ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 391 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 394 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 397 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา ขุรัปปชาดก
ว่าด้วย ถึงคราวกล้าควรกล้า

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุผู้สละความเพียรรูปหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ทิสฺวา ขุรปฺเป ดังนี้
               ความว่า พระศาสดาทรงตรัสกะภิกษุนั้นผู้ถูกนำมาในโรงธรรมสภาว่า ได้ยินว่า เธอสละความเพียรจริงหรือ เมื่อภิกษุนั้นกราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอบวชในศาสนาอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์อย่างนี้ เพราะเหตุไรจึงละความเพียรเสีย โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่สละความเพียร แม้ในฐานะไม่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
               ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลผู้รักษาดงแห่งหนึ่ง พอเจริญวัยมีบุรุษ ๕๐๐ เป็นบริวาร เป็นหัวหน้าคนทั้งปวง ในบรรดาคนผู้รักษาดง สำเร็จการอยู่ในบ้านแห่งหนึ่งที่ปากดง. ก็หัวหน้าผู้รักษาดงนั้นรับจ้างพาพวกมนุษย์ให้ข้ามดง.
               ครั้นวันหนึ่ง บุตรพ่อค้าชาวเมืองพาราณสีกับเกวียน ๕๐๐ เล่มมาถึงบ้านนั้น เรียกหัวหน้าผู้รักษาดงนั้นมาพูดว่า ดูก่อนสหาย ท่านจงรับทรัพย์ ๑,๐๐๐ แล้วพาเราให้ข้ามพ้นดง เขารับคำแล้วถือเอาทรัพย์ ๑,๐๐๐ จากมือของบุตรพ่อค้านั้น เมื่อรับค่าจ้างอย่างนี้ จะต้องสละชีวิตเพื่อบุตรพ่อค้านั้น เขาพาบุตรพ่อค้านั้นเข้าดง.
               พวกโจร ๕๐๐ ซุ่มอยู่กลางดง บุรุษที่เหลือพอแลเห็นพวกโจรเท่านั้นพากันนอนราบ. หัวหน้าผู้อารักขาคนเดียวเท่านั้นเปล่งสีหนาท วิ่งเข้าประหัตประหารให้พวกโจร ๕๐๐ หนีไป ให้บุตรพ่อค้าข้ามพ้นทางกันดารโดยปลอดภัย.
               ฝ่ายบุตรพ่อค้าให้หมู่เกวียนพักอยู่ในที่ห่างไกลทางกันดารแล้ว ให้หัวหน้าผู้อารักขาบริโภคโภชนะมีรสเลิศต่างๆ ส่วนตนเองบริโภคอาหารเช้า แล้วนั่งสบาย เจรจาอยู่กับหัวหน้าผู้อารักขานั้น เมื่อจะถามว่า ดูก่อนสหาย ในเวลาที่พวกโจรผู้ร้ายกาจเห็นปานนั้นจับอาวุธกรูเข้ามา เพราะเหตุไรหนอ แม้ความสะดุ้งตกใจกลัวก็ไม่เกิดขึ้น.
               จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-
               เมื่อท่านเห็นพวกโจรยิงลูกธนูอันแหลมคม ถือดาบอันคมกล้าซึ่งขัดด้วยน้ำมัน เมื่อมรณภัยปรากฏเฉพาะหน้าแล้ว เหตุไฉนหนอ ท่านจึงไม่มีความครั่นคร้าม.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ธนุเวคนุณฺเณ ได้แก่ยิงไปด้วยกำลังลูกธนู.
               บทว่า ขคฺเค คหิเต ได้แก่ถือดาบด้ามงาอย่างกระชับ.
               บทว่า มรเณ วิรุฬฺเห ได้แก่เมื่อความตายปรากฏ.
               บทว่า กสฺมา นุ เต นาหุ ความว่า เพราะเหตุไรหนอ ท่านจึงไม่มีความสะดุ้งตกใจ.
               บทว่า ฉมฺภิตตฺตํ ได้แก่ตัวสั่น.

               หัวหน้าผู้ทำหน้าที่อารักขาได้ฟังดังนั้นจึงได้กล่าวคาถา ๒ คาถานอกนี้ว่า :-
               เมื่อเราเห็นพวกโจรยิงลูกธนูอันแหลมคม ถือดาบอันคมกล้าซึ่งขัดแล้วด้วยน้ำมัน เมื่อมรณภัยปรากฏเฉพาะหน้าแล้ว เรากลับได้ความยินดีและความโสมนัสมากยิ่ง.
               เรานั้นเกิดความยินดีและโสมนัสแล้ว ก็ครอบงำศัตรูทั้งหลายเสียได้ เพราะว่าชีวิตของเรา เราได้สละมาแต่ก่อนแล้ว ก็บุคคลผู้กล้าหาญ เมื่อทำความอาลัยในชีวิตอยู่ จะพึงกระทำกิจของคนผู้กล้าหาญในกาลบางคราวหาได้ไม่.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เวทํ อลตฺถํ คือกลับได้ความยินดีและโสมนัส. บทว่า วิปุลํ แปลว่า มาก. บทว่า อุฬารํ แปลว่า ยิ่ง. บทว่า อชฺฌภวึ ได้แก่ บริจาคชีวิตครอบงำแล้ว บทว่า ปุพฺเพว เม ชีวิตมาสิ จตฺตํ ความว่า เพราะว่าเราเมื่อรับค่าจ้างจากมือของท่านในตอนก่อนนั่นแล ได้สละชีวิตแล้ว.
               บทว่า น หิ ชีวิเต อาลยํ กุพฺพมาโน ความว่า บุคคลผู้กล้าหาญ เมื่อยังกระทำเสน่หา ความยินดีในชีวิตอยู่ จะพึงทำกิจของผู้กล้าหาญ แม้ในกาลบางคราว หาได้ไม่.

               หัวหน้าผู้ทำหน้าที่อารักขานั้นทำบุตรของพ่อค้าให้รู้ว่าตนได้ทำกิจของคนกล้าหาญแล้ว เพราะได้สละความยินดีในชีวิตซึ่งสละให้ไว้ในอำนาจของคนอื่น ได้ส่งบุตรพ่อค้าไปแล้ว กลับมายังบ้านของตนตามเดิม ทำบุญทั้งหลายมีทานเป็นต้น ไปตามยถากรรมแล้ว.

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะแล้ว ทรงประชุมชาดก. ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้สละความเพียรดำรงอยู่ในพระอรหัต.
               ก็หัวหน้าคนทำการอารักขาในกาลนั้น คือ เราตถาคต ฉะนี้แล.


               จบ อรรถกถาขุรัปปชาดกที่ ๕               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุรัปปชาดก ว่าด้วย ถึงคราวกล้าควรกล้า จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 391 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 394 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 397 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=2158&Z=2169
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=38&A=1608
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=38&A=1608
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๒  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :