สังสัฏฐวาร
[๑๓๙๑] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ-
*ขณะ ฯลฯ
[๑๓๙๒] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ-
*ขณะ ฯลฯ
[๑๓๙๓] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๓๙๔] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
เพราะอธิปติปัจจัย ปฏิสนธิ ไม่มี
เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญ-
*มัญญปัจจัย เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย ปฏิสนธิ
ไม่มี
เพราะอาเสวนปัจจัย วิบากก็ดี ปฏิสนธิก็ดี ไม่มี
เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทริยปัจจัย
เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะ
อัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
[๑๓๙๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในอารัมมณปัจจัย มี " ๓
ในอธิปติปัจจัย มี " ๓ ฯลฯ
ในอวิคตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๓๙๖] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ คลุก
เคล้ากับขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
[๑๓๙๗] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ-
*ขณะ ฯลฯ
[๑๓๙๘] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณ-
*ปัจจัย
คือ อธิปติธรรมที่เป็นมหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม
คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๓๙๙] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อธิปติปัจจัย
คือ อธิปติธรรมที่เป็นอัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม
[๑๔๐๐] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาต-
*ปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๔๐๑] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาต-
*ปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ
[๑๔๐๒] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
ปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม
[๑๔๐๓] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาต-
*ปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๔๐๔] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาเสวน-
*ปัจจัย
คือ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๔๐๕] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อาเสวนปัจจัย
คือ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ซึ่งเป็นวิบาก
[๑๔๐๖] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นปริตตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม
[๑๔๐๗] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมม-
*ปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นมหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม
[๑๔๐๘] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
กัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นอัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม
[๑๔๐๙] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม
[๑๔๑๐] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปาก-
*ปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม
[๑๔๑๑] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
วิปากปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม
[๑๔๑๒] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ฯลฯ
[๑๔๑๓] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตต-
*ปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ฯลฯ
[๑๔๑๔] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
วิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ฯลฯ
[๑๔๑๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มีวาระ ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๔๑๖] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๔๑๗] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑
ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑ ฯลฯ
ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
สัมปยุตตวาร เหมือนกับ สังสัฏฐวาร
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑๐๒๓๔-๑๐๓๔๒ หน้าที่ ๔๓๕-๔๓๙.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=10234&Z=10342&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=41&item=1391&items=27
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=41&item=1391&items=27&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=41&item=1391&items=27
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=41&item=1391&items=27
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1391
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑
https://84000.org/tipitaka/read/?index_41
https://84000.org/tipitaka/english/?index_41
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]