ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
             [๒๐๐๑] 	พระเจ้ายุธิฏฐิละผู้ทรงฝักใฝ่ในธรรม ได้ตรัสกะวิธูระอำมาตย์ว่า ดูกร
                          วิธูระ ท่านจงแสวงหาพราหมณ์ทั้งหลายผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจาก
                          เมถุนธรรม ซึ่งสมควรจะบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจะ
                          ให้ทักษิณาในพวกพราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๐๒] 	ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พราหมณ์ทั้งหลายผู้มีศีล เป็นพหูสูต งด
                          เว้นจากเมถุนถรรม ที่สมควรจะบริโภคโภชนาหารของพระองค์นั้นหาได้
                          ยาก ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้าได้สดับมาว่า ชาติพราหมณ์
                          มี ๑๐ ชาติ ขอพระองค์จงทรงสดับการจำแนกแจกแจงชาติพราหมณ์เหล่า
                          นั้น ของข้าพระองค์. ชนทั้งหลายถือเอาร่วมยาอันเต็มไปด้วยรากไม้
                          ปิดเรียบร้อย ปิดสลากบอกสรรพคุณยาไว้ รดน้ำมนต์และร่ายมนต์.
                          ข้าแต่พระราชา ชนเหล่านั้นแม้จะเป็นเหมือนกับหมอ ก็ยังเรียกกันว่า
                          เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์
                          พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่
                          พระเจ้าข้า?
             [๒๐๐๓] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสม
                          ควรบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๐๔] 	ชนทั้งหลายถือกระดิ่งตีประกาศไปข้างหน้าบ้าง คอยรับใช้บ้าง ศึกษา
                          ในการขับรถบ้าง ข้าแต่พระราชา ชนเหล่านั้นแม้จะเหมือนกับคนบำเรอ
                          ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์
                          พวกนั้นแก่ข้าพระองค์แล้ว เราจะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่
                          พระเจ้าข้า?
             [๒๐๐๕] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสม
                          ควรบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจะให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๐๖] 	พวกพราหมณ์ ถือเต้าน้ำ และไม้สีฟัน คอยเข้าใกล้พระราชาทั้งหลาย
                          ในบ้าน และนิคมด้วยตั้งใจว่า เมื่อคนทั้งหลาย ในบ้าน หรือนิคมไม่
                          ให้อะไรๆ พวกเราจักไม่ลุกขึ้น ข้าแต่พระราชา ชนเหล่านั้นแม้จะ
                          เหมือนกับผู้กดขี่ข่มเหง ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าพระพุทธเจ้า
                          กราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจักต้องการพราหมณ์
                          เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๐๗] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณ
                          เครื่องความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณืไม่ได้ ท่านจงแสวง
                          หาพราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสม
                          ควรบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๐๘] 	ชนทั้งหลายมีเล็บ และขนรักแร้งอกยาว ฟันเขลอะ มีธุลีบนศีรษะเกรอะ
                          กรังด้วยฝุ่นละออง เป็นพวกยาจกท่องเที่ยวไป ข้าแต่พระราชา ชนพวก
                          นั้นแม้จะเหมือนกับมนุษย์ขุดตอ ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่
                          พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์
                          แล้ว เราจะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๐๙] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสม
                          ควรบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๑๐] 	ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นอธิบดีแห่งประชาชน ชนทั้งหลายขายสิ่งของเครื่อง
                          ชำ คือ ผลสมอ ผลมะขามป้อม มะม่วง ชมพู่ สมอพิเภก
                          ขนุนสำมะลอ ไม้สีฟัน มะตูม พุทรา ผลเกด อ้อย และงบน้ำอ้อย
                          เครื่องโบกควัน น้ำผึ้ง และยาหยอดตา ข้าแต่พระราชา ชนเหล่านั้นแม้
                          จะเหมือนกับพ่อค้า ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระมหาราชา
                          ข้าพระองค์กราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะต้องการ
                          พราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๑๑] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณืไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
                          บริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวกพราหมณ์
                          ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๑๒] 	ชนทั้งหลาย ใช้คนให้ทำการไถ และการค้า ใช้ให้เลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะ
                          สู่ขอนางกุมารีทำการวิวาหมงคลและอาวาหมงคล ชนเหล่านั้นแม้จะ
                          เหมือนกับกุฏมพีและคฤหบดี ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระ
                          มหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงชนพวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะ
                          ต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๑๓] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
                          บริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๑๔] 	ยังอีกพวกหนึ่งเล่า เป็นปุโรหิตในบ้าน บริโภคภิกษาที่เก็บไว้ ชนเป็น
                          อันมากพากันถามปุโรหิตบ้านเหล่านั้น พวกเหล่านั้นจักรับจ้างตอนสัตว์
                          แม้ปศุสัตว์ คือ กระบือ สุกร แพะ ถูกฆ่าเพราะปุโรหิตชาวบ้าน
                          เหล่านั้น ข้าแต่พระราชา คนเหล่านั้นแม้จะเหมือนกับคนฆ่าโค ก็ยัง
                          เรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบ
                          ทูลถึงชนพวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจักต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือ
                          หาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๑๕] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
                          บริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวกพราหมณ์
                          ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๑๖] 	อีกพวกหนึ่ง เป็นพราหมณ์ถือดาบและโล่ห์เหน็บกระบี่ ยืนเฝ้าอยู่ที่ย่าน
                          พ่อค้าบ้าง รับคุ้มครองขบวนเกวียนบ้าง ชนเหล่านั้นแม้จะเหมือนกับ
                          คนเลี้ยงโคและนายพราน ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่พระมหา
                          ราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เราจะ
                          ต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๑๗] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสว่าดังนี้) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่ง
                          สมควรบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๑๘] 	ชนทั้งหลายปลูกกระท่อมไว้ในป่า ทำเครื่องดักสัตว์ เบียดเบียนกระต่าย
                          และเสือปลาตลอดถึงเหี้ย ทั้งปลาและเต่า ข้าแต่พระราชา ชนทั้งหลาย
                          แม้จะเป็นผู้เสมอกับนายพราน เขาก็เรียกกันว่า พราหมณ์ ข้าแต่พระมหา
                          ราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์แล้ว เรา
                          จะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๑๙] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
                          บริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวกพราหมณ์
                          ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก.
             [๒๐๒๐] 	อีกพวกหนึ่ง ย่อมนอนใต้เตียง เพราะปรารถนาทรัพย์ พระราชาทั้งหลาย
                          สรงสนานอยู่ข้างบนในคราวมีพิธีโสมยาคะ ข้าแต่พระราชา ชนพวกนั้น
                          แม้จะเหมือนกับคนกวาดมลทิน ก็ยังเรียกกันว่า เป็นพราหมณ์ ข้าแต่
                          พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์พวกนั้นแก่พระองค์
                          แล้ว เราจะต้องการพราหมณ์เช่นนั้นหรือหาไม่ พระเจ้าข้า?
             [๒๐๒๑] 	(พระเจ้าโกรพยะตรัสดังนี้ว่า) ดูกรวิธูระ ชนเหล่านั้นปราศจากคุณเครื่อง
                          ความเป็นพราหมณ์ จะเรียกว่า เป็นพราหมณ์ก็ไม่ได้ ท่านจงแสวงหา
                          พราหมณ์เหล่าอื่นผู้มีศีล เป็นพหูสูต งดเว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควร
                          จะบริโภคโภชนาหารของฉัน ดูกรสหาย ฉันจักให้ทักษิณาในพวก
                          พราหมณ์ที่ให้ทานแล้วจักมีผลมาก
             [๒๐๒๒] 	ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พราหมณ์ทั้งหลายผู้มีศีล เป็นพหูสูต งด
                          เว้นจากเมถุนธรรม ซึ่งสมควรบริโภคโภชนาหารของพระองค์ มีอยู่แล
                          พราหมณ์เหล่านั้นบริโภคภัตตาหารหนเดียว และไม่ดื่มน้ำเมา ข้าแต่
                          พระมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถึงพราหมณ์เหล่านั้นแก่พระองค์
                          แล้ว พวกเราคงต้องการพราหมณ์เช่นนั้นสิ พระเจ้าข้า.
             [๒๐๒๓] 	ดูกรวิธูระ พราหมณ์เหล่านั้นแหละเป็นผู้มีศีล เป็นพหูสูต ดูกรวิธูระ
                          ท่านจงแสวงหาพราหมณ์พวกนั้น และจงเชิญพราหมณ์พวกนั้นมาโดยเร็ว
                          ด้วยเถิด.
จบ ทสพราหมณชาดกที่ ๑๒.
๑๓. ภิกขาปรัมปรชาดก
ว่าด้วยการให้ทานในท่านใด มีผลมาก

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ บรรทัดที่ ๗๘๑๗-๗๙๔๑ หน้าที่ ๓๔๗-๓๕๒. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=27&A=7817&Z=7941&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=27&item=2001&items=23&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=27&item=2001&items=23              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=27&item=2001&items=23&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=27&item=2001&items=23&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถาชาดกนี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=2001              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_27 https://84000.org/tipitaka/english/?index_27

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]