ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 905 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 911 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 917 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา สูจิชาดก
ว่าด้วย เข็ม

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภปัญญาบารมีแล้ว จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า อกกฺกสํ ดังนี้.
               เรื่องจักมีแจ้งชัดใน มหาอุมมังคชาดก.
               ก็ในคราวครั้งนั้น พระศาสดาได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่เฉพาะแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ตถาคตก็เป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้ฉลาดในอุบายทีเดียว. แล้วได้ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
               ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดในตระกูลช่างเหล็ก ในแคว้นกาสี เติบใหญ่แล้วได้เป็นผู้สำเร็จศิลปะ. แต่มารดาบิดาของท่านเป็นคนยากจน.
               ในที่ไม่ไกลจากบ้านของมารดาบิดาของท่านนั้นมีหมู่บ้านช่างเหล็กหมู่อื่นพันหลังคาเรือน ช่างเหล็กผู้เป็นหัวหน้าช่างเหล็กพันหลังคาเรือนในหมู่บ้านนั้น เป็นราชวัลลภผู้มั่งคั่งมีทรัพย์มาก. เขามีธิดาคนหนึ่ง มีรูปโฉมสวยสุด เทียมสาวสวรรค์ ประกอบด้วยลักษณะของนางงามชนบท.
               คนทั้งหลายในหมู่บ้านรอบๆ บ้านพากันมาถึงหมู่บ้านนั้นเพื่อต้องการจ้างตีมีดตีขวานและหล่อผาลไถนา โดยมากก็เห็นหญิงสาวคนนั้น. พวกเขากลับไปบ้านของตนๆ แล้วสรรเสริญรูปโฉมของนาง ในที่นั่งและที่ยืนเป็นต้น.
               พระโพธิสัตว์ได้ยินคำชมนั้นแล้วติดใจ เพราะเกี่ยวข้องกับการได้ยิน จึงคิดว่า เราจักเอานางกุมาริกานั้นมาเป็นบาทบริจาริกา คือภริยา. แล้วได้เอาเหล็กเนื้อดีที่สุด ทำให้เป็นเล่มเข็มเล็ก สุขุมเล่มหนึ่ง เจาะห่วงก้นเข็ม แล้วถ่วงไว้ในน้ำ ทำกลักเข็มนั้นแบบเข็มนั่นแหละ อีกอันหนึ่งเจาะห่วงไว้ ได้ทำกลักเข็มนั้นโดยทำนองนี้ ๗ ชั้น. ไม่ควรพูดว่า ทำได้อย่างไร? ด้วยว่าเหตุการณ์สำเร็จได้ เพราะพระโพธิสัตว์มีความรู้มาก.
               พระโพธิสัตว์นั้นสอดเข็มนั้นไว้ในตลับ เก็บไว้ในชายพกแล้วไปหมู่บ้านนั้น ถามถึงถนนที่อยู่ของหัวหน้าช่างเหล็ก ไปถึงที่นั้นแล้วยืนที่ประตู กล่าวว่า ใครต้องการซื้อเข็มที่มีรูปร่างอย่างนี้จากมือของข้าพเจ้าด้วยมูลค่าดังนี้.
               เมื่อจะพรรณนาถึงเข็ม จึงได้ยืนใกล้ประตูเรือนหัวหน้าช่างเหล็กแล้วกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-

               ใครต้องการซื้อเข็มที่ไม่ขรุขระ ไม่หยาบขัดด้วยหินแข็ง มีรูสำหรับร้อยด้ายดี ทั้งเล่มเล็ก ทั้งมีปลายคม.


               คาถานั้นมีเนื้อความว่า ใครต้องการซื้อเข็มของเราที่ชื่อว่าไม่ขรุขระเพราะไม่มีปม ไฝฝ้าหรือรอย. ชื่อว่าไม่หยาบ เพราะเกลี้ยงเกลา. ชื่อว่า ขัดด้วยของแข็ง เพราะขัดแล้วด้วยของแข็ง คือของที่แก่น ได้แก่หิน. ชื่อว่ามีรูสำหรับร้อยด้ายดี เพราะประกอบด้วยห่วง คือรูร้อยที่ดีงาม คือหมดจดดี. ชื่อว่าเล็ก เพราะละเอียด. ชื่อว่ามีปลายคม เพราะคมที่ปลาย จากมือของเราโดยให้มูลค่าราคา.

               ก็แล ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว เมื่อจะพรรณนาถึงเข็มนั้นอีก จึงได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
               ใครต้องการซื้อเข็ม ที่ขัดดีแล้ว มีรูร้อยด้ายเรียบร้อย ที่ให้เป็นไปดีแล้วตามลำดับ ที่กัดทั่งทะลุและแข็งแกร่ง.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุมชฺชํ ความว่า ที่ขัดแล้วด้วยดีด้วยผงที่ได้จากแคว้นกุรุ. บทว่า สุปาสํ ความว่า ชื่อว่ามีห่วง คือรูก้นเข็มดี เพราะเจาะด้วยสว่านเจาะรูที่ละเอียด. บทว่า ฆนฆาติมํ ความว่า เข็มที่ถูกตีทะลุทั่งเข้าไปตามลำดับ นี้เรียกว่า ฆนฆาติมา อธิบายว่า เป็นเช่นนั้น. บทว่า ปฏิตฺถทฺธํ ความว่า แข็ง คือไม่อ่อน.

               ขณะนั้น นางกุมาริกานั้นกำลังใช้พัดใบตาลพัดบิดา ผู้รับประทานอาหารเช้า แล้วนอนอยู่บนที่นอนเล็ก เพื่อระงับความไม่สบาย ได้ยินเสียงที่ไพเราะของพระโพธิสัตว์ เหมือนเอาก้อนเนื้อสดฟาดหัวใจ และเหมือนถูกดับด้วยความร้อนอบอ้าวด้วยน้ำพันหม้อ สงสัยว่า นั่นใครหนอร้องขายเข็มที่หมู่บ้านเป็นที่อยู่ของช่างเหล็ก ด้วยเสียงไพเราะนัก? เขามาด้วยกิจกรรมอะไรหนอ ? เราจักรู้จักเขา แล้ววางพัดใบตาลไว้ ออกจากบ้านไปยืนที่เฉลียงข้างนอก พูดกับพระโพธิสัตว์นั้น. ตามธรรมดาความปรารถนาย่อมสำเร็จแก่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เพราะว่า ท่านมาหมู่บ้านนั้นก็เพื่อความต้องการหญิงสาวคนนั้นนั่นเอง.
               นางนั่นแหละ เมื่อจะพูดกับพระโพธิสัตว์นั้น จึงพูดว่า ข้าแต่มาณพ ชาวรัฐทั่วๆ ไป มาหมู่บ้านนี้เพื่อต้องการเข็มเป็นต้น แต่คุณมาเพื่อจะขายเข็มในบ้านช่างเหล็ก เพราะความโง่ ถ้าแม้นว่า คุณกล่าวสรรเสริญเข็มตลอดทั้งวันไซร้ ก็จักไม่มีใครรับเอาเข็มนั้นจากมือของคุณ ถ้าหากคุณอยากได้มูลค่าไซร้ ก็จงไปหมู่บ้านอื่น
               แล้วได้กล่าวคาถา ๒ คาถาว่า :-

               เดี๋ยวนี้ เข็มและเบ็ดทั้งหลายเป็นสินค้าออกไปจากบ้านนี้ นี้ใครต้องการขายเข็มในหมู่บ้านช่างเหล็ก

               ศัสตราทั้งหลายไปจากหมู่บ้านนี้ การงานมากอย่างต่างๆ ชนิดเป็นไปในหมู่บ้านนี้ นี้ใครควรจะขายเข็มในหมู่บ้านช่างเหล็ก.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อิโต ทานิ ความว่า เข็ม เบ็ดและเครื่องอุปกรณ์อื่นๆ ในรัฐนี้ ในขณะนี้ออกไปจากหมู่บ้านช่างเหล็กนี้. บทว่า ปตายนฺติ ความว่า ออกไป คือแผ่ไปตลอดวันนั้นๆ. บทว่า โกยํ ความว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครต้องการจะขายเข็มที่หมู่บ้านช่างเหล็กนี้. บทว่า สตฺถานิ ความว่า แม้ศัสตรานานาชนิด ที่มาสู่เมืองพาราณสี ก็ไปจากหมู่บ้านนี้นั่นเอง. บทว่า วิวิธา ปุถู ความว่า การงานนานาประการตั้งมากมาย เป็นไปอยู่ เพราะเครื่องอุปกรณ์ทั้งหลายที่ผู้อยู่ในรัฐทั้งสิ้น เอามาจากหมู่บ้านนี้เอง.

