สงฆ์ให้มานัตเพื่ออาบัติ ๓ ตัว
[๔๒๖] พระอุทายีนั้น อยู่ปริวาสแล้ว จึงแจ้งแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ท่าน
ทั้งหลาย ผมต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ...
ผมนั้นอยู่ปริวาสแล้ว ผมจะพึงปฏิบัติอย่างไร ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล สงฆ์จงให้มานัต ๖
ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัว แก่ภิกษุอุทายี ฯ
วิธีให้มานัต
[๔๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงให้อย่างนี้ ภิกษุอุทายีนั้น
พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ไหว้เท้าภิกษุผู้แก่กว่า นั่งกระหย่ง
ประคองอัญชลีแล้วกล่าวคำขอ ว่าดังนี้:-
คำขอมานัต
ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิด
บังไว้ ๑ ปักษ์ ... ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้านั้นอยู่ปริวาสแล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่อ
อาบัติ ๓ ตัว กะสงฆ์
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม ฯ
[๔๒๘] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบ ด้วยญัตติ-
*จตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
กรรมวาจาให้มานัต
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติตัว
หนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ... เธออยู่ปริวาส
แล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวกะสงฆ์ ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวแก่
ภิกษุอุทายี นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ ต้องอาบัติ
ตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ... เธออยู่ปริวาส
แล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวกะสงฆ์ สงฆ์ให้มานัต ๖
ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวแก่ภิกษุอุทายี การให้มานัต ๖ ราตรี เพื่อ
อาบัติ ๓ ตัวแก่ภิกษุอุทายี ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง
ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง ...
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สาม ...
มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัว อันสงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุอุทายี
ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้ ฯ
กำลังประพฤติมานัตต้องอาบัติอีก
[๔๒๙] พระอุทายีนั้น กำลังประพฤติมานัต ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน จึงแจ้งแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ท่าน
ทั้งหลาย ผมต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ...
ผมนั้นกำลังประพฤติมานัตได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกก-
*วิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน ผมจะพึงปฏิบัติอย่างไร ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแลสงฆ์จงชักภิกษุ
อุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่างชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิด
บังไว้ ๕ วัน แล้วให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน แล้วให้มานัต ๖
ราตรี ฯ
วิธีชักเข้าหาอาบัติเดิม
[๔๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงชักเข้าหาอาบัติเดิมอย่างนี้
ภิกษุอุทายีนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ...
คำขอมูลายปฏิกัสสนา
ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิด
บังไว้ ๑ ปักษ์ ...
กรรมวาจาให้มูลายปฏิกัสสนา
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติตัว
หนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ...
ภิกษุอุทายี อันสงฆ์ชักเข้าหาอาบัติเดิมแล้ว เพื่ออาบัติตัวหนึ่ง
ในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน ชอบแก่สงฆ์
เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้ ฯ
วิธีให้สโมธานปริวาส
[๔๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัว
ก่อนเข้าด้วยกันอย่างนี้ ภิกษุอุทายีนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ...
คำขอสโมธานปริวาส
ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบัง
ไว้ ๑ ปักษ์ ...
กรรมวาจาให้สโมธานปริวาส
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติตัว
หนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ...
ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่ง
ในระหว่างชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน อันสงฆ์ให้แล้ว
แก่ภิกษุอุทายี ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้
ด้วยอย่างนี้ ฯ
วิธีให้มานัต
[๔๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงให้มานัต ๖ ราตรีอย่างนี้ ภิกษุ
อุทายีนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ...
คำขอมานัต
ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบัง
ไว้ ๑ ปักษ์ ...
ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจา
ว่าดังนี้:-
กรรมวาจาให้มานัต
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติ
ตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ...
มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกา
สุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุอุทายี ชอบแก่สงฆ์
เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้ ฯ
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ บรรทัดที่ ๕๕๑๗-๕๕๙๘ หน้าที่ ๒๓๕-๒๓๙.
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=6&A=5517&Z=5598&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=6&item=426&items=7
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=6&item=426&items=7&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :-
https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=6&item=426&items=7
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=6&item=426&items=7
ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=6&i=426
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖
https://84000.org/tipitaka/read/?index_6
https://84000.org/tipitaka/english/?index_6
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]