ปริตตารัมมณัตติกะ
ปฏิจจวาร
[๑๕๔๑] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๔๒] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ-
*ปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
มหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ
[๑๕๔๓] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๔๔] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ-
*ปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
[๑๕๔๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในอารัมมณปัจจัย มี " ๓
ในอธิปติปัจจัย มี " ๓ ฯลฯ
ในอวิคตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๕๔๖] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ในเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
[๑๕๔๗] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
เหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
[๑๕๔๘] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๔๙] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อธิปติปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๕๕๐] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อธิปติปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๕๕๑] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะอธิปติปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๕๒] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
ปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
[๑๕๕๓] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
ปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย ในมหัคคตารัมมณ ปฏิสนธิ ไม่มี
[๑๕๕๔] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย เหมือนกับ ไม่ใช่เพราะ
อธิปติปัจจัย
[๑๕๕๕] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะกัมม-
*ปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นปริตตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตารัมมณธรรม
[๑๕๕๖] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
กัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม
[๑๕๕๗] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม
[๑๕๕๘] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
วิปากปัจจัย ปฏิสนธิ ไม่มี
ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย
คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ใน
อเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๕๙] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
มัคคปัจจัย
คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๖๐] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะมัคคปัจจัย
คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๖๑] ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
วิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ
[๑๕๖๒] มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะ
วิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ
[๑๕๖๓] อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ ไม่ใช่
เพราะวิปปยุตตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
[๑๕๖๔] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๓ ฯลฯ
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๑
ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๕๖๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๕๖๖] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑
ในอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอินทริยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๒
ในสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
ปฏิจจวาร จบ
สหชาตวารก็ดี ปัจจยวารก็ดี นิสสยวารก็ดี สังสัฏฐวารก็ดี สัมปยุตตวารก็ดี เหมือน
กับ ปฏิจจวาร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑๐๙๙๘-๑๑๑๓๐ หน้าที่ ๔๖๗-๔๗๓.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=10998&Z=11130&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=41&A=10998&pagebreak=0
ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=41&siri=30
ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1541
พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=41&A=8873
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=12735
The Pali Tipitaka in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=41&A=8873
The Pali Atthakatha in Roman :-
http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=12735
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑
http://84000.org/tipitaka/read/?index_41
อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :-
https://suttacentral.net/patthana1.14/en/narada
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖.
บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙.
บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
