ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 32 / 1อ่านอรรถกถา 32 / 171อรรถกถา เล่มที่ 32 ข้อ 172อ่านอรรถกถา 32 / 173อ่านอรรถกถา 32 / 412
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๗. สุปาริจริยวรรค
๑๐. ปัญจังคุลิยเถราปทาน (๑๗๐)

               ๑๗๐. อรรถกถาปัญจังคุลิยเถราปทาน               
               อปทานของท่านพระปัญจังคุลิยเถระมีคำเริ่มต้นว่า ติสฺโส นามาสิ ภควา ดังนี้.
               พระเถระแม้นี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นประจำเสมอ.
               ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าติสสะ ท่านได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว ดำรงอยู่ในเพศฆราวาส สมบูรณ์ด้วยสมบัติ มีศรัทธาเลื่อมใส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระราชดำเนินไปตามหนทางเข้าไปยังพระวิหาร ได้ถือเอาดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลากชนิดเช่นดอกมะลิเป็นต้นและเครื่องลูบไล้มีผลไม้จันทน์เป็นต้นแล้ว ไปยังพระวิหาร เอาดอกไม้ทั้งหลายบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วเอานิ้วทั้ง ๕ แตะเครื่องลูบไล้ ลูบทาที่พระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ถวายบังคมหลีกไป.
               ด้วยบุญอันนั้น เขาจึงได้เสวยสมบัติทั้งสองในเทวโลกและมนุษยโลกแล้ว.
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่งซึ่งสมบูรณ์ด้วยสมบัติ เจริญวัยแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีใจเลื่อมใส บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.
               เมื่อจะระลึกถึงบุพกรรมของตนก็ทราบได้อย่างแจ่มชัด เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อนว่า เราได้บำเพ็ญกุศลกรรมชื่อนี้ไว้ จึงได้รับโลกุตรสมบัติเช่นนี้แล จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ติสฺโส นามาสิ ภควา ดังนี้.
               คำที่เหลือทั้งหมดนั้นมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
               จบอรรถกถาปัญจังคุลิยเถราปทาน               
               จบอรรถกถาสุปาริจริยวรรคที่ ๑๗               
               -----------------------------------------------------               

               รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
                         ๑. สุปาริจริยเถราปทาน
                         ๒. กณเวรปุปผิยเถราปทาน
                         ๓. ขัชชทายกเถราปทาน
                         ๔. เทสปูชกเถราปทาน
                         ๕. กณิการฉทนิยเถราปทาน
                         ๖. สัปปิทายกเถราปทาน
                         ๗. ยุธิกปุปผิยเถราปทาน
                         ๘. ทุสสทายกเถราปทาน
                         ๙. สมาทปกเถราปทาน
                         ๑๐. ปัญจังคุลิยเถราปทาน
               มีคาถา ๕๔ คาถา ฉะนี้แล.

               จบสุปาริจริยวรรคที่ ๑๗               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๗. สุปาริจริยวรรค ๑๐. ปัญจังคุลิยเถราปทาน (๑๗๐) จบ.
อ่านอรรถกถา 32 / 1อ่านอรรถกถา 32 / 171อรรถกถา เล่มที่ 32 ข้อ 172อ่านอรรถกถา 32 / 173อ่านอรรถกถา 32 / 412
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=32&A=4519&Z=4541
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=4609
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=4609
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๓  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :