ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 428อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 429อ่านอรรถกถา 26 / 430อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา ทุกนิบาต
๑๐. สามาเถรีคาถา

               ๑๐. อรรถกถาสามาเถรีคาถา               
               คาถาว่า จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุํ เป็นต้นเป็นคาถาของพระเถรีชื่อสามา.
               แม้พระเถรีชื่อสามานี้ก็ได้สร้างสมบุญบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ท่องเที่ยวอยู่ในในสุคติทั้งหลายนั่นแล ในพุทธุปปาทกาลนี้ เกิดในตระกูลคฤหบดีมหาศาลในกรุงโกสัมพี มีชื่อว่าสามา.
               นางสามานั้นรู้ความแล้ว เป็นสหายรักของอุบาสิกาสามาวดี เมื่ออุบาสิกาสามาวดีตาย เกิดความสังเวช บวชครั้นบวชแล้วไม่อาจบรรเทาความโศกที่เกิดขึ้นเพราะนึกถึงอุบาสิกาสามาวดี จึงไม่อาจยึดเอาอริยมรรคไว้ได้.
               กาลต่อมา นางได้ฟังโอวาทของพระอานนทเถระผู้นั่งอยู่บนอาสนศาลา เริ่มตั้งวิปัสสนา ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ในวันที่ ๗ แต่วันนั้น.
               ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว พิจารณาการปฏิบัติของตน เมื่อประกาศการปฏิบัตินั้น ได้กล่าวคาถาสองคาถาเป็นอุทานว่า
                         เราทำใจให้อยู่ในอำนาจไม่ได้ จึงไม่ได้ความ
               สงบใจต้องเข้าออกจากวิหาร ๔ ครั้ง ๕ ครั้ง เรานั้น
               ถอนตัณหาขึ้นแล้วในวันที่ ๘ จากวันที่ได้รับโอวาท
               ของพระอานนทเถระ เราอันความทุกข์เป็นอันมากถูก
               ต้องแล้ว ยินดีแล้วในความไม่ประมาท บรรลุความ
               สิ้นตัณหาแล้ว ได้ปฏิบัติคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุํ วิหารา อุปนิกฺขมึ ความว่า
               เรานั่งมนสิการวิปัสสนาอยู่ในวิหารอันเป็นที่อยู่ของเรา ไม่อาจทำสมณกิจให้ถึงที่สุดได้ จึงคิดว่า วิปัสสนาของเราสืบต่อกับมรรค ไม่ได้เพราะไม่มีฤดูเป็นที่สบายหรือหนอ ได้ออกนอกวิหารซึ่งเป็นที่พักพิง ๔ ครั้ง ๕ ครั้ง รวมเป็น ๙ ครั้ง เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า อลทฺธา เจตโส สนฺตึ จิตฺเต อวสวตฺตินี ดังนี้.
               บทว่า เจตโส สนฺตึ ในคาถานั้น ท่านกล่าวหมายอริยมรรคสมาธิ.
               บทว่า จิตฺเต อวสวตฺตินี ความว่า ทำภาวนาจิตของเราให้เป็นไปในอำนาจไม่ได้ เพราะไม่มีความเพียรสม่ำเสมอ.
               ได้ยินว่า พระเถรีนั้นประคับประคองความเพียรมากเกินไป.
               บทว่า ตสฺสา เม อฏฺฐมี รตฺติ ความว่า
               พระเถรีไม่เกียจคร้านทั้งกลางคืนทั้งกลางวัน เจริญวิปัสสนาตั้งแต่ได้รับโอวาทในสำนักของพระอานนทเถระ ออกจากวิหารคืนหนึ่ง ๔-๕ ครั้ง ยังมนสิการให้เป็นไป ไม่บรรลุคุณวิเศษ ในราตรีที่ ๘ ได้ความเพียรสม่ำเสมอ ทำกิเลสทั้งหลายให้สิ้นไปตามลำดับมรรค เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ตสฺสา เม อฏฺฐมี รตฺติ ยโต ตณฺหา สมูหตา ดังนี้.
               คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.

               จบอรรถกถาสามาเถรีคาถาที่ ๑๐               
               จบอรรถกถาทุกนิบาต               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา ทุกนิบาต ๑๐. สามาเถรีคาถา จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 428อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 429อ่านอรรถกถา 26 / 430อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=9037&Z=9044
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=34&A=1176
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=34&A=1176
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :