![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ว่าด้วยมรรค ในปัญหานั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายมหิสาสกะทั้งหลายว่า ว่าโดยแน่นอน มรรคมีองค์ ๕ เท่านั้น เพราะอาศัยพระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ก็กายกรรม วจีกรรม อาชีวะของผู้นั้นเป็นอาการหมดจดดีแล้วในกาลก่อนเทียวแล ฯลฯ ดังนี้นั่นแหละจึงกล่าวว่า สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ว่าเป็นธรรมไม่ประกอบกับจิต ดังนี้. คำถามของสกวาทีว่า มรรคมีองค์ ๕ หรือโดยหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ข้อว่า สัมมาวาจาเป็นองค์แห่งมรรค แต่สัมมาวาจานั้นไม่เป็นมรรคหรือ เป็นต้น สกวาทีกล่าวด้วยสามารถแห่งลัทธิของชนเหล่าอื่น. จริงอยู่ ในลัทธินั้นว่า สัมมาวาจาเป็นต้นเป็นองค์แห่งมรรคแต่ไม่ใช่มรรค เพราะความเป็นรูป ดังนี้. คำว่า สัมมาทิฏฐิเป็นองค์แห่งมรรค เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงว่า ความที่องค์แห่งมรรคไม่เป็นมรรคหามีไม่ ดังนี้. ในพระสูตรว่า กายกรรม ฯลฯ ของบุคคลนั้นบริสุทธิ์แล้วในกาลก่อนเทียวแล คำนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า กายกรรม วจีกรรม อาชีวะ เป็นอาการบริสุทธิ์แล้ว ดังนี้ ก็เพื่อแสดงซึ่งความที่ปฏิปทาอันกุลบุตรพึงบรรลุเป็นภาวะบริสุทธิ์แล้วว่า ชื่อว่ามัคคภาวนาย่อมมีแก่ผู้บริสุทธิ์แล้ว มิใช่มีแก่บุคคลนอกจากนี้ ดังนี้ มิใช่ตรัสไว้เพื่อแสดงถึงความที่มรรคประกอบด้วยองค์ ๕ โดยเว้นจากสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะและสัมมาอาชีวะเหล่านี้. ด้วยสูตรนั้นนั่นแหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ ย่อมถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนาแก่บุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้ ดังนี้. ส่วนพระสูตรที่สกวาทีนำมาแล้ว มีอรรถตามที่ท่านแนะนำไว้แล้วนั่นแล. อรรถกถามัคคกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๒๐ มัคคกถา จบ. |