บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] จริงอยู่ ธรรมทั้งหลายอันสัมปยุตด้วยอริยมรรค ย่อมกำหนดถือเอาเพื่อเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่า ปริคฺคหา - กำหนดถือเอา. สภาพแห่งธรรมเหล่านั้น ชื่อว่า ปริคฺคหฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ควรกำหนดถือเอา. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปริวารฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เป็นบริวาร เพราะธรรมเหล่านั้นเป็นบริวารของกันและกัน. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปริปูรฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เต็มรอบโดยบริบูรณ์ด้วยภาวนา. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า เอกคฺคฏฺโฐ - สภาพแห่งสมาธิที่มีอารมณ์อย่างเดียว เพราะเพ่งกำหนดถือเอาอารมณ์เดียว. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อวิกเขปฏฺโฐ - สภาพแห่งสมาธิไม่มีความฟุ้งซ่าน เพราะเพ่งถึงความไม่ฟุ้งซ่านในอารมณ์ต่าง ๆ. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปคฺคหฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ประคองไว้ คือประคองไว้ด้วยความเพียร. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อวิสารฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ไม่กระจายไป เพราะไม่กระจายไปด้วยอำนาจสมาธิ ดุจแป้งใช้ทาในการอาบน้ำ ไม่กระจายไปด้วยน้ำฉะนั้น. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนาวิลฏฺโฐ - สภาพแห่งจิตไม่ขุ่นมัว เพราะไม่ขุ่นมัวด้วยการประกอบความเพียร. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนิญฺชนฏฺโฐ - สภาพแห่งจิตไม่หวั่นไหว เพราะไม่กำเริบ. บทว่า เอกตฺตุปฏฺฐานวเสน - ด้วยสามารถแห่งความปรากฏแห่งจิตมีอารมณ์เดียว ได้แก่ด้วยการประกอบสมาธิ และด้วยสามารถแห่งการตั้งอยู่ในอารมณ์เดียวอย่างมั่นคง. บทว่า ฐิตฏฺโฐ - สภาพแห่งจิตตั้งอยู่ ได้แก่ ตั้งอยู่โดยไม่หวั่นในอารมณ์. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อารมฺมณฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมเป็นอารมณ์ เพราะยึดนิพพานเป็นอารมณ์. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า โคจรฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมเป็นโคจร เพราะเที่ยวไปในความอยาก. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปหานฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ละ เพราะความที่นิพพานเป็นสรณประหาณ. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปริจฺจาคฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่สละ ด้วยสามารถสละกิเลสด้วยอริยมรรค. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า วุฏฺฐานฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ออกด้วยสามารถการออกจากความชั่วร้าย. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า วิวตฺตนฏฺโฐ - สภาพธรรมที่หลีกไปด้วยสามารถหลีกไปจากนิมิตและความเป็นไป. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า สนฺตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ละเอียด เพราะดับสนิท. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปณีตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ประณีต เพราะความเป็นธรรมไม่เดือดร้อน และเพราะความเป็นธรรมสูงสุด. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า วิมุตฺตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่หลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจากกิเลส และน้อมไปในอารมณ์. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนาสวฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ไม่มีอาสวะ เพราะความที่บริสุทธิ์โดยไม่เป็นวิสัยแห่งอาสวะทั้งหลาย. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ตรณฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมเป็นเครื่องข้าม เพราะก้าวล่วงจากกิเลสกันดาร และสังสารกันดาร. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนิมิตฺตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ไม่มีเครื่องหมาย เพราะไม่มีสังขารนิมิต. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อปฺปณิหิตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ไม่มีที่ตั้ง เพราะไม่มีที่ตั้ง คือตัณหา. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า สุญฺญตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ว่างเปล่า เพราะไม่มีสาระในตน. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า เอกรสฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่มีกิจอย่างเดียวกัน เพราะมีรสอย่างเดียวกันด้วยวิมุตติรส หรือเพราะความที่สมถะและวิปัสสนามีรสอย่างเดียวกัน. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนติวตฺตนฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่ไม่ล่วงเลยกัน เพราะสมถะและวิปัสสนาอาศัยซึ่งกันและกัน. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ยุคนทฺธฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เป็นคู่ เพราะสมถะและวิปัสสนานั่นแลเป็นคู่. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า นิยฺยานฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่นำออก เพราะออกไปจากสังขารด้วยอริยมรรค. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า เหตฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เป็นเหตุ เพราะเป็นเหตุให้ถึงนิพพาน. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ทสฺสนฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เห็นเพราะทำนิพพานให้ประจักษ์. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อาธิปเตยฺยฏฺโฐ - สภาพแห่งธรรมที่เป็นอธิบดี เพราะความเป็นใหญ่ยิ่ง. [๓๑] พระสารีบุตรได้แจ้งถึงการวิสัชนา ๔ ข้อมีสมถะเป็นต้นด้วยสามารถแห่งสมถะและวิปัสสนา. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนุปสฺสนฏฺโฐ - สภาพที่พิจารณาเห็น เพราะพิจารณาเห็นด้วยอนิจจลักษณะเป็นต้น. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อนติวตฺตนฏฺโฐ - สภาพที่มิได้ล่วงกัน เพราะความที่สมถะและวิปัสสนาทั้งสองเป็นธรรมคู่กันโดยมีกิจอย่างเดียวกัน. พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๙ ข้อ มีสิกขาเป็นต้น ด้วยสามารถแห่งอริยมรรค เบื้องต้นท่ามกลางและที่สุด. ชื่อว่า สิกฺขา เพราะต้องศึกษา. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า สมาทานฏฺโฐ - สภาพที่สมาทานเพราะต้องสมาทานสิกขานั้น. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า โคจรฏฺโฐ - สภาพที่โคจร เพราะเป็นที่ตั้งแห่งภาวนาและความเป็นไปของอารมณ์ที่ตั้งอยู่ในศีลแล้วถือเอาด้วยกรรมฐานและเพราะเป็นที่ตั้งแห่งโคจร. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปคฺคหฏฺโฐ - สภาพที่ประคองจิต คือสภาพที่พยายามทำจิตที่หดหู่ด้วยความเกียจคร้าน ด้วยเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ วีริยสัมโพชฌงค์และปีติสัมโพชฌงค์. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า วินิคฺคหฏฺโฐ - สภาพที่ปราบจิต คือสภาพทำจิตที่ฟุ้งซ่านด้วยอุทธัจจะให้สงบ เจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์และอุเบกขาสัมโพชฌงค์. บทว่า อุโภ วิสุทฺธานํ - จิตบริสุทธิ์จากทั้งสอง. อธิบายว่า คุมจิตอันบริสุทธิ์จากความหดหู่และฟุ้งซ่าน. พึงทราบว่า ท่านทำเป็นพหุวจนะ ด้วยสามารถแห่งจิตตั้งอยู่ในความเป็นกลาง เป็นไปด้วยอำนาจของสันตติ. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อชฺฌุเปกฺขณฏฺโฐ - สภาพที่คุมจิต คือไม่มีความขวนขวายในความพยายามและในการทำให้สงบ. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า วิเสสาธิคมนฏฺโฐ - สภาพที่จิตบรรลุคุณวิเศษ คือการอบรมจิตให้เป็นไปสม่ำเสมอ. สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า อุตฺตริปฏิเวธฏฺโฐ - สภาพที่แทงตลอดอริยมรรคอันประเสริฐ คือด้วยสามารถทำ สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า สจฺจาภิสมยฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้สัจจะ คือด้วยสามารถแทงตลอดอริยสัจ ๔ สำเร็จด้วย สภาพแห่งธรรม ชื่อว่า ปติฏฺฐาปกฏฺโฐ - สภาพที่ทำจิตให้ตั้งอยู่ คือให้ตั้งอยู่ในนิโรธด้วยอำนาจผลสมาบัติ. เพราะผลสมาบัตินั้นยังบุคคลผู้มีความพร้อมให้ตั้งอยู่ในนิพพานอันได้แก่นิโรธ. [๓๒] พระสารีบุตรกล่าวถึงการวิสัชนา ๕ ข้อมีสัทธินทรีย์เป็นต้น ด้วยสามารถ บทว่า อธิโมกฺขฏฺโฐ - สภาพที่น้อมไป. บทว่า อุปฏฺฐานฏฺโฐ - สภาพที่ตั้งมั่น คือสภาพที่เข้าไปตั้งมั่นซึ่งอารมณ์. บทว่า ทสฺสนฏฺโฐ - สภาพที่เห็น คือสภาพที่เพ่งถึงความเป็นจริง. [๓๓] พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๕ ข้อมีสัทธาพละเป็นต้นด้วยสามารถแห่งสภาพธรรมคือพละ. ชื่อว่า สทฺธาพลํ เพราะสัทธานั่นแลเป็นกำลัง ด้วยอรรถว่าไม่หวั่นไหว. บทว่า อสฺสทฺธิเย เพราะความไม่มีสัทธา. อนึ่ง บทว่า อสฺสทฺธิยํ ได้แก่ จิตตุปบาทอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสัทธา. บทว่า อกมฺปิยฏฺโฐ ได้แก่ สภาพที่ไม่ควรหวั่นไหว. อธิบายว่า ไม่สามารถให้หวั่นไหวได้. บทว่า โกสชฺเช - เพราะความเกียจคร้าน ได้แก่ เพราะถีนมิทธะอันเป็นความเกียจคร้าน. บทว่า ปมาเท - เพราะความประมาท ได้แก่ เพราะจิตตุปบาทอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสติ. บทว่า อุทฺธจฺเจ คือ เพราะความฟุ้งซ่าน กล่าวคือความไม่สงบ. บทว่า อวิชฺชาย - เพราะอวิชชา ได้แก่ เพราะโมหะ. [๓๔] พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๗ ข้อมีสติสัมโพชฌงค์เป็นต้นด้วยสามารถแห่งสภาพธรรมคือโพชฌงค์. องค์แห่งธรรมเครื่องตรัสรู้ ชื่อว่าโพชฌงค์. โพชฌงค์เป็นธรรมประเสริฐและเป็นธรรมดี ชื่อว่าสัมโพชฌงค์. สตินั่นแลเป็นสัมโพชฌงค์ จึงชื่อว่าสติสัมโพชฌงค์. ชื่อว่าธรรมวิจยะ เพราะเลือกเฟ้นธรรม. บทนี้เป็นชื่อของปัญญา. บทว่า ปวิจยฏฺโฐ - สภาพที่เลือกเฟ้น ได้แก่สภาพที่ไตร่ตรอง. ชื่อว่า ปีติ เพราะเอิบอิ่มใจ. บทว่า ผรณฏฺโฐ - สภาพที่แผ่ไป ได้แก่สภาพที่ซ่านไป. ความสงบ ชื่อว่า ปสฺสทฺธิ. บทว่า อุปสมฏฺโฐ - สภาพที่สงบ ได้แก่ สภาพที่ไม่มีความกระวนกระวาย. ชื่อว่า อุเปกฺขา เพราะเห็นโดยอุบัติ. อธิบายว่า เพ่งสม่ำเสมอ คือเพ่งไม่ตกไปในฝ่ายใด. อุเบกขานั้นในที่นี้ได้แก่ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา คือ วางเฉยด้วยความเป็นกลางในอารมณ์นั้นๆ. เรียกว่า โพชฺฌงฺคุเปกฺขา บ้าง. บทนี้เป็นชื่อของอุเบกขานั้น. ชื่อว่า ปฏิสงฺขานฏฺโฐ - สภาพที่พิจารณาหาทาง เพราะมีลักษณะนำไปเสมอ. [๓๕] พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๘ ข้อมีสัมมาทิฏฐิเป็นต้นด้วยมรรค. ชื่อว่า สมฺมาทิฏฺฐิ เพราะเห็นชอบ หรือเห็นชอบด้วยทิฏฐินั้น หรือการเห็นประเสริฐดี. แห่งสัมมาทิฏฐินั้น. ชื่อว่า สมฺมาสงฺกปฺโป เพราะดำริชอบ, หรือดำริชอบด้วยความดำรินั้น, หรือความดำริประเสริฐดี. บทว่า อภิโรปนฏฺโฐ - สภาพที่ตรึก ได้แก่ สภาพที่ตรึกอารมณ์ของจิต. ปาฐะว่า อารมฺ ชื่อว่า สมฺมาวาจา เพราะพูดชอบ หรือพูดด้วยวาจานั้นชอบ หรือวาจาประเสริฐดี. บทนี้เป็นชื่อของการเว้นจากมิจฉาวาจา. บทว่า ปริคฺคหฏฺโฐ สภาพที่กำหนด ได้แก่ กำหนดสำรวมวาจา ๔ อย่าง. ชื่อว่า สมฺมากมฺมํ เพราะทำชอบ, หรือทำชอบด้วยการงานนั้น หรือการงานประเสริฐดี, การงานชอบนั่นแล ชื่อว่า สมฺ บทว่า สมุฏฺฐานฏฺโฐ สภาพที่ตั้งขึ้น ได้แก่ สภาพที่ตั้งขึ้นด้วยการสำรวมกาย ๓ อย่าง. ชื่อว่า สมฺมาอาชีโว เพราะเป็นอยู่ชอบ หรือเป็นอยู่ด้วยอาชีพนั้นชอบ, หรืออาชีพประเสริฐดี. บทนี้เป็นชื่อของการเว้นจากมิจฉาชีพ. บทว่า โวทานฏฺโฐ สภาพที่ผ่องแผ้ว ได้แก่ สภาพที่บริสุทธิ์. ชื่อว่า สมฺมาวายาโม เพราะพยายามชอบ หรือพยายาม, หรือพยายามชอบด้วยความพยายามนั้น, หรือพยายามประเสริฐดี. ชื่อว่า สมฺมาสติ เพราะระลึกชอบ, หรือระลึกด้วยสตินั้นชอบ, หรือระลึกประเสริฐดี. ชื่อว่า สมฺมาสมาธิ เพราะตั้งใจชอบ, หรือตั้งใจชอบด้วยสมาธินั้น, หรือตั้งใจประเสริฐดี. [๓๖] พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๑๐ ข้อมีอินทรีย์เป็นต้น ทำให้เป็นหมวดหมู่ตามลำดับ. บทว่า อาธิปเตยฺยฏฺโฐ สภาพที่เป็นใหญ่ ได้แก่ สภาพที่เป็นอธิบดี ด้วยสามารถทำความเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน. บทว่า อกมฺปิยฏฺโฐ - สภาพที่ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ปฏิปักษ์ไม่สามารถทำให้หวั่นไหวได้. บทว่า นิยฺยานฏฺโฐ - สภาพที่นำออก ได้แก่ การออกไปจากปฏิปักษ์ด้วยโลกิยะและโลกุตระ. บทว่า เหตฏฺโฐ สภาพที่เป็นเหตุ. ชื่อว่า เหตฏฺโฐ เพราะสัมมาทิฏฐิเป็นต้น เป็นเหตุเพื่อละมิจฉาทิฏฐิเป็นต้น หรือเพราะสัมมาทิฏฐิทั้งหมดเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพาน. ชื่อว่าอุปัฏฐาน เพราะโลดแล่นไปในอารมณ์อันเป็นสติปัฏฐานแล้วตั้งมั่น, สตินั่นแลตั้งมั่นจึงชื่อว่าสติ สตินั้นในกายเวทนาจิตธรรม ย่อมมีประเภท ๔ อย่างที่เป็นไปด้วยการยึดถืออาการ คือความไม่งาม ความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่เป็นตัวตน และด้วยสำเร็จกิจคือการละความสำคัญว่าเป็นของงาม เป็นความสุข เป็นของเที่ยง เป็นตัวตน. จิตเหล่านี้ย่อมได้ในจิตต่างๆ ในส่วนเบื้องต้น, ส่วนสติอย่างเดียวเท่านั้นย่อมได้ชื่อ ๔ อย่างในขณะของมรรค. ชื่อว่าปธาน เพราะเป็นเหตุเริ่มตั้งในสัมมัปธาน, การเริ่มตั้งชอบ ชื่อว่าสัม อนึ่ง การเริ่มตั้งนั้นชอบ ชื่อว่าปธาน เพราะเว้นจากการผิดปกติของกิเลส, ชื่อว่า บทนี้เป็นชื่อของวีริยะ. วีริยะนั้นมี ๔ ประเภทโดยให้สำเร็จ คือละอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ๑ อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ๑ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ๑ กุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้ตั้งอยู่ ๑. ปธานเหล่านี้ย่อมได้ในจิตต่างๆ ในส่วนเบื้องต้น, ส่วนวีริยะอย่างเดียวเท่านั้นย่อมได้ ๔ ชื่อในขณะแห่งมรรค . บทว่า ปทหนฏฺโฐ สภาพที่เริ่มตั้ง ได้แก่ สภาพที่อุตสาหะ. ปาฐะว่า ปธานฏฺโฐ ดังนี้ก็มี, ความอย่างเดียวกัน. ในบทว่า อิทฺธิปาทานํ นี้มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ ชื่อว่า อิทฺธิ เพราะบรรดาฉันทะ วีริยะ จิตตะ วีมังสาอย่างหนึ่งๆ ย่อมสำเร็จ, อธิบายว่า ย่อมสำเร็จเสมอ คือย่อมปรากฏชัด. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า อิทฺธิ เพราะสัตว์ทั้งหลายย่อมสำเร็จด้วยอิทธินั้น คือว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นผู้สำเร็จ เจริญดียิ่ง. โดยอรรถที่หนึ่ง ปาท - ธรรมเครื่องให้ถึงคือ อิทฺธิ - ความสำเร็จชื่อว่าอิทธิบาท, ความว่า ส่วนแห่งความสำเร็จ. โดยอรรถที่สอง ชื่อว่าอิทธิบาท เพราะเป็นธรรมเครื่องให้ถึงความสำเร็จ. บทว่า ปาโท - คือเป็นที่ตั้ง. อธิบายว่า เป็นอุบายให้บรรลุ. เพราะสัตว์ทั้งหลายย่อมถึง คือย่อมบรรลุความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยอิทธิบาทนั้น, ฉะนั้น ท่านจึงเรียกว่า ปาโท. อิทธิบาทมีฉันทะเป็นต้นเหล่านั้น ย่อมได้ในจิตต่างๆ ด้วยความเป็นใหญ่ในส่วนเบื้องต้น, แต่ในขณะแห่งมรรคย่อมได้ร่วมกันโดยแท้. บทว่า อิชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่สำเร็จ คือสภาพที่ปรากฏ หรือสภาพเป็นที่ตั้ง. บทว่า สจฺจานํ ได้แก่ อริยสัจ ๔. บทว่า ตถฏฺโฐ - สภาพที่เที่ยงแท้ ได้แก่ สภาพตามที่เป็นจริง. การวิสัชนา ๘ เหล่านี้เจือด้วยโลกิยะและโลกุตระ. บทว่า ปโยคานํ - ปโยคะทั้งหลาย ได้แก่ ปโยคะของอริยมรรค ๔. บทว่า ปฏิปสฺสทฺธฏฺโฐ - สภาพที่ระงับ ได้แก่ ระงับด้วยอริยผล ๔. จริงอยู่ มรรคปโยคะเป็นอันระงับในขณะแห่งผล เพราะหมดกิจแล้ว. หรือภาวะแห่งมรรคปโยคะระงับด้วยผลเกิดขึ้น. บทว่า ผลานํ สจฺฉิกิริยฏฺโฐ - สภาพที่ทำให้แจ้งแห่งผล ได้แก่สภาพที่ทำให้ประจักษ์ด้วยพิจารณาอริยผล. เป็นอันท่านกล่าวถึงการทำให้แจ้งซึ่งอารมณ์. หรือการทำให้แจ้งซึ่งการได้ในขณะแห่งผล. พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๕ ข้อมีวิตกเป็นต้นด้วยองค์ฌาน. การตรึกชื่อว่าวิตักกะ ท่านกล่าวว่า ได้แก่ การยกขึ้น. การตรองชื่อว่าวิจาร ท่านกล่าวว่า ได้แก่ การตามตรวจตรา. บทว่า อุปวิจารฏฺโฐ - สภาพที่ตรวจตรา ได้แก่ สภาพที่ตามขัดสีชำระล้าง. บทว่า อภิสนฺทนฏฺโฐ - สภาพที่ไหลมา ได้แก่ สภาพที่ชุ่มชื้น คือสภาพที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งด้วยอำนาจสมาธิ. พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๕ ข้อมีอาวัชชนะ - การคำนึงเป็นต้นโดยเป็นข้อเบ็ดเตล็ด. สภาพที่คำนึงของจิต ๒ ดวงน้อมไปสู่จิตสันดานในอารมณ์อื่นจากอารมณ์แห่งภวังคะ ในปัญจทวารและมโนทวาร, สภาพที่รู้แจ้งด้วยวิญญาณ สภาพที่รู้ชัดด้วยปัญญา สภาพที่จำได้แห่งสัญญา. สภาพที่สมาธิเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะสมาธิในทุติยฌานเป็นเอกผุดขึ้น ท่านจึงกล่าวว่า เอโกทิ. อธิบายว่า เป็นสมาธิเลิศประเสริฐ เกิดขึ้นเพราะวิตกวิจาร สงบเงียบ. เพราะสมาธิประเสริฐ ท่านจึงกล่าวว่า เป็นธรรมเอกในโลก. อีกอย่างหนึ่ง ท่านกล่าวว่า เป็นธรรมเอกไม่มีคู่ เว้นวิตกวิจารผุดขึ้นดังนี้บ้าง ย่อมควร. อีกอย่างหนึ่ง กุศลสมาธิแม้ทั้งหมดเป็นธรรมสงบเงียบจากวิตกวิจารเหล่านั้น เพราะเป็นปฏิปักษ์ต่อนิวรณ์เป็นต้น หรือต่ออุทธัจจะเท่านั้น ฉะนั้นจึงเป็นธรรมอันเลิศผุดขึ้น หรือเว้นจากวิตกวิจารเหล่านั้น จึงเป็นธรรมไม่มีคู่ผุดขึ้น จึงชื่อว่า เอโกทิ เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ย่อมถูกต้อง. [๓๗] บทว่า อภิญฺญาย ญาตฏฺโฐ - สภาพที่รู้แห่งปัญญา ได้แก่ สภาพที่รู้ถึงสภาวธรรมด้วยญาตปริญญา - กำหนดรู้ด้วยการรู้. บทว่า ปริญฺญาย ตีรณฏฺโฐ - สภาพที่กำหนดพิจารณาด้วยปริญญา ได้แก่ สภาพที่กำหนดพิจารณาโดยเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้นด้วยตีรณปริญญา - กำหนดรู้ด้วยการพิจารณา. บทว่า ปหานสฺส ปริจฺจาคฏฺโฐ สภาพที่สละแห่งปหาน ได้แก่ สภาพที่สละธรรมอันเป็นปฏิปักษ์ต่อปหานปริญญา - กำหนดรู้ด้วยการละเสีย. สภาพที่ภาวนาเป็นไปเสมอ มีกิจเป็นอย่างเดียวกัน - ชื่อว่า ภาวนาย เอกรสฏฺโฐ. บทว่า ผสฺสนฏฺโฐ - สภาพที่ถูกต้อง ได้แก่ สภาพที่ประสบ. ชื่อว่าสภาพที่เป็นขันธ์ - ขนฺธฏฺโฐ ด้วยการแบกภาระที่หนักตื้อเป็นต้นไป. ชื่อว่าสภาพที่ทรงไว้ - ธาตฏฺโฐ เพราะความว่างเปล่าเป็นต้น. ชื่อว่าสภาพที่ต่อ - อายตนฏฺโฐ เพราะการต่อเขตแดนอันเป็นส่วนของตนๆ. ชื่อว่าสภาพที่ปัจจัยปรุงแต่ง - สงฺขตฏฺโฐ เพราะทำร่วมกับปัจจัยทั้งหลาย. ชื่อว่าสภาพที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง - อสงฺขตฏฺโฐ เพราะตรงกันข้ามกับปัจจัยปรุงแต่งนั้น. [๓๘] พระสารีบุตรได้แจ้งถึงการวิสัชนา ๑๕ ข้อมีบทว่า จิตฺตฏฺโฐ สภาพที่คิดเป็นต้น. พึงทราบวินิจฉัยในบทว่า จิตฺตฏฺโฐ ดังต่อไปนี้. ชื่อว่า จิตฺตํ เพราะคิดถึงอารมณ์, ความว่า ย่อมรู้แจ้ง. ชวนจิตมีอยู่ในอารมณ์นี้ ย่อมสะสมสันดานของตน ด้วยชวนวิถีจิตแม้ดังนี้ก็ชื่อว่า จิตฺ ชื่อว่า อนนฺตรํ เพราะจิตนั้นไม่มีระหว่างในการเกิดของจิต ในการเกิดของผล. ความเป็นอนันตระชื่อว่าอนันตริยะ - ความไม่มีระหว่าง, ความที่จิตไม่มีระหว่าง ชื่อว่าจิตตานันตริยะ. จิตตานันตริยะนั้นคือสภาพแห่งจิตไม่มีระหว่าง. อธิบายว่า สมรรถภาพในจิตตุปบาท ในระหว่างของจิตดวงใดดวงหนึ่งดับในระหว่างเสมอ เว้นจุติจิตของพระอรหันต์. สมรรถภาพในการเกิดผลในระหว่างของมรรคจิต. บทว่า จิตฺตสฺส วุฏฺฐานฏฺโฐ - สภาพที่ออกแห่งจิต ได้แก่สภาพที่ออกโดยเป็นนิมิตแห่ง บทว่า จิตฺตสฺส วิวฏฺฏนฏฺโฐ - สภาพที่หลีกไปแห่งจิต คือสภาพที่หลีกไปในนิพพานของจิตสองดวงนั้นซึ่งตั้งขึ้นโดยที่กล่าวไว้แล้ว. บทว่า จิตฺตสฺส เหตฏฺโฐ - สภาพที่เป็นเหตุแห่งจิต ได้แก่สภาพที่เป็นเหตุของเหตุ ๙ อย่างที่เป็นปัจจัยของจิต. บทว่า จิตฺตสฺส ปจฺจยฏฺโฐ - สภาพที่เป็นปัจจัยแห่งจิต ได้แก่สภาพที่เป็นปัจจัยแห่งปัจจัยมากมายของจิตมีวัตถารัมมณะเป็นต้น. บทว่า จิตฺตสฺส วตฺถฏฺโฐ - สภาพเป็นที่ตั้งแห่งจิต ได้แก่สภาพเป็นที่ตั้งแห่งตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ (หทัย) อันเป็นที่ตั้งของจิต. บทว่า จิตฺตสฺส ภูมฏฺโฐ - สภาพที่เป็นภูมิแห่งจิต ได้แก่สภาพที่เป็นภูมิมีกามาวจรภูมิเป็นต้น ด้วยเป็นถิ่นที่เกิดของจิต. บทว่า จิตฺตสฺส อารมฺมณฏฺโฐ - สภาพเป็นอารมณ์ของจิต ได้แก่อารมณ์มีรูปเป็นต้น. ชื่อว่า โคจรฏฺโฐ - สภาพที่เป็นโคจร เพราะอรรถว่าเป็นที่สัญจรของอารมณ์ที่สะสมไว้. ชื่อว่า จริยฏฺโฐ - สภาพที่เที่ยวไป เพราะเที่ยวไปในวิญญาณที่กล่าวไว้ในตอนต้น. อีกอย่างหนึ่ง สภาพที่ปรากฏแห่งปโยคะ ชื่อว่าจริยฏัฐะ. ชื่อว่า คตฏฺโฐ - สภาพที่ไปด้วยการยึดถืออารมณ์ไกลและใกล้ แม้ในความที่จิตไม่ไป. บทว่า อภินีหารฏฺโฐ - สภาพที่นำไปยิ่ง ได้แก่สภาพที่นำไปยิ่งแห่งจิต เพื่อมนสิการถึงอารมณ์อื่นจากอารมณ์ที่ยึดถือไว้. บทว่า จิตฺตสฺส นิยฺยานฏฺโฐ - สภาพที่นำออกแห่งจิต ได้แก่ สภาพที่นำออกจากวัฎฏะแห่งมรรคจิต. ชื่อว่า จิตฺตสฺส นิสฺสรณฏฺโฐ - สภาพที่สลัดออกแห่งจิต เพราะนัยมีอาทิว่า จิตของผู้ได้เนกขัมมะเป็นอันสลัดออกจากกามฉันทะ.๑- ____________________________ ๑- ขุ. ป. เล่ม ๓๑/ข้อ ๖๕ [๓๙] พระสารีบุตรได้ชี้แจงถึงการวิสัชนา ๔๒ ข้อมี เอกตฺเต เป็นต้น. โดยเชื่อม เอกตฺต ศัพท์ทุกแห่ง. บทว่า เอกตฺเต คือ ในความที่จิตมีอารมณ์อย่างเดียว. อธิบายว่า ได้แก่ เอการัมมณะ. ชื่อว่า ปกฺขนฺทนฏฺโฐ - สภาพที่แล่นไป เพราะอำนาจปฐมฌาน. ชื่อว่า ปสีทนฏฺโฐ - สภาพที่ผ่องใส เพราะอำนาจทุติยฌาน. ชื่อว่า สนฺติฏฺฐนฏฺโฐ - สภาพที่ตั้งมั่น เพราะอำนาจตติยฌาน. ชื่อว่า มุจฺจนฏฺโฐ - สภาพที่หลุดพ้น เพราะอำนาจจตุตถฌาน. ชื่อว่า ปสฺสนฏฺโฐ - สภาพที่เห็นนี้ ละเอียดด้วยอำนาจการพิจารณา. การวิสัชนา ๕ มี ยานีกตฏฺโฐ - สภาพที่ทำให้เป็นเช่นดังยานเป็นต้น เป็นความชำนาญอันวิเศษของสมาธิ. บทว่า ยานีกตฏฺโฐ ได้แก่ สภาพที่ทำให้เป็นเช่นดังยานที่เทียมแล้ว. บทว่า วตฺถุกตฏฺโฐ - สภาพที่ทำให้เป็นที่ตั้ง ได้แก่สภาพที่ทำให้ตั้งไว้ดุจวัตถุ. บทว่า อนุฏฺฐิตฏฺโฐ - สภาพที่ตั้งขึ้นเนืองๆ ได้แก่สภาพที่เข้าไปตั้งไว้เฉพาะ. บทว่า ปริจิตฏฺโฐ - สภาพที่อบรม ได้แก่สภาพที่สะสมไว้โดยรอบ. บทว่า สุสมารทฺธฏฺโฐ - สภาพที่ปรารภพร้อมด้วยดี ได้แก่สภาพที่เริ่มด้วยดี. อธิบาย สภาพที่ทำไว้ดี. อีกอย่างหนึ่ง ควรประกอบบท ๕ บท ตามลำดับด้วยความเป็นผู้ชำนาญในอาวัชชนะ สมาปัชนะ อธิฏฐานะ วุฏฐานะ ปัจจเวกขณะ. สภาพที่กำหนดถือเอา - สภาพที่เป็นบริวาร สภาพที่บริบูรณ์แห่งจิตเจตสิกในเวลาที่ถึงยอดแห่งการภาวนาอารมณ์มีกสิณเป็นต้น. ชื่อว่า สโมธานฏฺโฐ - สภาพที่ประชุม เพราะเจตสิกเหล่านั้นตั้งไว้แล้วชอบ ด้วยการประชุมในอารมณ์เดียว. ชื่อว่า อธิฏฺฐานฏฺโฐ - สภาพที่อธิษฐาน เพราะจิตเจตสิกเหล่านั้นครอบงำอารมณ์ด้วยการปลูกกำลัง แล้วตั้งมั่น. ชื่อว่า อาเสวนฏฺโฐ - สภาพที่เสพ เพราะเสพอย่างเอาใจใส่แห่งสมถะหรือวิปัสสนาตั้งแต่ต้น. ชื่อว่า ภาวนฏฺโฐ - สภาพที่เจริญ เพราะสามารถทำให้เจริญ. ชื่อว่า พหุลีกมฺมฏฺโฐ - สภาพที่ทำให้มาก เพราะการทำบ่อยๆ. ชื่อว่า สุสมุคฺคตฏฺโฐ - สภาพที่รวมด้วยดี เพราะสามารถการรวมสิ่งที่ทำไว้มากแล้วด้วยดี. ชื่อว่า สุวิมุตฺตฏฺโฐ - สภาพที่หลุดพ้นด้วยดี เพราะสามารถการหลุดพ้นด้วยดีจากธรรมเป็นข้าศึกของสภาพที่รวมไว้ดีแล้ว และสามารถในการน้อมไปด้วยดีในอารมณ์. พระสารีบุตรกล่าวถึงบท ๔ บทมีบทว่า พุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้ด้วยโพชฌงค์เป็นต้น. ชื่อว่า พุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้โพชฌงค์ เพราะองค์แห่งโพชฌงค์ของโสดาปัต ชื่อว่า อนุพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้ตามโพชฌงค์ เพราะองค์แห่งโพชฌงค์ของสก ชื่อว่า ปฏิพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้เฉพาะโพชฌงค์ เพราะองค์แห่งโพชฌงค์ของอนา ชื่อว่า สมฺพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้พร้อมโพชฌงค์ เพราะองค์แห่งโพชฌงค์ของ อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า พุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้โพชฌงค์ด้วยวิปัสสนา. ชื่อว่า อนุพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้ตามโพชฌงค์ด้วยทัสนมรรค. ชื่อว่า ปฏิพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้เฉพาะโพชฌงค์ด้วยภาวนามรรค. ชื่อว่า สมฺพุชฺฌนฏฺโฐ - สภาพที่ตรัสรู้พร้อมโพชฌงค์ด้วยผล. พึงทราบอรรถ ๔ อย่างมีโพธนัฏฐะ - สภาพที่ตื่นเป็นต้นแห่งโพชฌงค์ทั้งหลายด้วยกระทำการตื่นเป็นต้นของบุคคลนั้นๆ. ธรรมทั้งหลายชื่อว่าโพธิปักขิยะ เพราะมีในฝักฝ่ายของบุคคลผู้ใด ชื่อว่าโพธะ เพราะอรรถว่าตรัสรู้โพชฌงค์ตามที่กล่าวแล้วนั่นแล. พึงทราบอรรถ ๔ อย่างมีโพธิปักขิยัฏฐะ - สภาพที่เป็นไปในฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้เป็นต้นแห่งโพชฌงค์ตามที่กล่าวแล้ว. ชื่อว่า โชตนฏฺโฐ - สภาพที่สว่าง เพราะวิปัสสนาปัญญา. ชื่อว่า อุชฺโชตนานุโชตนปฏิโชตนสญฺโชตนฏฺโฐ - สภาพที่สว่างขึ้น สภาพที่สว่างเนืองๆ สภาพที่สว่าง เฉพาะสภาพที่สว่างพร้อมด้วยมรรคปัญญา ๔ ตามลำดับ. อีกอย่างหนึ่ง พึงทราบ โชตนฏฺโฐ - สภาพที่สว่างเป็นต้นด้วยมรรคปัญญา ๔, สญฺโชตนฏฺโฐ - สภาพที่สว่างพร้อมด้วยผลปัญญาตามลำดับ. .. อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ๑. ญาณกถา ทุติยภาณวาร |