               พระโพธิสัตว์ได้ยินคำของนางแล้ว จึงกล่าวว่า น้องนางเอ๋ย น้องไม่รู้ เพราะไม่รู้จึงพูดอย่างนี้ แล้วได้กล่าวคาถา ๒ คาถาว่า :-

               ผู้ฉลาดจะต้องขายเข็มในหมู่บ้านช่างเหล็ก อาจารย์ช่างทั้งหลายจึงจะเข้าใจงานว่า ทำดีหรือไม่ดี.

               น้องนางเอ๋ย บิดาของเธอคงรู้เข็มเล่มนี้ที่เราทำแล้ว และคงจะเชื้อเชิญเราด้วยตัวเธอ และทรัพย์อย่างอื่นที่มีอยู่ในเรือน.


               ศัพท์ว่า สูจึ ในคาถานั้น ท่านกล่าววิภัติคลาดเคลื่อน คือกล่าวปฐมาวิภัติเป็นทุติยาวิภัติไป. มีคำอธิบายว่า ขึ้นชื่อว่า เข็ม ต้องคนฉลาด คือเป็นบัณฑิต จึงจะขายในหมู่บ้านช่างเหล็กได้นั่นแหละ. เพราะเหตุไร?
               บทว่า อาจริยา ปชานนฺติ กมฺมํ สุกตทุกฺกฏํ ความว่า ก็อาจารย์ช่างศิลปประเภทนั้นจึงจะรู้งานที่ทำดีหรือไม่ดีในศิลปประเภทนั้นๆ ถ้าหากเรานั้นไปบ้านคฤหบดีทั้งหลายผู้ไม่รู้งานของช่างเหล็ก จักให้เขารู้ได้อย่างไรว่าเราทำเข็มดีหรือไม่ดี? แต่ในบ้านนี้ ฉันจักให้ช่างทั้งหลายรู้กำลังของฉัน. พระโพธิสัตว์พรรณนากำลังของตน ด้วยคาถานี้อย่างนี้. บทว่า ตยา จ มํ นิมนฺเตยฺย ความว่า น้องนางเอ๋ย ถ้าบิดาของเธอพึงรู้เข็มเล่มที่ฉันทำนี้ว่า เข็มชนิดนี้หรือเล่มนี้เด่นอย่างนี้แล้วไซร้ ท่านคงจะเชิญฉันด้วยตัวเธออย่างนี้ว่า ฉันจะให้ธิดาคนนี้เป็นบาทบริจาริกาของคุณ ขอจงรับเอานาง ดังนี้ด้วย.
               บทว่า ยญฺจตฺถญฺญํ ฆเร ธนํ ความว่า ทรัพย์อย่างอื่นอันใดที่มีวิญญาณก็ตาม ไม่มีวิญญาณก็ตาม มีอยู่ในเรือน บิดาของเธอคงเชื้อเชิญฉันด้วยทรัพย์นั้นด้วย. ปาฐะว่า ยญฺจสฺสญฺญํ บ้าง ดังนี้ก็มี มีความหมายว่า ทรัพย์อย่างอื่นในเรือนของเขามีอยู่.

               หัวหน้าช่างเหล็กได้ยินถ้อยคำของคนทั้ง ๒ นั้นแล้ว จึงร้องเรียกธิดาว่า แม่หนูๆ แล้วถามว่า หนูเจรจากับใคร?
               พ่อ หนูเจรจากับชายคนหนึ่งที่ขายเข็ม ธิดาตอบ.
               ลูกจงเรียกเขามาหาพ่อ พ่อสั่ง
               นางจึงไปเรียก พระโพธิสัตว์นั้นจึงเข้าไปในบ้าน ไหว้หัวหน้าช่างเหล็กแล้วได้ยืนอยู่.
               ลำดับนั้น หัวหน้าช่างเหล็กนั้น จึงถามว่า พ่อคุณเป็นคนชาวบ้านไหน?
               ผมเป็นคนชาวบ้านโน้น เป็นลูกของช่างเหล็กชื่อโน้น พระโพธิสัตว์ตอบ.
               เหตุไฉนคุณจึงมาที่นี้ หัวหน้าช่างเหล็กซัก.
               มาเพื่อขายเข็มครับ พระโพธิสัตว์ตอบ.
               ขอดูเข็มของคุณซิ หัวหน้าช่างเหล็กพูด.
               พระโพธิสัตว์ต้องการจะประกาศคุณของตนท่ามกลางช่างทั้งหมด จึงถามว่า การดูท่ามกลางช่างทั้งหมดดีกว่าดูเป็นคนๆ ไปไม่ใช่หรือครับ?
               หัวหน้าช่างเหล็กตอบว่า ดีแล้วคุณ จึงสั่งให้ช่างเหล็กทั้งหมดมาประชุมกัน มีช่างเหล่านั้นแวดล้อมแล้วพูดว่า เอาออกมาเถอะคุณ พวกผมจะดูเข็มของคุณ.
               พระโพธิสัตว์ขอร้องว่า อาจารย์ครับ ขอให้นำทั่งมา ๑ อันกับถาดสัมฤทธิ์มีน้ำเต็มมา ๑ ใบ เขาก็ให้คนนำมาให้. พระโพธิสัตว์จึงนำตลับเข็มออกมาจากชายพกแล้ว ได้มอบให้ไป.
               หัวหน้าช่างเหล็กนำเข็มออกจากตลับนั้นแล้ว ถามว่า พ่อคุณ นี้หรือเข็ม?
               นี้ไม่ใช่เข็มนั่นเป็นกลักเข็ม พระโพธิสัตว์ตอบ.
               เขาพิจารณาดูแล้วไม่เห็นก้นไม่เห็นปลายเข็มเลย.
               พระโพธิสัตว์จึงให้นำมาแล้วเอาเล็บแคะกลักออกไป แสดงให้มหาชนเห็นว่า นี้เข็ม นี้กล่องเข็ม แล้ววางเข็มไว้ที่มือของอาจารย์ วางกล่องไว้ใกล้เท้า.
               ท่านถูกอาจารย์นั้นถามอีกว่า นี้เห็นจะเป็นเข็มนะพ่อคุณ จึงบอกว่า นี้ก็ไม่ใช่เข็ม เป็นกลักเข็มเหมือนกัน แล้วพลางเอาเล็บสะกิดออกวางกลักเข็ม ๖ กลักไว้ใกล้เท้าของช่างเหล็กตามลำดับแล้ว จึงวางเข็มไว้บนมือเขาโดยบอกว่า นี้เข็ม.
               ช่างเหล็กพันคนพากันดีดนิ้วปรบมือ? การชูผ้า เป็นไปแล้วคือโบกผ้า.
               ลำดับนั้น หัวหน้าช่างเหล็ก จึงได้ถามพระโพธิสัตว์นั้นว่า เข็มนี้มีกำลังอย่างไร?
               พระโพธิสัตว์ ข้าแต่ท่านอาจารย์ ขอให้ท่านใช้ให้ผู้ชายที่มีกำลังยกทั่งขึ้นแล้ว ให้วางถาดน้ำไว้ใต้ทั่งแล้วตอกเข็มนี้ลงกลางทั่งเถิด. เขาให้คนทำอย่างนั้นแล้วตอกปลายเข็มลงกลางทั่ง. เข็มนั้นทะลุทั่งลงไป วางขวางอยู่เหนือหลังน้ำ ไม่สูงไม่ต่ำ แม้ประมาณเท่าปลายผม.
               ช่างเหล็กทั้งหมดพูดว่า ชั่วเวลาถึงปานนี้พวกเราไม่เคยได้ยินได้ฟังเลยว่า ขึ้นชื่อว่าช่างเหล็กทั้งหลายเช่นนี้มีอยู่ แล้วพากันปรบมือ ชูผ้าขึ้นเป็นพันๆ หัวหน้าช่างเหล็กเรียกธิดาให้มาหา และประกาศท่ามกลางบริษัทนั้นเองว่า กุมาริกานี้สมควรแก่คุณเท่านั้น แล้วได้หลั่งน้ำใส่มือมอบให้. ในเวลาต่อมาพระโพธิสัตว์นั้น ได้เป็นหัวหน้าช่างเหล็กแทนในหมู่บ้านนั้น โดยที่หัวหน้าช่างเหล็กล่วงลับไปแล้ว.

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะ แล้วทรงประชุมชาดกว่า
               ธิดาของหัวหน้าช่างเหล็กในกาลครั้งนั้น ได้เป็น มารดาพระราหุล ในบัดนี้
               ส่วนหัวหน้าคือ เราตถาคต ฉะนี้แล.

               จบ อรรถกถาสูจิชาดกที่ ๒

.. อรรถกถา สูจิชาดก ว่าด้วย เข็ม จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 905 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 911 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 917 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=4091&Z=4106
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=39&A=1420
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=39&A=1420
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๙  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :