ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๘ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๒ ปัจฉิมอนุโลมติกปัฏฐาน
พระอภิธรรมปิฎก
เล่ม ๘
มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๒
ปัจฉิมอนุโลมติกปัฏฐาน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
วิตักกัตติกะ
ปฏิจจวาร
[๑] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๒] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตกและกฏัตตารูป อาศัยขันธ์เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๓] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัย สวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ วิตก และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ วิตก และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๔] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ วิจารและจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิจารและกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น [๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และกฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ วิจาร และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๖] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น หทัยวัตถุ อาศัยวิจาร เกิดขึ้น วิจาร อาศัย หทัยวัตถุ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป ทั้งหลายเกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ ขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๗] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และกฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๘] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัย อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๙] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๐] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๑๑] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัย สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๒] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตกและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐาน- *รูป อาศัยวิตกและมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตกและมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๑๓] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิตกและมหาภูตรูป เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๑๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น [๑๖] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก และ มหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๗] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ วิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตก และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ ปัจจัย คือ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๙] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ วิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๒๐] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ อารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ- *ปัจจัย คือ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๒๑] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๒๒] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๓] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๖] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๗] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๒๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ปัจจัย ๒ จำแนกแล้วโดยวิธีสาธยาย ปัจจัย ๒๔ ที่เหลือ พึงจำแนกโดยวิธีนั้น [๒๙] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตต- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัย หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น หทัยวัตถุ อาศัย ขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๓๐] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ วิตกและจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ วิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๓๑] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๓๒] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัย ขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตต- *ปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๓๓] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๓๔] อวิตักกอวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตต- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัย วิจาร เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุ อาศัยวิจาร เกิดขึ้น วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ ๓ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุ อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย มหาภูตรูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะ วิปปยุตตปัจจัย สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัย หทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๓๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และกฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๓๖] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัย อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย และวิตกอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะ วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๓๗] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๓๘] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๓๙] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์และวิตก อาศัย หทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะ วิปปยุตตปัจจัย [๔๐] สวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น เพราะ วิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม วิจาร และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตกและมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย และวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๔๑] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิตกและมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ และวิจาร เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๔๒] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และ อวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๔๓] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ วิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะ วิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๔๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารมัตตธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๔๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และ มหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป อาศัยขันธ์และวิตก เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย [๔๖] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะอัตถิปัจจัย ฯลฯ เพราะนัตถิปัจจัย ฯลฯ เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย [๔๗] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓๗ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๒๑ ในอธิปติปัจจัย มี " ๒๓ ในอนันตรปัจจัย มี " ๒๑ ในสมนันตรปัจจัย มี " ๒๑ ในสหชาตปัจจัย มี " ๓๗ ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๒๘ ในนิสสยปัจจัย มี " ๓๗ ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๒๑ ในปุเรชาตปัจจัย มี " ๑๑ ในอาเสวนปัจจัย มี " ๑๑ ในกัมมปัจจัย มี " ๓๗ ในวิปากปัจจัย มี " ๓๗ ในอาหารปัจจัย ในอินทริยปัจจัย ในฌานปัจจัย ในมัคคปัจจัย มี " ๓๗ ในสัมปยุตตปัจจัย มีวาระ ๒๑ ในวิปปยุตตปัจจัย มี " ๓๗ ในอัตถิปัจจัย มี " ๓๗ ในนัตถิปัจจัย มี " ๒๑ ในวิคตปัจจัย มี " ๒๑ ในอวิคตปัจจัย มี " ๓๗ ในอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี " ๒๑ ฯลฯ ในกุสลัตติกะท่านนับไว้อย่างไร พึงนับอย่างนั้น
อนุโลมปัฏฐาน จบ
-----------------------------------------------------
ปัจจนียปัฏฐาน
[๔๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ซึ่งสหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ เหตุปัจจัย คือ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๔๙] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็น อเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๕๐] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๕๑] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยวิตก ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น [๕๒] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และกฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น [๕๓] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัย มหาภูตรูป เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุ ปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๕๔] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๕๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๕๖] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกอวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๕๗] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ และ มหาภูตรูป เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๕๘] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่ เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และ อวิตักกวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๕๙] สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุ- *ปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๖๐] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก ซึ่งเป็นอเหตุกะ และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ใน อเหตุกปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๖๑] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๖๒] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะและวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และวิตก เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ และวิตก เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๖๓] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่ง เป็นอเหตุกะ และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๖๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกอวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ และ วิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๖๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๖๖] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๖๗] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐาน- *รูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น [๖๘] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น กฏัตตารูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ [๖๙] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๗๐] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ฯลฯ กฏัตตารูป ฯลฯ [๗๑] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๗๒] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกอวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป ฯลฯ [๗๓] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่อธิปติปัจจัย ฯลฯ มี ๗ นัย [๗๔] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ ปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๒ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ อธิปติปัจจัย คือ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัย วิตก เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น [๗๕] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ อธิปติปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม มี ๗ นัย [๗๖] อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัย ฯลฯ เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และวิจาร ฯลฯ [๗๗] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญ- *ปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ เหมือนกับปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย [๗๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ นัย [๗๙] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ ปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ สวิตักกวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิด ขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และกฏัตตารูป อาศัยวิตก เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๘๐] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยขันธ์ที่ เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ ปุเรชาตปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๘๑] อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ มี ๗ นัย อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ในที่มีปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัยเป็นมูล ที่เป็นสุทธิกอรูปภูมิ กระทำ อย่างไร อรูปภูมิทั้งหลาย พึงกระทำอย่างนั้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย [๘๒] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ ปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ฯลฯ [๘๓] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย คือ อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ฯลฯ [๘๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๘๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ ปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น [๘๖] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอาวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น [๘๗] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น [๘๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและวิตก เกิดขึ้น [๘๙] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่วิปากปัจจัย ฯลฯ เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย ฯลฯ คือ พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย ฯลฯ คือ พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป สำหรับพวกอสัญญสัตว์ รูปชีวิตินทรีย์ อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ฯลฯ เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย ฯลฯ คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ฯลฯ พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ ฯลฯ (ในหมวดแห่งปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย เป็นมูล พึงทำให้เหมือนกับปัจจัยที่ไม่ใช่ ปุเรชาตปัจจัย โดยประกอบอวิตักกวิจารมัตตะเข้ากับวิบาก อีกประการหนึ่ง พึงแสดงวิบาก โดย ประกอบอวิตักกวิจารมัตตะ กับอวิตักกวิจารมัตตะ) เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่มัตตปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย [๙๐] ฯลฯ เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย ฯลฯ คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ วิตก อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ และวิตก อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตก อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๙๑] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัย