ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
๓. เมตตคูเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเมตตคูเถระ
(พระเมตตคูเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๔๕] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมพานต์มีภูเขาลูกหนึ่งชื่ออโศก วิสสุกรรมเทพบุตรเนรมิตอาศรม ให้แก่ข้าพเจ้าที่ภูเขาอโศกนั้น [๔๖] พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้เลิศ ทรงประกอบด้วยพระกรุณา เป็นพระมุนี เวลาเช้าทรงครองผ้าแล้ว เสด็จเข้ามาบิณฑบาตในสำนักข้าพเจ้า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๖๐}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๓. เมตตคูเถราปทาน

[๔๗] ข้าพเจ้าได้เห็นพระมหาวีรเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกเสด็จเข้ามา จึงรับบาตรของพระสุคตแล้ว บรรจุเนยใสและน้ำมันจนเต็ม [๔๘] ถวายพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ประคองอัญชลี เกิดความร่าเริงอย่างยิ่ง [๔๙] ด้วยผลแห่งการถวายเนยใส(และน้ำมัน)นี้ และด้วยการตั้งเจตนาไว้มั่น ข้าพเจ้าจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม ย่อมได้สุขอย่างเหลือล้น [๕๐] ข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ในภพน้อยภพใหญ่ เว้นวินิบาตนรก ตั้งจิตมั่นไว้ในพระพุทธเจ้านั้น ย่อมได้บทที่ไม่หวั่นไหว [๕๑] (พระพุทธเจ้าตรัสว่า) พราหมณ์ การที่ท่านได้เห็นเรานั้น เป็นลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ด้วยว่า บุคคลอาศัยการเห็นเราแล้วจักได้บรรลุอรหัต [๕๒] ท่านบรรลุยศใหญ่แล้วเป็นผู้เบาใจ ไม่ต้องกลัว ถวายเนยใสแก่เราแล้วจักพ้นจากชาติทุกข์ได้ [๕๓] ด้วยการถวายเนยใสนี้และด้วยการตั้งเจตนาไว้มั่น ข้าพเจ้าจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม ย่อมได้สุขอย่างเหลือล้น [๕๔] ด้วยอธิการนี้และด้วยความเป็นผู้มีจิตเมตตา ผู้นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด ๑๑๘ กัป {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๖๑}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๓. เมตตคูเถราปทาน

[๕๕] จักได้เป็นท้าวเทวราช ๓ ชาติ ตลอด ๑๘ กัป จักเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน [๕๖] จักเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๑ ชาติ ทรงเป็นใหญ่ มีชัยชนะ มีสมุทรทั้ง ๔ เป็นขอบเขต เป็นใหญ่ในชมพูทวีป [๕๗] มหาสมุทรใครๆ ให้กระเพื่อมไม่ได้ และแผ่นดินใครๆ ยกขึ้นได้ยากฉันใด โภคสมบัติของข้าพเจ้าก็นับประมาณมิได้ฉันนั้น [๕๘] ข้าพเจ้าบริจาคเงิน ๖๐ โกฏิแล้วออกบวช แสวงหากุศลบางอย่างอยู่ จึงเข้าไปหาพราหมณ์พาวรี [๕๙] ข้าพเจ้าเล่าเรียนลักษณะมีองค์ ๖ ในมนตร์นั้นอยู่ ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์เสด็จอุบัติขึ้นกำจัดความมืดนั้นแล้ว [๖๐] ข้าแต่พระมหามุนี ข้าพระองค์ประสงค์จะเข้าเฝ้าพระองค์จึงมา ได้ฟังธรรมของพระองค์แล้ว ได้บรรลุบทที่ไม่หวั่นไหว [๖๑] ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ (นับจากกัปนี้ไป) ข้าพเจ้าได้ถวายเนยใสแด่พระพุทธเจ้า ในระหว่างนี้ จึงไม่รู้จักว่า ข้าพเจ้าจะต้องขอเนยใสเลย [๖๒] เนยใสดังจะรู้ความดำริของข้าพเจ้า จึงเกิดขึ้นตามความปรารถนา รู้ความดำริแล้วจึงบังเกิด ข้าพเจ้าเลี้ยงดูภิกษุทั้งปวงให้อิ่มหนำ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๖๒}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๓. เมตตคูเถราปทาน

[๖๓] ช่างน่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้า ช่างน่าอัศจรรย์ พระธรรม ช่างน่าอัศจรรย์ การที่ข้าพเจ้าได้มาประจวบกับพระศาสดา ข้าพเจ้าถวายเนยใสหน่อยเดียวแต่ได้เนยใสประมาณมิได้ [๖๔] น้ำในมหาสมุทรมีประมาณตั้งแต่เชิงเขาสิเนรุ เมื่อเทียบกับเนยใสของข้าพเจ้าจักไม่เท่าส่วนเสี้ยวเลย [๖๕] โอกาสแห่งจักรวาลที่เขาทำให้เป็นกองประมาณเท่าใด โอกาสประมาณนั้นไม่สมกับกองผ้าที่บังเกิดแก่ข้าพเจ้า [๖๖] ภูเขาหิมพานต์มีหินล้วนแม้จะสูงสุด ก็ยังไม่เท่าของหอมที่ข้าพเจ้าลูบไล้ [๖๗] ผ้า ของหอม เนยใส และสิ่งอื่น ที่เกิดในปัจจุบัน และนิพพานที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง นี้เป็นผลแห่งการถวายเนยใส [๖๘] ข้าพเจ้ามีสติปัฏฐานเป็นที่นอน มีสมาธิและฌานเป็นอารมณ์ วันนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้ให้โพชฌงค์เกิด นี้เป็นผลแห่งการถวายเนยใส [๖๙] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ [๗๐] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๖๓}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๔. โธตกเถราปทาน

[๗๑] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระเมตตคูเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เมตตคูเถราปทานที่ ๓ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๒ หน้าที่ ๖๖๐-๖๖๔. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=32&siri=405              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=32&A=8962&Z=9007                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=405              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=32&item=405&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=5416              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=32&item=405&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=5416                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap405/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :