![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ว่าด้วยการละกิเลส ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะทั้งหลายบางพวกว่า ชื่อว่าการละกิเลสของผู้มีกิเลสอันละได้แล้วมีอยู่ ด้วยว่ากิเลสทั้งหลายที่เป็นอดีตก็ดี เป็นอนาคตก็ดี และปัจจุบันก็ดี เป็นสภาพที่ต้องละทั้งนั้น เหตุใด เพราะเหตุนั้น บุคคลจึงต้องละกิเลสที่เป็นอดีตด้วย ที่เป็นอนาคตด้วย ที่เป็นปัจจุบันด้วย ดังนี้. คำถามของสกวาทีว่า บุคคลละกิเลสแม้ที่เป็นอดีต เป็นต้น หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือ พึงทราบตามพระบาลีนั่นแหละ. อนึ่ง ในปัญหาของปรวาทีว่า บุคคลที่ละกิเลสได้ไม่มีหรือ นี้อธิบายว่า เมื่อบุคคลละกิเลสทั้งหลายอยู่ หาได้มีความพยายามละกิเลสอันต่างด้วยอดีต เป็นต้น เหมือนความพยายามที่จะทิ้งหยากเยื่อของผู้ทิ้งอยู่ซึ่งหยากเยื่อไม่ ก็แต่ว่า ครั้นเมื่ออริยมรรคอันมีพระนิพพานเป็นอารมณ์เป็นไปแล้ว กิเลสทั้งหลายที่ยังไม่เกิดนั่นแหละ หมายถึงกิเลสที่เป็นอนุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าการละกิเลสมีอยู่ เหตุใด เพราะเหตุนั้น สกวาทีจึงตอบปฏิเสธว่า ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น. ข้อว่า ก็ถ้าอย่างนั้น บุคคลก็ละกิเลสที่เป็นอดีต เป็นต้น ปรวาทีกล่าวโดยการฉ้อฉล คือลวงโดยอุบายแห่งคำพูด ด้วยคำว่า ก็ถ้าอย่างนั้น ไม่พึงกล่าวว่า การละกิเลสไม่มี เหตุใด เพราะเหตุนั้น บุคคลย่อมละกิเลสทั้งหลายอันต่างด้วยกิเลสที่เป็นอดีตเป็นต้น ดังนี้แล. อรรถกถากิเลสัปปชหนกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๑๙ กิเลสชหนกถา จบ. |