ที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิจาร อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๙๒] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่ วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น [๙๓] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร เกิดขึ้น [๙๔] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น [๙๕] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่นัตถิปัจจัย เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย [๙๖] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๗ " อธิปติปัจจัย มี " ๓๗ " อนันตรปัจจัย มี " ๗ " สมนันตรปัจจัย มี " ๗ " อัญญมัญญปัจจัย มี " ๗ " อุปนิสสยปัจจัย มี " ๗ " ปุเรชาตปัจจัย มี " ๓๗ " ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๓๗ " อาเสวนปัจจัย มี " ๓๗ " กัมมปัจจัย มี " ๗ " วิปากปัจจัย มี " ๒๐ " อาหารปัจจัย มี " ๑ " อินทริยปัจจัย มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ ฌานปัจจัย มีวาระ ๑ " มัคคปัจจัย มี " ๓๓ " สัมปยุตตปัจจัย มี " ๗ " วิปปยุตตปัจจัย มี " ๑๑ " นัตถิปัจจัย มี " ๗ " วิคตปัจจัย มี " ๗๙ พึงนับเหมือนอย่างการนับปัจจนียปัฏฐาน ในกุสลัตติกะ
ปัจจนียปัฏฐาน จบ
[๙๗] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๗ ฯลฯ พึงนับเหมือนอย่างการนับอนุโลมปัจจนียปัฏฐาน ในกุสลัตติกะ [๙๘] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๑๔ ฯลฯ พึงนับเหมือนอย่างการนับอนุโลมปัจจนียปัฏฐาน ในกุสลัตติกะ
ปฏิจจวาร จบ
แม้สหชาตวาร ก็พึงแจกเช่นเดียวกับปฏิจจวาร
-----------------------------------------------------
ปัจจยวาร
[๙๙] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัย ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ฯลฯ มี ๗ นัย อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น มี ๕ นัย เหมือนกับปฏิจจวาร [๑๐๐] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจาร มัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๐๑] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัย มหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิด ขึ้น วิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรมและวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ ขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัย อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๐๒] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น คือ ในปฏิสนธิขณะ อันเป็นไปแล้วในอุทาหรณ์ว่า พึงกระทำให้ได้หัวข้อปัจจัย ๗ [๑๐๓] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น วิจาร อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ มีวาระ ๔ เหมือนอย่างนี้ [๑๐๔] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐาน- *รูป อาศัยวิตก และมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏ- *ฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และวิจาร อาศัย ขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ฯลฯ ปัจจัยสงเคราะห์ทั้งสอง ที่เหลือพึงแจกปวัตติปฏิสนธิให้พิสดาร
เหตุปัจจัย จบ
ผู้ที่เข้าใจเหตุปัจจัย พึงแจกปัจจยวารให้พิสดาร พึงนับเหมือนอย่างการนับปฏิจจวาร ในอธิปติปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓๗ ในปุเรชาตปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มีวาระ ๒๑ นี้เป็นความแปลกกัน ในปัจจัยวารนี้ [๑๐๕] ในปัจจนียปัฏฐาน ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓๓ พึงยก โมหะทั้ง ๗ ขึ้น ในฐานะทั้ง ๗ เฉพาะในบทที่เป็นมูล ในปัจจัยที่ใช่อารัมมณปัจจัย พึงยกจิตตสมุฏฐานรูปทั้ง ๗ ขึ้น วาระทั้ง ๗ มีสวิตักกสวิจารธรรม เป็นมูล พึงแจกกับปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย [๑๐๖] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ ปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ ขณะ ฯลฯ อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ พึงกระทำ วาระทั้ง ๕ เหมือนอย่างในปฏิจจวาร [๑๐๗] อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ อธิปติธรรม ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิด ขึ้น ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ ขันธาธิบดี ซึ่งเป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ อธิปติธรรม ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น อธิปติธรรม ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยวิจาร ซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมซึ่งเป็นวิบาก และวิจาร อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น วิตก อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และวิจาร อาศัย หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ ปัจจัยสงเคราะห์ที่ ๑ นี้ พึงแจกให้สมบูรณ์ [๑๐๘] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และวิจาร เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ พึงแจกหัวข้อปัจจัยทั้ง ๕ อวิตักกวิจารมัตตธรรม ย่อมมาถึงในที่ใด พึงแจกวิบากในที่นั้น ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจจัยที่มีอธิปติปัจจัย เป็นมูล พึงแจก วาระ ๓๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัยก็ดี ปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัยก็ดี ปัจจัยที่ไม่ใช่ อัญญมัญญปัจจัยก็ดี ปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัยก็ดี มีวาระ ๗ และเฉพาะรูปภูมิเท่านั้น ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มีวาระ ๓๗ เช่นเดียวกับปัจจนียปัฏฐานในปฏิจจวาร ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มีวาระ ๓๗ แม้ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย ก็เช่นเดียวกัน แม้อวิตักกวิจารมัตตธรรม ย่อมมาในที่ใด พึงแจกวิบากในที่นั้น [๑๐๙] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ อาศัยอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ พึงแจกให้บริบูรณ์ สวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยวิจาร เกิดขึ้น เจตนาที่เป็นอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๑๑๐] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น อวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร เกิดขึ้น เจตนาที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ หทัยวัตถุ เกิดขึ้น สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๑๑] สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก และหทัยวัตถุ เกิดขึ้น [๑๑๒] ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย พึงแจกหัวข้อปัจจัย ๓๗ ปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย ปัจจัย ที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิ ปัจจัย ปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย พึงแจกให้พิสดาร [๑๑๓] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๗ " อธิปติปัจจัย มี " ๓๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญ- *มัญญปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย มีวาระ ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวน- *ปัจจัย มีวาระ ๓๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มีวาระ ๑๑ " วิปากปัจจัย มี " ๓๗ " อาหารปัจจัย มี " ๑ " อินทริยปัจจัย มี " ๑ " ฌานปัจจัย มี " ๑ " มัคคปัจจัย มี " ๓๑ " สัมปยุตตปัจจัย มี " ๗ " วิปปยุตตปัจจัย มี " ๑๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย มีวาระ ๗ " วิคตปัจจัย มี " ๗
ปัจจยวาร จบ
แม้นิสสยวาร ก็ไม่ต่างกัน
-----------------------------------------------------
สังสัฏฐวาร
[๑๑๔] สวิตักกสวิจารธรรม คลุกเคล้ากับสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ อวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับสวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ คือ วิตก คลุกเคล้ากับขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับสวิตักกสวิจาร- *ธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ และวิตกคลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ ๒ คลุกเคล้า กับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๑๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม คลุกเคล้ากับวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ คือ วิจาร คลุกเคล้ากับขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ในปฏิสนธิขณะ วิจาร คลุกเคล้ากับขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ และวิจาร คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกอวิจารธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับวิจาร ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย คลุกเคล้ากับวิจาร อวิตักกวิจารมัตตธรรม คลุกเคล้ากับอวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร ธรรม ฯลฯ คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สวิตักกสวิจารธรรม คลุกเคล้ากับสวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ ๒ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๒ และวิตก เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ผู้ที่เข้าใจเหตุปัจจัย พึงแจกปัจจัยทั้งปวงให้พิสดาร [๑๑๖] ในเหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๑๑ ในอารัมมณปัจจัย ในอธิปติปัจจัย ในอนันตรปัจจัย ในสมนันตรปัจจัย ในสหชาตปัจจัย ในอัญญมัญญปัจจัย ในนิสสยปัจจัย ในอุปนิสสยปัจจัย ในปุเรชาตปัจจัย ในอาเสวนปัจจัย ในกัมมปัจจัย ในวิปากปัจจัย ในอาหารปัจจัย ในอินทริยปัจจัย ในฌานปัจจัย ในมัคคปัจจัย ในสัมปยุตตปัจจัย ในวิปปยุตตปัจจัย ในอัตถิปัจจัย ในนัตถิปัจจัย ในวิคตปัจจัย ในอวิคตปัจจัย ในปัจจัยทั้งปวง (ที่กล่าวมานี้) มีวาระ อย่างละ ๑๑
อนุโลมปัฏฐาน จบ
ผู้มีปัญญา พึงแจกปัจจนียปัฏฐาน
[๑๑๗] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๑๑ " ปุเรชาตปัจจัย มี " ๑๑ " ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๑๑ " อาเสวนปัจจัย มี " ๑๑ " กัมมปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ วิปากปัจจัย มีวาระ ๑๑ " ฌานปัจจัย มี " ๑ " มัคคปัจจัย มี " ๖ " วิปปยุตตปัจจัย มี " ๑๑
ปัจจนียปัฏฐาน จบ
วาระแม้ทั้งสอง นอกนี้ ก็พึงแจกให้พิสดาร
แม้สัมปยุตตวาร ก็พึงแจกให้พิสดาร
สังสัฏฐวาร จบ
-----------------------------------------------------
ปัญหาวาร
[๑๑๘] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ โดยเหตุปัจจัย ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๑๙] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยเหตุ- *ปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วิตก โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๒๐] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๑] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ กฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๒] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป โดย เหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วิตก และกฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๓] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และวิตก โดยเหตุ- *ปัจจัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ วิตก โดยเหตุปัจจัย [๑๒๔] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิตก และจิตตสมุฏ- *ฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิตก และกฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยเหตุ- *ปัจจัย คือ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ โดย เหตุปัจจัย [๑๒๖] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยเหตุ- *ปัจจัย คือ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป โดย เหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วิจาร และกฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๗] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และ อวิตักกอวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิจาร และจิตต- *สมุฏฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิจาร และกฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๘] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ กฏัตตารูป โดยเหตุปัจจัย [๑๒๙] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณากุศลกรรมนั้น พิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมไว้ในก่อน ออกจากฌาน ที่มีวิตก วิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ละแล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคย เกิดแล้วในกาลก่อน พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น มีราคะ โทมนัส เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๓๐] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณากุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น วิตก เกิดขึ้น พิจารณากุศลกรรมที่ตนได้สั่งสมไว้ในก่อน ออกจาก ฌานที่มีวิตก วิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น วิตก เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ตนละแล้ว พิจารณากิเลสที่ตนข่มไว้ได้แล้ว รู้กิเลส ที่เคยเกิดแล้วในก่อน พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น วิตก เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม วิตก เกิดขึ้น [๑๓๑] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิต มีวิตก มีวิจาร โดย เจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติ- *ญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๓๒] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณากุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น พิจารณากุศลกรรม ที่ตนสั่งสมไว้ในก่อน ออกจากฌาน ที่มีวิตก มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ตนละแล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลส ที่เคยเกิดแล้วในก่อน พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ขันธ์ที่เป็น สวิตักกวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๓๓] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดย อารัมมณปัจจัย คือ บุคคลออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ ออกจากมรรค ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น วิตก เกิดขึ้น พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม และวิตก โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อม เพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น วิตก เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๓๔] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ บุคคลออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น มีราคะ ฯลฯ โทมนัส เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ [๑๓๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิต ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร โดย เจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุส- *สติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๓๖] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลออกจากฌาน ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น บุคคลพิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ขันธ์ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๓๗] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรมและวิจาร โดย อารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพร้อม เพรียงด้วยจิต ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ โดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ โดยอารัมมณปัจจัย รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ โดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโตปริยญาณ แก่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๓๘] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลาย ออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจารแล้ว ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่โวทาน แก่มรรค ที่มีวิตก มีวิจาร แก่ผล แก่อาวัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักขุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักขุนั้น มีราคะ โทมนัส เกิดขึ้น บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งโสตะ ฆานะ ชิวหา กาย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ หทัยวัตถุ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น อนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภโสตะเป็นต้นนั้น มีราคะ โทมนัส เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ [๑๓๙] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณ- *ปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น วิตกเกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผลที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก โดยอารัมมณปัจจัย บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักขุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และ วิจาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะ ปรารภจักขุเป็นต้นนั้น วิตก เกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิจารธรรม และวิจาร วิตก เกิดขึ้น [๑๔๐] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและวิจาร โดย อารัมมณปัจจัย [๑๔๑] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ พระอริยะทั้งหลาย ออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาระ และวิตก เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่โวทาน และวิตก ฯลฯ แก่มรรค มีวิตก มีวิจาร และวิตก แก่ผล มีวิตก มีวิจารและวิตก แก่อาวัชชนะ และวิตก โดยอารัมมณปัจจัย บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักขุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเพราะ ปรารภจักขุนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาระ และวิตก เกิดขึ้น บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งโสตะ ฯลฯ โผฏฐัพพะ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็น อวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เพราะปรารภ โสตะเป็นต้นนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๔๒] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๔๓] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมและวิจาร วิตก เกิดขึ้น [๑๔๔] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรมเป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจาร- *ธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๔๕] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรมและวิตก เกิดขึ้น [๑๔๖] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๔๗] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก วิตก เกิดขึ้น [๑๔๘] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิ- *วาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น [๑๔๙] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๕๐] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรมแล้ว พิจารณากุศลกรรมนั้น กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมดีแล้ว ในก่อน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นออกจากฌาน มีวิตก มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค พิจารณามรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น มีราคะ ทิฏฐิ เกิดขึ้น ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๑] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติ- *ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณากุศลกรรมนั้น กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำกุศลกรรมนั้นให้ เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมไว้ดีแล้วในก่อน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก แน่น ออกจากฌาน มีวิตก มีวิจาร ฯลฯ กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำฌานเป็นต้น นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น บุคคลยินดี เพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมกระทำให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น เพราะกระทำขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นวิตก เกิดขึ้น ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติที่เป็นสวิจาระ เป็นปัจจัยแก่วิตก โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๒] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็น ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๓] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกอวิจาร- *ธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็น ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๔] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วิตก และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๕] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณากุศลกรรมนั้นกระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำกุศลกรรมนั้นให้เป็น อารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและวิตก เกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมไว้ดีแล้วในก่อน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก แน่น ออกจากฌาน มีวิตก มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำฌานเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลิน ซึ่งขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม กระทำให้เป็น อารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ และวิตก โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๖] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม อวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี อย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และวิตก และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๗] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติ- *ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่บุคคล ออกจากฌาน ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำ ฌานนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและวิตก กระ ทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ โดยอธิปติปัจจัย [๑๕๘] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอธิปติ- *ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลออกจากฌาน ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำฌานเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำขันธ์และวิตกนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก แน่น มีราคะ ทิฏฐิ เกิดขึ้น [๑๕๙] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติ- *ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็น ปัจจัยแก่วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๖๐] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และวิจาร และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๖๑] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลออกจากฌาน ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะ กระทำฌานเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม กระทำให้ เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำขันธ์ และวิตกนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๖๒] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผลที่เป็นอวิตักก- *อวิจารธรรม