บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
๑- บาลีเป็น อายาตทายกเถราปทาน. อปทานของท่านพระอายาค พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญญาธิการในพระพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญบุญจนตลอดอายุ ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนั้นแล เสวยสมบัติทั้งสอง ในพุท ด้วยอำนาจบุญที่ท่านบำเพ็ญไว้ในกาลก่อน จึงปรากฏนามว่า อายาคทายกเถระ ดังนี้. ท่านบรรลุพระอรหัตด้วยอำนาจบุญสมภารที่ท่านบำเพ็ญมาด้วยอาการอย่างนี้ ระลึกถึงกุศลกรรมที่ตนบำเพ็ญในกาลก่อน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นิพฺพุเต ความว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้ประเสริฐสูงสุดในระหว่างแห่งศาสดาอื่นผู้กล่าวว่า เราทั้งหลายเป็น บทว่า หฏฺโฐ หฏฺเฐน จิตฺเตน ความว่า เราหรรษาร่าเริง มีจิตร่าเริงเพราะความที่ตนมีจิตสัมปยุตด้วยโสมนัส ได้ไหว้คือนอบน้อมพระสถูปอันสูงสุด คือพระเจดีย์อันประเสริฐ. บทว่า วฑฺฒกีหิ ปถาเปตฺวา ความว่า ให้กล่าวประมาณการว่า โรงฉันนี้มีประมาณ บทว่า มูลํ ทตฺวานหํ ตทา ความว่า ในครั้งนั้นคือในกาลนั้น เราได้ให้ค่าจ้างแก่นายช่างไม้เหล่านั้น เพื่อประโยชน์แก่การทำกรรม ยินดีคือมีจิตสัมปยุตด้วยโสมนัส ได้ก่อสร้างโรงฉันยาวรี. คำที่เหลือมีอรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๔. กุณฑธานวรรค ๘. อายาตทายกเถราปทาน (๓๘) จบ. |