ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
             [๓๙๘] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้
จบลงแล้ว จึงได้ตรัสพระคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
                          ดูกรมหาบพิตร บุรุษเข็ญใจไม่มีศรัทธา เป็นคนตระหนี่
                          เหนียวแน่น มีความดำริชั่ว เป็นมิจฉาทิฐิ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ
                          ย่อมด่า ย่อมบริภาษสมณะหรือพราหมณ์หรือวณิพกอื่นๆ
                          เขาเป็นคนไม่มีประโยชน์ เป็นคนมักขึ้งเคียด ย่อมห้ามคน
                          ที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ ดูกรมหาบพิตรผู้เป็นใหญ่
                          ยิ่งของประชาราษฎร์ คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรก
                          อันร้ายแรง นี่ชื่อว่าผู้มืดแล้วคงมืดต่อไป ฯ
                          ดูกรมหาบพิตร บุรุษ (บางคน) เป็นคนเข็ญใจ (แต่) เป็น
                          คนมีศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เขามีความดำริประเสริฐ มีใจ
                          ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะหรือพราหมณ์ หรือ
                          วณิพกอื่นๆ ย่อมสำเหนียกในจรรยาอันเรียบร้อย ไม่ห้าม
                          คนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ ดูกรมหาบพิตรผู้เป็น
                          ใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง
                          ไตรทิพสถาน นี่ชื่อว่าผู้มืดแล้วกลับสว่างต่อไป ฯ
                          ดูกรมหาบพิตร บุรุษ (บางคน) ถึงหากจะมั่งมี (แต่) ไม่มี
                          ศรัทธา เป็นคนมีความตระหนี่เหนียวแน่น มีความดำริชั่ว
                          เป็นมิจฉาทิฐิ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ ย่อมด่าย่อมบริภาษสมณะหรือ
                          พราหมณ์ หรือวณิพกอื่นๆ เขาเป็นคนไม่มีประโยชน์ เป็น
                          คนมักขึ้งเคียด ย่อมห้ามคนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ
                          ดูกรมหาบพิตรผู้เป็นใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ คนเช่นนั้น
                          เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรกอันร้ายแรง นี่ชื่อว่า ผู้สว่างแล้ว
                          กลับมืดต่อไป ฯ
                          ดูกรมหาบพิตร บุรุษ (บางคน) ถึงหากจะมั่งมี ก็เป็นคนมี-
                          *ศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เขามีความดำริประเสริฐ มีใจไม่
                          ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะหรือพราหมณ์หรือแม้
                          วณิพกอื่นๆ ย่อมสำเหนียกในจรรยาอันเรียบร้อย ไม่ห้าม
                          คนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่ผู้ที่ขอ ดูกรมหาบพิตรผู้เป็น
                          ใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง
                          ไตรทิพสถาน นี่ชื่อว่าผู้สว่างแล้วคงสว่างต่อไป ดังนี้ ฯ


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๓๐๕๖-๓๐๘๖ หน้าที่ ๑๓๔-๑๓๖. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=3056&Z=3086&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=15&item=398&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=15&item=398&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=15&item=398&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=15&item=398&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=398              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_15

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :