![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ว่าด้วยสัมปยุตตธรรม ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายราชคิริกะ และสิทธัตถิกะทั้งหลายว่า ธรรมทั้งหลายมีเวทนาเป็นต้น ไม่เข้าไปตามแล้ว คือไม่เกิดร่วมในสัญญาเป็นต้น เหมือนน้ำมันซับอยู่ซึมอยู่ในงา เพราะธรรมไรๆ ไม่สัมปยุตกับธรรมไรๆ ครั้นเมื่อความเป็นเช่นนี้มีอยู่ คำว่า สัมปยุตแล้วด้วยญาณเป็นต้นนี้ก็หาประโยชน์มิได้ ดังนี้. คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น เพื่อแสดงสัมปยุตตธรรมด้วยอรรถอัน ๑ ที่สัมปยุตกันได้นั่นแหละ คำตอบรับรองเป็นของปรวาทีด้วยสามารถแห่งลัทธิของตน. คำที่เหลือในที่นี้มีอรรถง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัยเหมือนกับที่กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแหละ. อนึ่ง อุปมาปัญหาใดว่า น้ำมันซับอยู่ซึมอยู่ในงา เป็นต้นที่ปรวาทีนำมาแล้ว อุปมาปัญหานั้นไม่มีความกำหนดความต่างกันจากลักษณะของงาและน้ำมัน เหมือนเวทนาและสัญญา. จริงอยู่ คำว่า งาจะเป็นเมล็ดงาหรือเปลือกงาแม้ทั้งปวง สักว่าเป็นโวหาร ด้วยเหตุนั้นนั่นแหละ บุคคลทั้งหลายทำให้งาเกิดแล้ว ก็ถือเอาด้วยโวหารนั้นนั่นแหละ. ชื่อว่างา ย่อมไม่ปรากฏโดยสัณฐานตั้ง อรรถกถาสัมปยุตตกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๗ สัมปยุตตกถา จบ. |