บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ. ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสี บังเกิดในกำเนิดแห่งวานร ได้เป็นพญาลิงอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์. สมัยนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสี ได้เสด็จไปป่าหิมพานต์เพื่ออนุเคราะห์แก่ท่าน. ลำดับนั้น พญาลิงนั้นเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว มีใจเลื่อมใส ได้ถวายผลมะม่วงมีรสอร่อยดี พร้อมน้ำผึ้งเล็กน้อย. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อท่านกำลังเฝ้าอยู่นั่นแล ได้เสวยสิ่งทั้งหมดนั้น แล้วตรัสอนุโมทนาแล้วเสด็จหลีกไป. ลำดับนั้น ท่านมีหทัยเพียบพร้อมด้วยโสมนัสดำรงอยู่จนตลอดอายุ เพราะมีปีติและ ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลอันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็บรรลุอภิญญา ๖ ท่านปรากฏตามนามแห่งบุญที่บำเพ็ญไว้ในกาลก่อนว่า อัมพทายกเถระ ดังนี้. ครั้นต่อมา ท่านได้เห็นพืชแห่งกุศลที่ตนบำเพ็ญมา เกิดโสมนัส เมื่อจะ บทว่า เมตฺตาย อผริ โลเก อปฺปมาเณ นิรูปธิ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงมีเมตตา คือมีจิตประกอบด้วยเมตตา ทรงนำสัตว์โลกทั้งปวงคือสัตว์หาประมาณมิได้ ให้ปราศจากอุปธิกิเลสคือให้เว้นจากอุปธิกิเลส โดยนัยมีอาทิว่า ขอสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข แล้วแผ่คือแผ่ออกเจริญ บทว่า กปิ อหํ ตถา อาสึ ความว่า ในกาลนั้นคือในกาลที่พระ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๗. สกจิตตนิยวรรค ๘. อัมพทายกเถราปทาน (๖๘) จบ. |