พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภกุฎุมพีคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อิงฺฆ เอกํ ปทํ ตาต ดังนี้.
ได้ยินว่า กุฎุมพีผู้หนึ่งชาวกรุงสาวัตถี
อยู่มาวันหนึ่ง บุตรของเขานั่งอยู่บนตักได้ถามปัญหาชื่อว่า อัตถทวาร คือปัญหากล่าวถึงประตูไปสู่ประโยชน์.
เขาคิดว่า ปัญหานี้เป็นพุทธวิสัย คนอื่นจักไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้ จึงพาบุตรไปสู่เชตวันมหาวิหาร
ถวายบังคมพระศาสดา กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทารกนี้นั่งอยู่บนตักของข้าพระองค์
ได้ถามปัญหาชื่ออัตถทวาร ข้าพระองค์ไม่ทราบปัญหานั้นจึงมา ณ ที่นี้ ข้าแต่พระองค์ ขอพระองค์ตรัสบอกปัญหานี้เถิด.
พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนอุบาสก ทารกนี้เป็นผู้แสวงประโยชน์ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้เมื่อก่อนก็เป็นผู้แสวงหาประโยชน์ได้ถามปัญหานี้กะบัณฑิต
แม้โบราณกบัณฑิตก็ได้บอกแก่ทารกนั้นแล้ว แต่เขากำหนดไว้ไม่ได้ เพราะไปสู่ภพขีดคั่นไว้ ทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลเศรษฐี ครั้งนั้น กุมารน้อยผู้เป็นบุตรของพระโพธิสัตว์ถามขึ้นว่า
ข้าแต่พ่อ ขอพ่อจงบอกบทบทหนึ่งอันเป็นทางให้ถึงประโยชน์ไม่ใช่น้อย เพียงเหตุเดียวเท่านั้นแก่ลูก
ได้กล่าวคาถาแรกว่า :-
คุณพ่อครับ เหตุอย่างเดียวทำให้ได้ประโยชน์หลายอย่างมีอยู่หรือไม่
ลูกจะพึงทำประโยชน์ให้สำเร็จด้วยเหตุใด ขอคุณพ่อจงบอกเหตุนั้น ซึ่งรวมประโยชน์ได้หลายอย่างแก่ผมเถิด.
ลำดับนั้น บิดา เมื่อจะบอกแก่กุมารน้อยนั้นได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ลูกเอ๋ย เหตุอย่างหนึ่งคือความขยันหมั่นเพียร ทำให้ได้ประโยชน์หลายอย่าง
เพราะความขยันหมั่นเพียรนั้น ประกอบด้วยศีล ประกอบด้วยขันติ อาจทำมิตรทั้งหลายให้ถึงความสุข หรืออาจทำศัตรูทั้งหลายให้ถึงความทุกข์ได้.
อธิบายความ บทบทหนึ่ง คือความขยัน ได้แก่ความเพียรอันประกอบด้วยญาณ
บุคคลผู้เฉลียวฉลาด ผู้ยังลาภให้เกิด ประกอบด้วยบทมีประโยชน์มิใช่น้อย มีศีลเป็นต้น ก็ความเพียรนี้นั้นประกอบด้วยอาจาระและศีล พรั่งพร้อมด้วยอธิวาสนขันติ
อาจสามารถจะยังมิตรทั้งหลายให้เป็นสุขได้ ให้เกิดความทุกข์แก่อมิตรทั้งหลายได้
ก็ใครเล่าผู้ประกอบด้วยกุศล วิริยะ พรั่งพร้อมด้วยญาณอันจะยังลาภให้บังเกิด ถึงพร้อมด้วยอาจารขันติ จะสามารถยังมิตรให้เป็นสุข หรือยังอมิตรให้เป็นทุกข์ได้.
พระโพธิสัตว์กล่าวแก้ปัญหาแก่บุตรฉะนี้ บุตรนั้นได้ยังประโยชน์ของตนให้สำเร็จตามนัยที่บิดาบอก ดำรงชีพไปตามยถากรรมแล้ว.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจธรรม ทรงประชุมชาดก.
ครั้นจบสัจจธรรม บิดาและบุตรดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล
บุตรในครั้งนั้น ได้มาเป็น บุตรคนนี้ นี่แหละ
ส่วนเศรษฐีกรุงพาราณสี คือ เราตถาคต นี้แล.
จบ อรรถกถาเอกปทชาดกที่ ๘
-----------------------------------------------------
.. อรรถกถา เอกปทชาดก ว่าด้วย ความเพียรทำให้เกิดประโยชน์หลายอย่าง จบ.
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=1848&Z=1857
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=37&A=6234
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=37&A=6234
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]