บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าติสสะ ท่านได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญ ด้วยบุญอันนั้น เขาจึงได้เสวยสมบัติทั้งสองในเทวโลกและมนุษยโลกแล้ว. ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่งซึ่งสมบูรณ์ด้วยสมบัติ เจริญวัยแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีใจเลื่อมใส บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์. เมื่อจะระลึกถึงบุพกรรมของตนก็ทราบได้อย่างแจ่มชัด เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อนว่า เราได้บำเพ็ญกุศลกรรมชื่อนี้ไว้ จึงได้รับโลกุตรสมบัติเช่นนี้แล จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ติสฺโส นามาสิ ภควา ดังนี้. คำที่เหลือทั้งหมดนั้นมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล. จบอรรถกถาสุปาริจริยวรรคที่ ๑๗ ----------------------------------------------------- รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ ๑. สุปาริจริยเถราปทาน ๒. กณเวรปุปผิยเถราปทาน ๓. ขัชชทายกเถราปทาน ๔. เทสปูชกเถราปทาน ๕. กณิการฉทนิยเถราปทาน ๖. สัปปิทายกเถราปทาน ๗. ยุธิกปุปผิยเถราปทาน ๘. ทุสสทายกเถราปทาน ๙. สมาทปกเถราปทาน ๑๐. ปัญจังคุลิยเถราปทาน มีคาถา ๕๔ คาถา ฉะนี้แล. จบสุปาริจริยวรรคที่ ๑๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๗. สุปาริจริยวรรค ๑๐. ปัญจังคุลิยเถราปทาน (๑๗๐) จบ. |