โพธิยา พุทโธติกถา
[๙๓๗] สกวาที ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ หรือ?
ปรวาที ถูกแล้ว
ส. เมื่อปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ดับไปแล้ว ปราศจากไปแล้ว ระงับไปแล้ว
ก็กลับเป็นผู้มิใช่พุทธะ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๓๘] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๓๙] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ยังกระทำกิจที่พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๐] ส. ยังกระทำกิจที่พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ยังกำหนดรู้ทุกข์ ละสมุทัย ทำให้แจ้งซึ่งนิโรธ ยังมรรคให้เกิดได้ ด้วย
ปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๑] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๒] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. กระทำกิจที่พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๓] ส. กระทำกิจที่พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. กำหนดรู้ทุกข์ ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น
หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๔] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน กระทำกิจที่พึง
ทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต กระทำกิจที่พึงทำ
ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๕] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน กำหนดรู้ทุกข์
ละสมุทัย ทำให้แจ้งซึ่งนิโรธ ยังมรรคให้เกิดได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต กำหนดรู้ทุกข์ ฯลฯ
ยังมรรคให้เกิดได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๖] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน กระทำกิจที่พึง
ทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต กระทำกิจ
ที่พึงกระทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น
หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๗] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน กำหนดรู้ทุกข์
ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต กำหนดรู้ทุกข์
ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๘] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต แต่กระทำกิจ
ที่พึงทำ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ไม่ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น
หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน แต่กระทำกิจที่
พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ไม่ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น
หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๔๙] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต แต่กำหนดรู้ทุกข์
ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดไม่ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน แต่กำหนดรู้
ทุกข์ ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดไม่ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๕๐] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต แต่กระทำ
กิจที่พึงทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ไม่ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้
นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน แต่กระทำ
กิจที่พึงกระทำด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ไม่ได้ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้
นั้นหรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๕๑] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต แต่กำหนดรู้ทุกข์
ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดไม่ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน แต่กำหนดรู้
ทุกข์ ฯลฯ ยังมรรคให้เกิดไม่ได้ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้นั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๕๒] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอดีต ชื่อ ว่า พุทธะ
เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นอนาคต ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญา
เป็นเครื่องตรัสรู้ที่เป็นปัจจุบัน หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้สาม หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๕๓] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้สาม หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ประกอบ ตั้งมั่น ด้วยปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ทั้งสาม ปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้ทั้งสาม ปรากฏเนื่องๆ สม่ำเสมอ ไม่ระคนกัน หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๙๕๔] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ หรือ?
ส. ถูกแล้ว
ป. ชื่อว่า พุทธะ เพราะการได้ปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ มิใช่หรือ?
ส. ถูกแล้ว
ป. หากว่า ชื่อว่า พุทธะ เพราะการได้ปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ ด้วยเหตุนั้นนะ
ท่านจึงต้องกล่าวว่า ชื่อว่า พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้
[๙๕๕] ส. ชื่อว่า พุทธะ เพราะการได้ปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า
พุทธะ เพราะปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. ชื่อว่า โพธิ (ปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้) ก็เพราะการได้ปัญญาเป็นเครื่อง
ตรัสรู้ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
โพธิยา พุทโธติกถา จบ
-----------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๙๑๙๕-๙๓๐๙ หน้าที่ ๓๘๑-๓๘๖.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=9195&Z=9309&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=937&items=19
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
http://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=937&items=19&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=937&items=19
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=937&items=19
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=937
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗
http://84000.org/tipitaka/read/?index_37
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com