![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ว่าด้วยอัญญมัญญปัจจัย ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายย่อมเกิด เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย นี้เท่านั้นเป็นแบบแผน คำว่าอวิชชาย่อมเกิดแม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยไม่มีในลัทธิ เพราะฉะนั้น อวิชชาเท่านั้นจึงเป็นปัจจัยแก่สังขารทั้งหลาย แต่สังขารทั้งหลายหาได้เป็นปัจจัยแก่อวิชชาไม่ ดังนี้. คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น เพื่อแสดงเนื้อความว่า แม้ความเป็นปัจจัยแก่กันและกันของปัจจัยทั้งหลายมีอวิชชาและสังขารเป็นต้นมีอยู่ ดังนี้ คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในคำว่า อวิชชาเกิดพร้อมกับสังขารมิใช่หรือ นี้ท่านถือเอาอปุญญาภิสังขารอย่างเดียว เพราะฉะนั้น ในคำว่า แม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้ นี้บัณฑิตพึงทราบความเป็นปัจจัยด้วยอำนาจสหชาตะ อัญญมัญญะ อัตถิ อวิคตะและสัมปยุตตปัจจัย. ในคำว่า แม้เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยก็เกิดตัณหา นี้อธิบายว่า ยกเว้นกามุปาทานเสียแล้ว บัณฑิตพึงทราบว่า อุปาทานที่เหลือ ๓ ย่อมเป็นปัจจัยแก่ตัณหา ดุจสังขารทั้งหลายเป็นปัจจัยแก่อวิชชา. คำที่เหลือพึงทราบตามพระบาลีนั่นแหละ. คำถามว่า เพราะชรามรณะเป็นปัจจัยเป็นต้น เป็นของปรวาที. คำถามว่า เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดนามรูปเป็นต้น เป็นของสกวาที ดังนี้แล. อรรถกถาอัญญมัญญปัจจยกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๑๕ อัญญมัญญปัจจยกถา จบ. |