ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย  
อรรถกถาเล่มที่ ๑๕ ภาษาบาลีอักษรไทย องฺ.อ. (มโนรถ.๒)

                          ๗. ๒. มหาวคฺค
                       ๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา
     [๖๒] ทุติยสฺส ปเม ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ
วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกรา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยา ชานิตพฺพา,
ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺี ทิฏฺิโย. ติตฺถกรา นาม ตาสํ
ทิฏฺีนํ อุปฺปาทกา. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย นาม รุจฺจนฺติ ขมนฺติ.
ติตฺถิยสาวกา นาม เตสํ ปจฺจยทายกา. อายตนนฺติ "อสฺสานํ กมฺโพโช ๔- อายตนํ,
คุนฺนํ ทกฺขิณาปโถ อายตนนฺ"ติ เอตฺถ สญฺชาติฏฺานํ อายตนํ นาม.
             "มโนรเม อายตเน       เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา
              ฉายํ ฉายตฺถิกา ยนฺติ     ผลตฺถา ผลโภชิโน"ติ ๕-
เอตฺถ สโมสรณฏฺานํ. "ปญฺจิมานิ ภิกฺขเว วิมุตฺตายตนานี"ติ ๖- เอตฺถ การณํ. ตํ
อิธ สพฺพมฺปิ ลพฺภติ. สพฺเพปิ หิ ทิฏฺิคติกา สญฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ
@เชิงอรรถ:  ม. อนวเสสํ    ก. ตฺยาหนฺติ     ม. ตสฺส อหํ    ฉ.ม. กมฺโพโช อสฺสานํ
@ องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๒๖/๒๒ ปญฺจงฺคิกวคฺค (สฺยา)    องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๓๘/๔๖
@สุมนวคฺค (สฺยา)

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๔.

สญฺชายนฺติ, สโมสรมานาปิ เอเตสุเยว ตีสุ าเนสุ สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว ปเนสํ ๑- เอตาเนว ตีณิ การณานิ ๒- ติตฺถภูตานิ สญฺชาติอาทินา อตฺเถน อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. สมนุยุญฺชิยมานานีติ กา นาเมตา ทิฏฺิโยติ เอวํ ปุจฺฉิยมานานิ. สมนุคฺคาหิยมานานีติ กึการณา เอตา ทิฏฺิโย อุปฺปนฺนาติ เอวํ สมฺมา อนุคฺคาหิยมานานิ. สมนุภาสิยมานานีติ ปฏินิสฺสชฺชถ ตานิ ปาปกานิ ทิฏฺิคตานีติ เอวํ สมฺมา อนุภาสิยมานานิ. อปิจ ตีณิปิ เอตานิ อนุโยคปุจฺฉาเววจนาเนว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ "สมนุยุญฺชตีติ วา สมนุคฺคาหตีติ วา สมนุภาสตีติ วา เอเสเส เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตญฺเวา"ติ. ปรมฺปิ คนฺตฺวาติ อาจริยปรมฺปรา ลทฺธิปรมฺปรา อตฺตภาวปรมฺปราติ เอเตสุ ยงฺกิญฺจิ ปรมฺปรํ คนฺตฺวาปิ. อกิริยาย สณฺหนฺตีติ อกิริยมตฺเต สนฺติฏฺนฺติ. "อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ ปาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ อาจริย- ปาจริโย ปุพฺเพกตวาที. อมฺหากํ อาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ ปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที. อมฺหากํ อาจริโย อเหตุกอปจฺจยวาที อมฺหากํ ปาจริโย อเหตุกอปจฺจยวาที. อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุกอปจฺจยวาที"ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ หิ เอตานิ อาจริยปรมฺปรา ๓- คจฺฉนฺติ นาม. "อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตลทฺธิโก, อมฺหากํ ปาจริโย ฯเปฯ อมฺหากํ อาจริย- ปาจริโย อเหตุกอปจฺจยลทฺธิโก"ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ ลทฺธิปรมฺปรา คจฺฉนฺติ นาม. "อมฺหากํ อาจริยสฺส อตฺตภาโว ปุพฺเพกตเหตุ, อมฺหากํ ปาจริยสฺส ฯเปฯ อมฺหากํ อาจริยปาจริยสฺส อตฺตภาโว อเหตุกอปจฺจโย"ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ อตฺตภาวปรมฺปรา คจฺฉนฺติ นาม. เอวํ ปน สุวิทูรมฺปิ คจฺฉนฺตานิ อกิริยมตฺเตว สณฺหนฺติ, เอโกปิ เอเตสํ ทิฏฺิคติกานํ กตฺตา วา กาเรตา วา น ปญฺายติ. @เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. จ เนสํ ฉ.ม.,อิ. การณานีติ ฉ.ม.....ปรมฺปรํ. เอวมุปริปิ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๕.

ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามญฺจ ปุริโสติปิ วุตฺเต ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต โหติ, อยํ ปน สมฺมติกถา นาม โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ ปฏิสํเวทิตํ กโรติ, อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพกตการณา, ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมเวทนญฺจ กิริยเวทนญฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ- เยว. ๑- อิเม ปิตฺตสมุฏฺานา อาพาธา เสมฺหสมุฏฺานา วาตสมุฏฺานา สนฺนิปาติกา อุตุปริณามชา วิสมปริหารชา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธาติ อฏฺโรคา วุตฺตา, เตสุ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺมํเยว ๒- สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียนฺติ ตโย กมฺมราสโย วุตฺตา, เตสุปิ เทฺว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายกมฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนีโย วิปาโก อุปปชฺชเวทนีโย อปรปริยายเวทนีโยติ ตโย วิปากราสโย วุตฺตา, เตสุปิ เทฺว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายวิปากเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม กุสลเจตนา อกุสลเจตนา วิปากเจตนา กิริยเจตนาติ จตฺตาโร เจตนาราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ตโย ปฏิพาหิตฺวา เอกํ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ อิสฺสรนิมฺมานการณา, อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ หิ เตสํ อธิปฺปาโย:- อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อเหตุอปจฺจยา วา ปฏิสํเวเทตุํ นาม น สกฺกา, อิสฺสรนิมฺมานการณาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ โรเคสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพ ปฏิพาหนฺติ, เหฏฺา วุตฺเตสุ จ ตีสุ กมฺมราสีสุ ตีสุ วิปากราสีสุ จตูสุ เจตนาราสีสุ เอกํปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพ ปฏิพาหนฺติ. อเหตุอปจฺจยาติ เหตุญฺจ ปจฺจยญฺจ วินา, อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยญฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย:- อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน @เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เย วา ฉ.ม.,อิ. เอกํ วิปากเวทนํเยว

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๖.

วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา วา ปฏิสํเวเทตุํ นาม น สกฺกา, อเหตุอปจฺจยาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ โรคาทีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ. เอวํ สตฺถา มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺร ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ วทามีติ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ ทสฺเสติ. ลทฺธิญฺหิ อปติฏฺาเปตฺวา นิคฺคยฺหมานา ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺติ, โภ โคตม กึ ๑- ปุพฺเพกตวาทํ วทามาติอาทีนิ วทนฺติ. ลทฺธิยา ปน ปติฏฺาปิตาย สงฺกมิตุํ อลภนฺตา สุนิคฺคหิตา โหนฺตีติ, ๒- อิติ เนสํ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ อาห. เตนหายสฺมนฺโตติ เตนหิ อายสฺมนฺโต. กึ วุตฺตํ โหติ:- ยทิ เอตํ สจฺจํ, เอวํ สนฺเต เตน ตุมฺหากํ วาเทน. ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตูติ เย เกจิ โลเก ปาณํ อติปาเตนฺติ, สพฺเพ เต ปุพฺเพกตเหตุ ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ. กึการณา? น หิ ปาณาติปาตกมฺมํ อตฺตนา กตมูลเกน น อาณตฺติมูลเกน น อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา น อเหตุอปจฺจยา สกฺกา ปฏิสํเวเทตุํ, ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ อยํ โว ลทฺธิ. ยถา จ ปาณาติปาติโน, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมนฺตาปิ ปุพฺเพกตเหตุเยว วิรมิสฺสนฺตีติ. อิติ ภควา เตสํเยว ลทฺธึ คเหตฺวา เตสํ นิคฺคหํ อาโรเปติ. อิมินา นเยน อทินฺนาทายิโนติอาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา. สารโต ปจฺจาคจฺฉตนฺติ สารภาเวน คณฺหนฺตานํ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อิทํ วา กรณียํ อิทํ วา อกรณียนฺติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย:- อิทํ วา กรณียนฺติ กตฺตพฺพสฺส กรณตฺถาย, อิทํ วา อกรณียนฺติ อกตฺตพฺพสฺส อกรณตฺถาย กตฺตุกมฺยตา วา ปจฺจตฺตปุริสกาโร วา น โหติ. ฉนฺทวายาเมสุ วา อสนฺเตสุ "อิทํ กตฺตพฺพนฺ"ติปิ "อิทํ น กตฺตพฺพนฺ"ติปิ น โหติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเนติ เอวํ กตฺตพฺเพ จ อกตฺตพฺเพ จ ภูตโต ถิรโต อปญฺายมาเน อลพฺภมาเน. ยทิ หิ กตฺตพฺพํ กาตุํ อกตฺตพฺพโต จ วิรมิตุํ @เชิงอรรถ: สี.,อิ. กึ มยํ, ฉ.ม. น มยํ ฉ.ม.,อิ. โหนฺติ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๗.

ลเภยฺย, กรณียากรณียํ สจฺจโต เถตโต อุปลพฺเภยฺย. ยสฺมา ปน อุภยมฺปิ เอวํ นูปลพฺภติ, ๑- ตสฺมา ตํ สจฺจโต เถตโต น อุปลพฺภติ, เอวํ ตสฺมึ จ อนุปลพฺภิยมาเนปีติ ๒- อตฺโถ. มุฏฺสฺสตีนนฺติ นฏฺสฺสตีนํ วิสฺสฏฺสฺสตีนํ. อนารกฺขานํ วิหรตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ นิรารกฺขานํ วิหรนฺตานํ. น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโทติ เอวํภูตานํ ตุมฺหากํ วา อญฺเสํ วา มยํ สมณาติ ปจฺจตฺตํ สการโณ สมณวาโท น โหติ น อิชฺฌติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺติ, อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. นิคฺคโห โหตีติ มม นิคฺคโห โหติ, เต ปน นิคฺคหิตา โหนฺตีติ. เอวํ ปุพฺเพกตวาทิโน นิคฺคหิตฺวา อิทานิ อิสฺสรนิมฺมานวาทิโน นิคฺคเหตุํ ตตฺร ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ, ตถา อเหตุกวาเทปิ. เอวํ อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ปรมฺปิ คนฺตฺวา ๓- อกิริยาย สณฺหนภาเวน ตุจฺฉภาวํ อนิยฺยานิกภาวํ, อสารภาเวน ถุสโกฏฺฏนสทิสตํ อาปชฺชนภาเวน อคฺคิสญฺาย ธมมานขชฺชุปนกสริกฺขตํ ตนฺทิฏฺิกานํ ปุริมสฺสปิ มชฺฌิมสฺสปิ ปจฺฉิมสฺสปิ อตฺถทสฺสนตาย อภาเวน อนฺธเวณูปมตํ สทฺทมตฺเตเนว ตานิ คเหตฺวา สารทิฏฺิกานํ ปวิยํ ปติตสฺส เวฬุวปกฺกสฺส ททฺทหายิตสทฺทํ ๔- สุตฺวา "ปวี สํวฏฺฏมานา อาคจฺฉตี"ติ สญฺาย ปลายนฺเตน ๕- สสเกน สริกฺขภาวญฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตนา เทสิตสฺส ธมฺมสฺส สารภาวญฺเจว นิยฺยานิกภาวญฺจ ทสฺเสตุํ อยํ โข ปน ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนิคฺคหิโตติ อญฺเหิ อนิคฺคหิโต นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อสงฺกิลิฏฺโติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ, "สงฺกิลิฏฺ นํ กริสฺสามา"ติ ปวตฺเตหิปิ ตถา กาตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อนุปวชฺโชติ อุปวาทวินิมุตฺโต. อปฺปฏิกุฏฺโติ "กึ อิมินา หรถ นนฺ"ติ เอวํ อปฺปฏิพาหิโต, อนุปกฺกุฏฺโ วา. วิญฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. อปณฺฑิตานญฺหิ อชานิตฺวา กเถนฺตานํ @เชิงอรรถ: สี. อุภยมฺปิ ตํ เอส น ลพฺภติ, ฉ.ม. ตํ เอส นุปลพฺภติ @ ฉ.ม.,อิ. อนุปลพฺภิยมาเนติ ม. มนสิกตฺวา ม. ททฺทุรสทฺทํ, @ฉ.,อิ. ททฺทภายิตสทฺทํ ม. ภายนฺเต

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๘.

วจนํ อปฺปมาณํ. ตสฺมา วิญฺูหีติ อาห. อิทานิ ตสฺส ธมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ "กตโม จ ภิกฺขเว"ติ ปญฺหํ ปุจฺฉิตฺวา "อิมา ฉ ธาตุโย"ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ยถาปฏิปาฏิยา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ปุน อิมา ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุโยติ สภาวา. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปกาสโก หิ สภาวฏฺโ ธาตฺวฏฺโ นาม. ผสฺสายตนานีติ วิปากผสฺสานํ อากรฏฺเน อายตนานิ. มโนปวิจาราติ วิตกฺกวิจารปเทหิ ๑- อฏฺารสสุ าเนสุ มนสฺส อุปวิจารา. ปวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจน- ธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺปุฏฺธาตุ. วิญฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. เอวมิทํ ธาตุกมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ, วิตฺถารโตว วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติฏฺายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ ปริคฺคณฺหนฺโตปิ เอวํ ปริคฺคณฺหาติ:- ปวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ อิมานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, อากาสธาตุ อุปาทารูปํ. เอกสฺมิญฺจ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เสสานิ เตวีสติ ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ. วิญฺาณธาตูติ จิตฺตํ วิญฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สญฺา สญฺากฺขนฺโธ, ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นาม. จตฺตาริ ปน มหาภูตานิ จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทารูปํ รูปกฺขนฺโธ นาม. ตตฺถ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นามํ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ นามญฺจ รูปญฺจาติ เทฺวเยว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ เอวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ. @เชิงอรรถ: ฉ.ม. วิตกฺกวิจารปาเทหิ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๗๙.

วิตฺถารโต ปริคฺคณฺหนฺโต ปน จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหิตฺวา อากาสธาตุ- ปริคฺคหานุสาเรน เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปริคฺคณฺหติ. อถ เนสํ ปจฺจยํ อุปปริกฺขนฺโต ปุน จตฺตาเรว มหาภูตานิ ทิสฺวา เตสุ ปวีธาตุ วีสติโกฏฺาสา, อาโปธาตุ ทฺวาทส, เตโชธาตุ จตฺตาโร, วาโยธาตุ ฉโกฏฺาสาติ โกฏฺาสวเสน สโมธาเนตฺวา ทฺวาจตฺตาฬีส มหาภูตานิ จ ววฏฺเปตฺวา เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปกฺขิปิตฺวา ปญฺจสฏฺี รูปานิ ววฏฺเปติ. ตานิ จ วตฺถุรูเปน สทฺธึ จ ฉสฏฺี โหนฺตีติ ฉสฏฺี รูปานิ ปสฺสติ. วิญฺาณธาตุ ปน โลกิยจิตฺตวเสน เอกาสีติ จิตฺตานิ. ตานิ สพฺพานิปิ วิญฺาณกฺขนฺโธ นาม โหติ. เตหิ สหชาตา เวทนาทโยปิ ตตฺตกาเยวาติ เอกาสีติ เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, เอกาสีติ สญฺา สญฺากฺขนฺโธ, เอกาสีติ เจตนา สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา เตภูมิกวเสน คยฺหมานา จตุวีสาธิกานิ ตีณิ ธมฺมายตนสตานิ โหนฺติ. อิติ ๑- อิเม จ อรูปธมฺมา ฉสฏฺี จ รูปธมฺมาติ สพฺเพปิ สโมธาเนตฺวา นามญฺจ รูปญฺจาติ เทฺวว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ นามรูปวเสน ปญฺจกฺขนฺเธ ววฏฺเปตฺวา เตสํ ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต อวิชฺชาปจฺจยา ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยาติ เอวํ ปจฺจยํ ทิสฺวา "อตีเตปิ อิเมหิ ปจฺจเยหิ อิทํ นามรูปํ ปวตฺติตฺถ, ๒- อนาคเตปิ เอเตหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺติสฺสติ, เอตรหิปิ เอเตหิเยว ปวตฺตตีติ ตีสุ กาเลสุ กงฺขํ วิตริตฺวา อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโน อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวํ วิตฺถารโตปิ ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ. จกฺขุํ ผสฺสายตนนฺติ สุวณฺณาทีนํ สุวณฺณาทิอากโร วิย เทฺว จกฺขุวิญฺาณานิ เทฺว สมฺปฏิจฺฉนฺนานิ ตีณิ สนฺตีรณานีติ อิเมหิ สตฺตหิ วิญฺาเณหิ สหชาตานํ สตฺตนฺนํ ผสฺสานํ สมุฏฺานฏฺเน อากโรติ อายตนํ. โสตํ ผสฺสายตนนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มโน ผสฺสายตนนฺติ เอตฺถ ปน ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา เวทิตพฺพา. ๓- อิติ หิทํ ฉผสฺสายตนวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ @เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. ธมฺมสตานิ โหนฺตีติ ม. นามรูปํ ปวตฺติตํ, ฉ. อิทํ วฏฺฏํ @ปวตฺติตฺถ, อิ. นามรูปวฏฺฏํ ปวตฺติตฺถ ฉ.ม. โยเชตพฺพา

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๘๐.

สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตพฺพํ. สงฺเขปโต ตาว:- เอตฺถ หิ ปุริมานิ ปญฺจ อายตนานิ อุปาทารูปํ, เตสุ ทิฏฺเสุ อวเสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. ฉฏฺ อายตนํ จิตฺตํ, ตํ วิญฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนาทโย เสสา ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิญฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส การณภูตํ. อุปวิจรตีติ เอตฺถ มนํ จาเรนฺโต อุปวิจรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อิฏฺ วา โหตุ อนิฏฺ วา, ยํ รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โทมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา อุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ, ตํ อุเปกฺขาฏฺานิยํ นามาติ เวทิตพฺพํ. สทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิทํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต อฏฺารสมโนปวิจารวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ สงฺเขปโต ตาว:- จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโสติ อิมานิ นว อุปาทารูปานิ, เตสุ ทิฏฺเสุ เสสอุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. โผฏฺพฺพํ ตีณิ มหาภูตานิ, เตสุ ทิฏฺเสุ ๑- จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ. มโนวิญฺาณกฺขนฺโธ, เตน สหชาตา เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ. อริยสจฺจานีติ อริยภาวกรานิ, อริยปฏิวิทฺธานิ วา สจฺจานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ ปทํ วิสุทฺธิมคฺเค ๒- ปกาสิตํ. ฉนฺนํ ภิกฺขเว ธาตูนนฺติ อิทํ กิมตฺถํ @เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. เตหิ ทิฏฺเหิ วิสุทฺธิ. ๓/๗๖ อินฺทฺริยสจฺจนิทฺเทส

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๘๑.

อารทฺธํ? สุขาวโพธนตฺถํ. ยสฺส หิ ตถาคโต ทฺวาทสปทํ ปจฺจยาวฏฺฏํ กเถตุกาโม โหติ, ตสฺส คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏํ ทสฺเสติ. คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏสฺมึ หิ ทสฺสิเต กเถตุมฺปิ สุขํ โหติ ปรํ อวโพเธตุมฺปีติ. สุขาวโพธนตฺถํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ฉนฺนํ ธาตูนนฺติ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ปวีธาตุอาทีนํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. เอเตน ปจฺจยมตฺตํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ "ฉธาตุปจฺจยา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี"ติ. กสฺส ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน, กึ มาตุ, อุทาหุ ปิตูติ? น มาตุ น ปิตุ, ปฏิสนฺธิคฺคณฺหนกสตฺตสฺเสว ปน ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ นาม โหติ. คพฺโภ จ นาเมส นิรยคพฺโภ ติรจฺฉานคพฺโภ ๑- ปิตฺติวิสยคพฺโภ มนุสฺสคพฺโภ เทวคพฺโภติ นานปฺปกาโร โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ, กถํ โหตีติ? ติณฺณํ สนฺนิปาเตน. ๒- วุตฺตเญฺหตํ:- "ติณฺณํ โข ปน ภิกฺขเว สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. (กตเมสํ ติณฺณํ) ๓- อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา ๔- โหนฺติ, มาตา จ น อุตุนี ๕- โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต ๖- โหติ. เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. ยโต จ โข ภิกฺขเว มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี"ติ. ๗- โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ "วิญฺาณปจฺจยา นามรูปนฺ"ติ วุตฺตฏฺาเน วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกํ ตโย อรูปิโน ขนฺธาติ เตตฺตึส ธมฺมา คหิตา, @เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ ม. สนฺนิปาตา ฉ.ม. อิเม ปาา ปาลิยํ @น ทิสฺสนฺติ สี.,อิ.,ม. น สนฺนิปติตา สี.,ม. มาตา จ อุตุนี @ สี.,ม. ปจฺจุปฏฺิโต ม.มู. ๑๒/๔๐๘/๓๖๔ มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺต

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๘๒.

อิมสฺมึ ปน "โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺ"ติ วุตฺตฏฺาเน วิญฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จตุตฺตึส ธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติอาทีหิ ยเถว โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปปาตุภาโว ทสฺสิโต, เอวํ นามรูเป สติ สฬายตนปาตุภาโว, สฬายตเน สติ ผสฺสปาตุภาโว, ผสฺเส สติ เวทนาปาตุภาโว ทสฺสิโต. เวทิยมานสฺสาติ เอตฺถ เวทนํ อนุภวนฺโตปิ เวทิยมาโนติ วุจฺจติ ชานนฺโตปิ. "เวทิยามหํ ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สํโฆ ธาเรตู"ติ เอตฺถ หิ อนุภวนฺโต เวทิยมาโน นาม, "สุขํ เวทนํ เวทิยมาโน สุขํ เวทนํ เวทิยามีติ ปชานาตี"ติ ๑- เอตฺถ ชานนฺโต. อิธาปิ ชานนฺโตว อธิปฺเปโต. อิทํ ทุกฺขนฺติ ปญฺเปมีติ เอวํ ชานนฺตสฺส สตฺตสฺส "อิทํ ทุกฺขํ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, นตฺถิ อิโต อุทฺธํ ทุกฺขนฺ"ติ ปญฺเปมิ โพเธมิ ชานาเปมิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อยํ สนฺนิฏฺานกถา:- เปตฺวา หิ ตณฺหํ เตภูมิกา ปญฺจกฺขนฺธา ทุกฺขนฺนาม, ตสฺเสว ปภาวิกา ปุพฺพตณฺหา ทุกฺขสมุทโย นาม, เตสํ ทฺวินฺนํปิ สจฺจานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นาม. อิติ ภควา โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ กเถนฺโตปิ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ กเถนฺโตปิ, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ กเถนฺโตปิ, เวทิยมานสฺส โข ปนาหํ ภิกฺขเว อิทํ ทุกฺขนฺติ ปญฺเปมีติ กเถนฺโตปิ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ปญฺเปมีติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ. อิทานิ ตานิ ปฏิปาฏิยา ปิตานิ สจฺจานิ วิตฺถาเรนฺโต กตมญฺจ @เชิงอรรถ: ที.ม. ๑๐/๓๘๐/๒๕๔ มหาสติปฏฺานสุตฺต, ม.มู. ๑๒/๑๑๓/๘๓ มหาสติปฏฺานสุตฺต, @อภิ.วิ. ๓๕/๓๖๓/๒๓๒ เวทนานุปสฺสนานิทฺเทส

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๘๓.

ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ๑- ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ๒- วิตฺถาริตเมว. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส:- ตตฺถ "ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา"ติ ๓- อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ "อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา"ติ ปจฺจยาการวเสน. ตตฺถ จ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ "โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ"ติ ๔- อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ "อวิชฺชายเตฺวว อเสสวิราคนิโรธา"ติ ปจฺจยาการนิโรธวเสน. ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน จ อเสสนิโรเธน จ. อุภยมฺเปตํ อญฺมญฺเววจนเมว. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ปเทหิ ยํ อาคมฺม อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ, อตฺถโต ตํ นิพฺพานํ ทีปิตํ โหติ. นิพฺพานญฺหิ อวิชฺชานิโรโธติปิ สงฺขารนิโรโธติปิ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ นิโรธนาเมน กถิยติ. เกวลสฺสาติ สกลสฺส. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อปฺปวตฺติ ๕- โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อวิชฺชาทีนํ นิโรโธ นาม ขีณากาโรปิ วุจฺจติ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ, ตสฺมา อิธ ขีณาการทสฺสนวเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ อรหตฺตํ, ทฺวาทสสุเยว นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุจฺจตีติ เอตฺถ นิพฺพานเมว สนฺธาย อิทนฺติ วุตฺตํ. อฏงฺคิโกติ น อฏฺหิ องฺเคหิ วินิมุตฺโต อญฺโ มคฺโค นาม อตฺถิ. ยถา ปน ปญฺจงฺคิกตุริยนฺติ วุตฺเต ปญฺจงฺคมตฺตเมว ตุริยนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธาปิ อฏฺงฺคิกมตฺตเมว มคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคหิโต. นิคฺคณฺหนฺโต หิ ปริหาเปตฺวา วา ทสฺเสติ วฑฺเฒตฺวา ตํ ปริวตฺเตตฺวา วา. ตตฺถ ยสฺมา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ "น อิมานิ จตฺตาริ, เทฺว วา ตีณิ วา"ติ เอวํ หาเปตฺวาปิ "ปญฺจ วา ฉ วา"ติ เอวํ วฑฺเฒตฺวาปิ "น อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อญฺาเนว จตฺตาริ อริยสจฺจานี"ติ ทสฺเสตุํ น สกฺกา. ตสฺมา อยํ ธมฺโม อนิคฺคหิโต นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ. @เชิงอรรถ: ฉ.ม. อยํ ปาโ น ทิสฺสติ วิสุทฺธิ. ๓/๘๐ อินฺทฺริยสจฺจนิทฺเทส @๑ ที.ม. ๑๐/๔๐๐/๒๖๒ สมุทยสจฺจนิทฺเทส, ม.มู. ๑๒/๑๓๓/๙๐ สมุทยสจฺจนิทฺเทส, @อภิ.วิ. ๓๕/๒๐๓/๑๒๐ สมุทยสจฺจ ที.ม. ๑๐/๔๐๑/๒๖๔ นิโรธสจฺจนิทฺเทส, @ม.มู. ๑๒/๑๓๔/๙๒ นิโรธสจฺจนิทฺเทส, อภิ.วิ. ๓๕/๒๐๔/๑๒๒ นิโรธสจฺจ @ สี. อปฺปวตฺติโก

             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๑๕ หน้า ๑๗๓-๑๘๓. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=15&A=3965&modeTY=1&pagebreak=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=15&A=3965&modeTY=1&pagebreak=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=501              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=20&A=4571              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=20&A=4631              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=20&A=4631              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_20

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]