมีเจตนางดเว้นจากปาณาติบาตเป็นต้น. อุโปสถํ อุปาคจฺฉึ แปลว่า เข้าไปอยู่จำ. ความว่า อยู่จำ. ที่ท่านกล่าวหมายถึงว่า ไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ไม่พึงกล่าวเท็จ ไม่พึงดื่มน้ำเมา พึงงดเว้นเมถุนซึ่งมิใช่ พรหมจรรย์ ไม่พึงบริโภควิกาลโภชน์ในราตรี ไม่พึงทัด ทรงดอกไม้และใช้ของหอม พึงนอนบนเตียง บนแผ่น ดิน หรือบนสันถัตเครื่องปูลาด บัณฑิตทั้งหลายกล่าว อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แหละที่พระพุทธเจ้าทรง ประกาศเพื่อคุณคือความสิ้นทุกข์.๒- ____________________________ ๒- องฺ. ติก. เล่ม ๒๐/ข้อ ๕๑๐ อุโบสถสูตร บทว่า เทวกายาภินนฺทินี ประกอบความว่า ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่งซึ่งเทพนิกายมีชั้นจาตุมหาราชเป็นต้น จึงเข้าจำอุโบสถ เพราะหวังเกิดในเทพนิกายนั้น. บทว่า สาชฺช เอเกน ภตฺเตน ความว่า ข้าพเจ้านั้นวันนี้ คือในวันนี้แหละ มีเวลาบริโภคภัตตาหารหนเดียว. บทว่า มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา ความว่า โกนผมและคลุมร่างกายด้วยผ้า บทว่า เทวกายํ น ปตฺเถหํ ความว่า ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาเทพนิกายอะไรๆ เพราะแม้มรรคอันเลิศข้าพเจ้าก็บรรลุแล้ว. เพราะเหตุนั้นแหละจึงกล่าวว่า วิเนยฺย หทเย ทรํ ความว่า กำจัดความ จบอรรถกถามิตตาเถรีคาถาที่ ๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา ทุกนิบาต ๗. มิตตาเถรีคาถา จบ. |