ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
             [๒๓๒๗] 	ดูกรพระน้องนาง ผู้มีอวัยวะงามอร่ามดังทอง มีผิวพรรณเหลืองงามเลิศ
                          พระเนตรทั้งสองแจ่มใส เหตุไรหนอ พระน้องจึงเศร้าโศกซูบไป ดุจ
                          ดอกไม้ที่ถูกขยี้ ฉะนั้น?

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๔๑๒.

[๒๓๒๘] ข้าแต่พระมหาราชเจ้า หม่อมฉันแพ้พระครรภ์ โดยการแพ้พระครรภ์เป็น เหตุให้หม่อมฉันฝันเห็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่าย. [๒๓๒๙] กามสมบัติของมนุษย์เหล่าใดเหล่าหนึ่งในโลกนี้ และในสวนนันทนวัน กามสมบัติทั้งหมดนั้น เป็นของฉันทั้งสิ้น ฉันจะให้แก่เธอได้ทั้งนั้น. [๒๓๓๐] ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ นายพรานป่าเหล่าใดเหล่าหนึ่งในแว่นแคว้น ของพระองค์จงมาประชุมพร้อมกัน หม่อมฉันจะแจ้งเหตุที่แพ้พระครรภ์ ของหม่อมฉันให้นายพรานป่าเหล่านั้นทราบ. [๒๓๓๑] ดูกรพระเทวี นายพรานป่าเหล่านี้ ล้วนแต่มีฝีมือ เป็นคนแกล้วกล้า ชำนาญป่า รู้จักชนิดของเนื้อ ย่อมสละชีวิตเพื่อประโยชน์ของเราได้. [๒๓๓๒] ท่านทั้งหลายผู้เป็นเชื้อแถวของนายพราน ที่มาพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ จงฟัง ฉัน ฉันฝันเห็นช้างเผือกผ่องงามีรัศมี ๖ ประการ ฉันต้องการงาช้างคู่นั้น เมื่อไม่ได้ชีวิตก็หาไม่. [๒๓๓๓] บิดาหรือปู่ทวด ของข้าพระองค์ทั้งหลายก็ยังไม่เคยได้ เห็นทั้งยังไม่เคย ได้ยินว่า พญาช้างที่มีงา มีรัศมี ๖ ประการ พระนางเจ้าทรงนิมิตเห็น พญาช้างมีลักษะเช่นไร ขอได้ตรัสบอกพญาช้างที่มีลักษณะเช่นนั้น แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด พระเจ้าข้า. [๒๓๓๔] ทิศใหญ่ ๔ ทิศน้อย ๔ เบื้องบน ๑ เบื้องล่าง ๑ ทิศทั้ง ๑๐ นี้ พระองค์ ทรงฝันเห็นพญาช้าง ซึ่งมีงามีรัศมี ๖ ประการอยู่ทิศไหน พระเจ้าข้า.? [๒๓๓๕] จากที่นี้ตรงไปทิศอุดร ข้ามภูเขาสูงใหญ่ ๗ ลูก ภูเขาใหญ่ชื่อสุวรรณปัส มีพรรณไม้ผลิดอกอยู่ไสว มีฝูงกินนรเที่ยววิ่งเล่นอยู่ ท่านจงขึ้นไปบน ภูเขาอันเป็นที่อยู่แห่งหมู่กินนรทั้งหลายแล้วมองลงมาตามเชิงเขา ทันใด นั้น จะได้เห็นต้นไทรใหญ่ที่มีสีเทียมเมฆ มีย่านไทร ๘,๐๐๐ ห้อยย้อยอยู่. ที่โคนต้นไทรนั้น มีพญาช้างเผือกผ่องงามีรัศมี ๖ ประการอาศัยอยู่ ยากที่คนอื่นจะจับได้ มีช้างประมาณ ๘,๐๐๐ เชือกล้วนมีงางอนงาม วิ่ง ไล่ประหารเร็วดังลมพัด รักษาพญาช้างนั้นอยู่. ช้างเหล่านั้นย่อมบันลือ เสียงน่าหวาดกลัว ย่อมโกรธแม้ต่อลมที่พัดถูกตัว ถ้าเห็นมนุษย์ ณ ที่นั้น เป็นต้องขยี้เสียให้เป็นภัสมธุลี แม้แต่ละอองก็ไม่ถูกต้องพญาช้างได้เลย.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๔๑๓.

[๒๓๓๖] ข้าแต่พระราชเทวี เครื่องอาภรณ์ที่แล้วไปด้วยเงิน แก้วมุกดา แก้วมณี และแก้วไพฑูรย์มีอยู่ในราชสกุลมากมาย เหตุไร พระแม่เจ้าจึงทรง ประสงค์เอางาช้างมาทำเป็นเครื่องประดับเล่า พระแม่เจ้าทรงปรารถนา จะให้ฆ่าพญาช้าง ซึ่งมีงามีรัศมี ๖ ประการเสีย หรือว่าจะให้พญาช้างฆ่า พวกเชื้อแถวของนายพรานเสียกระมัง? [๒๓๓๗] ดูกรนายพราน ฉันริษยาด้วย เสียใจด้วย เพราะนึกถึงความหลังก็ ตรอมใจ ขอท่านจงทำตามความประสงค์ของฉัน ฉันจักให้บ้านส่วยแก่ ท่าน ๕ ตำบล. [๒๓๓๘] พญาช้างนั้นอยู่ที่ไหน ยืนที่ไหน ทางไหนที่พญาช้างไปอาบน้ำ พญาช้าง อาบน้ำด้วยประการอย่างไร ข้าพระองค์จะรู้จักคติแห่งพญาช้างได้อย่างไร? [๒๓๓๙] ในที่ๆ พญาช้างอยู่นั้น มีสระอยู่ใกล้ๆ น่ารื่นรมย์ มีท่าราบเรียบ น้ำมากมาย สะพรั่งไปด้วยพรรณไม้ดอก มีหมู่ภมรมาคลึงเคล้า พญาช้าง นั้น ลงอาบที่สระนั้นแหละ ชำระศีรษะแล้วห้อยพวงดอกอุบล มีร่างกาย เผือกผ่องดังดอกบัวขาบ บันเทิงใจให้มเหสีชื่อว่าสรรพภัททา เดินหน้า กลับไปยังที่อยู่ของตน. [๒๓๔๐] นายพรานนั้น ยึดเอาพระราชดำรัสของพระนางซึ่งประทับยืนอยู่ ณ ที่นั้นเอง แล้วถือเอาแล่งลูกธนูข้ามภูเขาใหญ่ทั้ง ๗ ลูกไปจนถึงลูกที่ชื่อสุวรรณปัส อันสูงโดด. ขึ้นไปถึงภูเขาอันเป็นที่อยู่ของหมู่กินนรแล้ว มองลงมา ยังเชิงเขา ได้เห็นต้นไทรใหญ่มีสีเทียมเมฆ มีย่านไทร ๘,๐๐๐ ห้อยย้อย อยู่ ณ ที่นั้น ทันใดนั้นเอง ก็ได้เห็นพญาช้างเผือกผ่องงามีรัศมี ๖ ประการ ยากที่คนเหล่าอื่นจะจับได้ มีช้างประมาณ ๘,๐๐๐ เชือก ล้วนแต่มีงางอนงาม วิ่งไล่เร็วดุจลมพัด รักษาพญาช้างอยู่. และได้เห็นสระโบกขรณีอัน น่ารื่นรมย์อยู่ใกล้ๆ ที่อยู่ของพญาช้างนั้น ทั้งท่าน้ำก็ราบเรียบน้ำมากมาย มีพรรณไม้ดอกบานสะพรั่ง มีหมู่ภมรเที่ยวเคล้าคลึงอยู่ แลเห็นที่ที่พญา ช้างลงอาบน้ำ. จนกระทั้งที่ๆ พญาช้างเดิน ยืนอยู่ และทางที่พญาช้างลง

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๔๑๔.

อาบนั้นก็แลเห็น นายพรานผู้มีใจลามก ถูกพระนางสุภัททาผู้ตกอยู่ใน อำนาจจิตทรงใช้มา ก็มาตระเตรียมหลุม. [๒๓๔๑] นายพรานผู้กระทำกรรมอันชั่วช้า ขุดหลุมเอากระดานปิดเสร็จแล้ว สอด ธนูเข้าไว้ เอาลูกธนูลูกใหญ่ยิงพญาช้างซึ่งมายืนอยู่ข้างหลุมของตน. พระยาช้างถูกยิงแล้วก็ร้องก้องโกญจนาท ช้างทุกๆ เชือกพากันบันลือ อื้ออึงวิ่งไปทั้ง ๘ ทิศ ทำหญ้าและไม้ให้เป็นจุณไป. พญาช้างฉัททันต์เอา เท้ากระชุ่นดินด้วยคิดว่า จักฆ่ามันเสีย แต่ได้เห็นผ้ากาสาวพัสตร์ อัน เป็นธงชัยของฤาษี ทั้งที่ได้รับความทุกข์ ก็เกิดความรู้สึกว่า ธงชัยแห่ง พระอรหันต์อันสัตบุรุษไม่พึงทำลาย. [๒๓๔๒] ผู้ใดยังไม่หมดกิเลส ปราศจากทมะและสัจจะ ผู้นั้นไม่ควรจะนุ่งห่มผ้า กาสาวะ. ส่วนผู้ใดคลายกิเลสได้แล้ว ตั้งมั่นอยู่ในศีล ประกอบด้วย ทมะและสัจจะ ผู้นั้นย่อมควรนุ่งห่มผ้ากาสาวะแท้. [๒๓๔๓] พญาช้างถูกลูกศรใหญ่เสียบเข้าแล้ว ไม่มีจิตคิดประทุษร้าย ได้ถามนาย พรานว่า เพื่อนเอ๋ย ท่านประสงค์อะไร เพราะเหตุไร หรือว่าใคร ใช้ให้ท่านมาฆ่าเรา? [๒๓๔๔] ดูกรพญาช้างผู้เจริญ พระนางสุภัททาพระมเหสีของพระเจ้ากาสิกราช อันประชาชนสักการะบูชาอยู่ในราชสกุล พระนางได้ทรงนิมิตเห็นท่าน และได้โปรดให้ทำสักการะแก่ข้าพเจ้าแล้ว ตรัสบอกข้าพเจ้าว่า มีพระ- ประสงค์งาทั้งคู่ของท่าน. [๒๓๔๕] ที่จริง พระนางสุภัททาทรงทราบอยู่ว่างางามๆ แห่งบิดาและปู่ทวดของเรา มีอยู่เป็นอันมาก แต่พระนางเป็นคนพาล โกรธเคือง ผูกเวร ต้องการจะ ฆ่าเรา. ดูกรนายพราน ท่านจงลุกขึ้นเถิด จงหยิบเลื่อยมาตัดงาคู่นี้เถิด ประเดี๋ยวเราจะตายเสียก่อน ท่านจงกราบทูลพระนางสุภัททาผู้ยังผูกโกรธ ว่า พญาช้างตายแล้ว เชิญพระนางรับงาคู่นี้ไว้เถิด. [๒๓๔๖] นายพรานนั้น ลุกขึ้นจับเลื่อย เลื่อยงาพญาช้างทั้งคู่อันงดงามหาที่เปรียบ มิได้ในพื้นปฐพีแล้ว รีบถือหลีกออกจากที่นั้นไป.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๔๑๕.

[๒๓๔๗] ช้างเหล่านั้นตกใจ ได้รับความเสียใจ เพราะพญาช้างถูกยิงพากันวิ่งไปยัง ทิศทั้ง ๘ เมื่อไม่เห็นปัจจามิตรของพญาช้าง ก็พากันกลับมายังที่อยู่ของ พญาช้าง. [๒๓๔๘] ช้างเหล่านั้นพากันคร่ำครวญร่ำไห้อยู่ ณ ที่นั้น ต่างสูบเอาฝุ่นพ่นขึ้นบน กระพองของตนๆ ยกนางสรรพภัททาผู้เป็นมเหสีให้เป็นหัวหน้า พากัน กลับยังที่อยู่ของตนทั้งหมด. [๒๓๔๙] นายพรานนั้น ถือเอางาพญาช้างทั้งคู่อันงดงาม หาที่เปรียบในพื้นปฐพีมิได้ ซึ่งแผ่รัศมีดุจสีทองไปรอบๆ มาถึงยังพระนครกาสีแล้ว น้อมนำงาทั้งคู่ เข้าไปถวายพระนางสุภัททากราบทูลว่า พญาช้างล้มแล้ว ขอเชิญพระนาง ทอดพระเนตรงาทั้งคู่นี้เถิด. [๒๓๕๐] พระนางสุภัททาผู้เป็นพาล ครั้นทอดพระเนตรงาพญาช้างทั้งคู่ ผู้เป็นสามี ที่รักในชาติก่อนแล้ว หทัยของพระนางก็แตกทำลาย ณ ที่นั้นเอง เพราะ เหตุนั้นเอง พระนางจึงได้สวรรคต. [๒๓๕๑] พระศาสดาได้บรรลุสัมโพธิญาณแล้ว มีพระอานุภาพมาก ได้ทรงทำการแย้ม ในท่ามกลางบริษัท ภิกษุทั้งหลายผู้มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว พากันทูลถามว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมไม่ทรงทำการแย้มให้ปรากฏ เมื่อไม่มีเหตุ? พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดูนางกุมารีสาวคนนั้น นุ่งห่ม ผ้ากาสาวพัสตร์ ประพฤติอนาคาริยวัตร นางกุมารีคนนั้นแล เป็นนาง- สุภัททาในกาลนั้น เราตถาคตเป็นพญาช้างในกาลนั้น. นายพรานถือเอา งาทั้งคู่อันงดงามของพญาช้าง หาที่เปรียบในพื้นปฐพีมิได้ กลับมายัง พระนครกาสีในกาลนั้น เป็นพระเทวทัต. พระพุทธเจ้าผู้ปราศจากความ กระวนกระวาย ความเศร้าโศก และกิเลสดุจลูกศร ตรัสรู้ยิ่งด้วยพระองค์ เองแล้ว ได้ตรัสฉัททันตชาดกนี้ อันเป็นของเก่า ไม่รู้จักสิ้นสูญ ซึ่ง พระองค์ท่องเที่ยวไปแล้วตลอดกาลนาน เป็นบุรพจรรยาทั้งสูงทั้งต่ำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย คราวครั้งนั้น เราเป็นพญาช้างฉัททันต์อยู่ที่สระฉัททันต์ นั้น ท่านทั้งหลายจงทรงจำชาดกไว้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ฉัททันตชาดกที่ ๔.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๔๑๖.

๕. สัมภวชาดก
ว่าด้วยคนผู้รุ่งโรจน์ได้เพราะปัญญา

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ บรรทัดที่ ๙๔๑๗-๙๕๒๖ หน้าที่ ๔๑๑-๔๑๖. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=27&A=9417&Z=9526&pagebreak=1 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=27&item=2327&items=25&pagebreak=1&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=27&item=2327&items=25&pagebreak=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=27&item=2327&items=25&pagebreak=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=27&item=2327&items=25&pagebreak=1&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถาชาดกนี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=2327              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_27 https://84000.org/tipitaka/english/?index_27

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]