และวิจาร โดยอธิปติปัจจัย ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย [๑๖๓] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลายออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่าง หนักแน่น เพราะกระทำฌาน เป็นต้นนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่โวทาน แก่มรรค แก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งจักษุ กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำจักษุนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ ทิฏฐิ เกิดขึ้น บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งโสตะ ซึ่งฆานะ ชิวหา กาย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ หทัยวัตถุ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร กระทำให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น เพราะกระทำโสตะ เป็นต้นนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ ทิฏฐิ เกิดขึ้น [๑๖๔] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติ- *ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะทั้งหลาย ออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่าง หนักแน่น เพราะกระทำฌานเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งจักษุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำโสตะ เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น วิตก เกิดขึ้น [๑๖๕] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรคแก่ผล ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย [๑๖๖] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติได้แก่ พระอริยะทั้งหลาย ออกจากฌาน ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล กระทำให้เป็นอารมณ์อย่าง หนักแน่น เพราะกระทำฌาน เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน และวิตก แก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก แก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดยอธิปติปัจจัย บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งจักษุ กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ฯลฯ บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งหทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร กระทำให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะกระทำจักษุ โสตะ เป็นต้นนั้น ให้เป็น อารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น [๑๖๗] อวิตักกวิจารมัตตธรรม อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจาร ธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๖๘] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ วิตก เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๖๙] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมและวิตก เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๗๐] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๗๑] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ วิตก เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๗๒] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เกิดขึ้น เพราะกระทำขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น [๑๗๓] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรมที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภู เป็นปัจจัย แก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โวทาน เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารมัตตธรรม ผลที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อนุโลม เป็นปัจจัยแก่ผล- *สมาบัติ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๗๔] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตร ปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่วิตกที่เกิดหลังๆ โดย อนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิตก บริกรรมแห่งฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมเป็นปัจจัยแก่ฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจาร มัตตธรรม โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โวทาน เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อนุโลม เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๗๕] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ อาวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ปัญจวิญญาณ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และ วิจาร บริกรรมแห่งทุติยฌาน เป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งตติย- *ฌาน ฯลฯ บริกรรมแห่งจตุตถฌาน ฯลฯ บริกรรมแห่งอากาสานัญจายตนะ ฯลฯ บริกรรม แห่งวิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ บริกรรมแห่งอากิญจัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรมแห่งเนวสัญญา- *นาสัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรมแห่งทิพพจักขุ ฯลฯ บริกรรมแห่งทิพพโสตธาตุ ฯลฯ บริกรรม แห่งอิทธิวิธญาณ ฯลฯ บริกรรมแห่งเจโตปริยญาณ ฯลฯ บริกรรมแห่งปุพเพนิวาสานุสสติ- *ญาณ ยถากัมมุปคญาณ อนาคตังสญาณ ฯลฯ โคตรภู เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย โวทาน เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตร- *ปัจจัย [๑๗๖] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งฌานที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย โคตรภู เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โวทาน เป็น ปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร อนุโลม เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่ เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๗๗] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรมที่เกิดหลังๆ และวิตก โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โคตรภู และวิตก อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โวทาน และวิตก โคตรภู เป็นปัจจัยแก่มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โวทาน เป็นปัจจัยแก่มรรคที่ เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ผลที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม และวิตก อนุโลม เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย [๑๗๘] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตร- *ปัจจัย คือ วิตกที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่วิตกที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรมที่ เกิดหลังๆ มรรคที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๗๙] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตร- *ปัจจัย คือ วิตกที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตร- *ปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจาร ธรรม โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิตที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๐] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตร- *ปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่วิจารที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักก- *อวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักก- *อวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๑] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย มรรคที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร โดยอนันตรปัจจัย ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และ วิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๒] อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ วิตกที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดหลังๆ และ วิตก โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ และวิตก โดย อนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดย อนันตรปัจจัย [๑๘๓] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ วิจารที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่วิจารที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย มรรค ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ผลที่เป็น อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ แห่งพระอริยะผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่ เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๔] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ โดยอนันตร- *ปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม โดยอนันตรปัจจัย มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ผลที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ ของพระอริยะผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่ เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๕] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตร- *ปัจจัย คือ วิจารที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นสวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกอวิจาร- *มัตตธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ แห่งพระอริยะผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๖] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ ของพระอริยะผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๗] อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็น อวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ และวิตก โดย อนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นสวิตักกสวิจาร- *ธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ ของพระอริยะผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๘] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ โดยอนันตร- *ปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๘๙] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย มรรคที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม โดยอนันตรปัจจัย ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๐] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วิจารที่เกิด หลังๆ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็น อวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๑] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรมที่เกิดหลังๆ และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย มรรคที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๒] อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ จุติจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิต ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่อาวัชชะ และวิตก โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นสวิตักก- *สวิจารธรรม และวิตก โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๓] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิตก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภู และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม โวทาน และวิตก เป็นปัจจัย แก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจาระ และวิตก เป็นปัจจัย แก่ผลที่เป็นสวิตักกสวิจาระ อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นสวิตักกสวิจาระ โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๔] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิตก เป็นปัจจัยแก่วิตกที่เกิด หลังๆ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกวิจาร- *มัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ฌาน ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย โคตรภู และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม โวทาน และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๕] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *อวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ อาวัชชนะ และวิตก เป็นปัจจัยแก่ปัญจวิญญาณ โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักก- *อวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัย แก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งทุติยฌาน และวิตก เป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งตติยฌาน และวิตก บริกรรมแห่งจตุตถฌาน และวิตก บริกรรมแห่งอากาสา นัญจายตนะ และวิตก บริกรรมแห่งวิญญาณัญจายตนะ และวิตก บริกรรมแห่งอากิญจัญญายตนะ และวิตก บริกรรมแห่งเนวสัญญานาสัญญายตนะ และวิตก บริกรรมแห่งทิพพจักขุ และวิตก บริกรรมแห่งทิพพโสตธาตุ และวิตก บริกรรมแห่งอิทธิวิธญาณ และวิตก บริกรรมแห่งเจโตปริย- *ญาณ และวิตก บริกรรมแห่งปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ ยถากัมมุปคญาณ ฯลฯ อนาคตังสญาณ และวิตก ฯลฯ โคตรภู และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โวทาน และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัย แก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๖] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก- *วิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม โดยอนันตรปัจจัย จุติจิต ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นอวิตักก- *วิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต- *ธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย บริกรรมแห่งฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ฌาน ที่เป็น อวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย โคตรภู และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดย อนันตรปัจจัย โวทาน และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร โดยอนันตรปัจจัย [๑๙๗] สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก- *สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดก่อนๆ และวิตก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น สวิตักกสวิจารธรรมที่เกิดหลังๆ และวิตก โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่โคตรภู และวิตก อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัย แก่โวทาน และวิตก โคตรภู และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โวทาน และวิตก เป็นปัจจัยแก่มรรค ที่เป็นสวิตักกวิจารธรรมและวิตก โดยอนันตรปัจจัย มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ผลที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผล ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก อนุโลม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก โดย อนันตรปัจจัย [๑๙๘] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยสมนันตรปัจจัย อนันตรปัจจัยก็ดี สมนันตรปัจจัยก็ดี เหมือนกัน [๑๙๙] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม โดยสหชาตปัจจัย คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ [๒๐๐] สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม โดยสหชาต- *ปัจจัย คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่วิตก โดยสหชาตปัจจัย ในปฏิสนธิ ขณะ ฯลฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑-๑๗๙๐ หน้าที่ ๑-๗๖. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=1&Z=1790&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=41&item=1&items=2268              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=41&item=1&items=2268&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=41&item=1&items=2268              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=41&item=1&items=2268              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ http://84000.org/tipitaka/read/?index_41

แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :