[๑๔๒๕] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักละโทมนัส-
*สินทรีย์ หรือ
บุคคล ๕ จำพวกย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๔ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่ละ
โทมนัสสินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๔ จำพวก จักไม่ละโทมนัสสินทรีย์
และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๖] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ หรือ
ปุถุชนเหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น ย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ แต่ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก จักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๗] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญิน-
*ทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่
ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
และย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์
[๑๔๒๘] ผู้ใดย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้
แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และจักไม่
ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๒๙] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์หรือ
ปุถุชนเหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ปุถุชนเหล่านั้น ย่อมไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก ย่อม
ไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่ละโทมนัสสินทรีย์
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ แต่ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๘ จำพวก จักไม่เจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ และย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์
[๑๔๓๐] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ก็
หาไม่ บุคคล ๓ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่ละโทมนัส-
*สินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๑] ผู้ใดย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่ง
อัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่ละโทมนัสสินทรีย์ และจัก
ไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
ละโทมนัสสินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๒] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้น
จักไม่เจริญอัญญินทรีย์หรือ
บุคคล ๖ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๓ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และจักไม่เจริญอัญญินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่เจริญ
อัญญาตาวินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๓] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ผู้นั้นจัก
ไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๗ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่จักไม่ทำ
ให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่เจริญอนัญญาตัญญัส-
*สามีตินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อม
ไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ถูกแล้ว
[๑๔๓๔] ผู้ใดย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ ผู้นั้นจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์หรือ
บุคคล ๕ จำพวก ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ แต่จักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญา-
*ตาวินทรีย์ก็หาไม่ บุคคล ๒ จำพวก ย่อมไม่เจริญอัญญินทรีย์ และจักไม่ทำให้แจ้ง
ซึ่งอัญญาตาวินทรีย์
หรือว่า ผู้ใดจักไม่ทำให้แจ้งซึ่งอัญญาตาวินทรีย์ ผู้นั้นย่อมไม่
เจริญอัญญินทรีย์
ถูกแล้ว
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ บรรทัดที่ ๑๕๐๗๕-๑๕๑๖๑ หน้าที่ ๖๑๖-๖๑๙.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=15075&Z=15161&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=39&item=1425&items=10
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=39&item=1425&items=10&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=39&item=1425&items=10
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=39&item=1425&items=10
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=1425
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙
https://84000.org/tipitaka/read/?index_39
https://84000.org/tipitaka/english/?index_39
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]