บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ท่านได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ บรรลุ ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ เสด็จไป พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยในขณะที่เขากำลังมองดูอยู่นั่นแล เพื่อให้เขาเกิดความโสมนัสแล้ว ประทับยืนในอากาศ ตรัสแสดงอานิสงส์แห่ง ด้วยบุญอันนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวโลกแลมนุษยโลก ได้เสวยสมบัติทั้งสองแล้ว. ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดในเรือนอันมีสกุลแห่งหนึ่ง ซึ่งสมบูรณ์ด้วยสมบัติ เพียงอายุได้ ๗ ปีเท่านั้นก็บรรลุพระอรหัต ได้ระลึกถึงกุศลกรรมที่ตนเคยทำไว้ใน พึงทราบวิเคราะห์ในบทนั้นดังนี้ ชื่อว่า อชฺฌายิ เพราะย่อมศึกษา คือ ย่อมคิด, อชฺฌายิ ก็คือ อชฺฌายโก แปลว่า ผู้ศึกษาเล่าเรียน. จริงอยู่ อ อักษรในบทว่า อชฺฌายโก นี้ย่อมเป็นไปในอรรถ ๑๐ ประการ ดังที่ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ว่า อ อักษรเป็นไปในอรรถปฏิเสธ ในความเจริญ ในความเป็นเช่นนั้น ฯลฯ ในความว่างเปล่า และในอรรถว่า เล็กน้อย. อธิบายว่า อชฺฌายโก ก็คือเป็นคนช่างคิด เพราะอรรถว่าย่อมศึกษาเล่าเรียน ย่อมคิดถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ย่อมทำการสาธยาย ด้วยวิธีฟังและจำเป็นต้นของพวกศิษย์. ชื่อว่า มันตธโร เพราะอรรถว่าย่อมทรงจำ ทบทวนร่ายมนต์ทั้งหมดตามที่ศึกษาเล่าเรียนในสำนักของอาจารย์ได้จนขึ้นใจ. บทว่า ติณฺณํ เวทาน ปารคู ความว่า ญาณท่านก็เรียกอย่างนี้เหมือนกัน. ที่เรียกว่าเวท เพราะพึงทราบ คือพึงตรัสรู้ได้ด้วยเวท. คัมภีร์ทั้ง ๓ คือ อิรุพเวท ยชุรเวท สามเวท. ชื่อว่าปารคู เพราะบรรลุถึงฝั่ง คือที่สุดยอดแห่งเวททั้ง ๓ เหล่านั้น. คำที่เหลือมีเนื้อความปรากฏชัดแล้วทั้งหมดแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๓. เสเรยยกวรรค ๗. ผลทายกเถราปทาน (๑๒๗) จบ. |