บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
๖. อารามวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๒๓] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้รู้อยู่เข้าไปสู่อารามที่มีภิกษุโดยไม่บอก ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปเข้าไปสู่อารามโดยไม่บอก ในสิกขาบทที่ ๑ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ ๒ อนุบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่ง อาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๒ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ด่าบริภาษภิกษุ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงเวสาลี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๔๙}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ด่าท่านพระอุบาลี ในสิกขาบทที่ ๒ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๓ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ขึ้งเคียดบริภาษคณะ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาขึ้งเคียดบริภาษคณะ ในสิกขาบทที่ ๓ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๔ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ได้รับนิมนต์แล้วบอกห้ามภัตตาหารแล้ว เคี้ยวของ เคี้ยวหรือฉันของฉันอีก ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๕๐}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปฉันเสร็จแล้ว บอกห้ามภัตตาหารแล้ว ยัง ฉันในที่อื่นอีก ในสิกขาบทที่ ๔ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๔ สมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๕ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้หวงตระกูล ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งหวงตระกูล ในสิกขาบทที่ ๕ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๖ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้จำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ในสิกขาบทที่ ๖ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ สมุฏฐาน เป็นเอฬกโลมสมุฏฐาน ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๕๑}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
สิกขาบทที่ ๗ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้จำพรรษาแล้วไม่ปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ด้วยฐานะ ๓ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปจำพรรษาแล้วไม่ปวารณาต่อภิกษุสงฆ์ ในสิกขาบทที่ ๗ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๘ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ไม่ไปรับโอวาทหรือธรรมเป็นเหตุอยู่ร่วมกัน ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ แคว้นสักกะ ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ไม่ไปรับโอวาท ในสิกขาบทที่ ๘ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นปฐมปาราชิกสมุฏฐาน ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๕๒}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
สิกขาบทที่ ๙ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ไม่ถามอุโบสถ ไม่ขอโอวาท ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูปไม่ถามอุโบสถ ไม่ขอโอวาท ในสิกขาบทที่ ๙ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสิกขาบทที่ ๑๐ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุณีผู้ไม่บอกสงฆ์หรือคณะใช้ให้บ่งฝีหรือบาดแผลที่เกิด ในร่มผ้าอยู่กันสองต่อสองกับชาย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งใช้ชายให้บ่งฝีที่เกิดในร่มผ้าอยู่กันสองต่อสอง กับชาย ในสิกขาบทที่ ๑๐ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ สมุฏฐาน เป็นกฐินสมุฏฐาน ฯลฯอารามวรรคที่ ๖ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๕๓}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๘ หน้าที่ ๒๔๙-๒๕๓. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=44 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=4515&Z=4607 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=592 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=8&item=592&items=10 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=8&item=592&items=10 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu8 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.1/en/brahmali#pli-tv-pvr2.1:112.0 https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.1/en/horner-brahmali#Prv.2.1:Bi-Pc.51
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]