บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า กามเหตุ ได้แก่ มีกามเป็นมูล. บทว่า กามนิทานํ ได้แก่ มีกามเป็นปัจจัย. บทว่า กามาธิกรณํ ได้แก่ มีกามเป็นเหตุ. ทั้งหมดทุกบทนั้นเป็นคำไวพจน์ของกันและกัน. บทว่า ภทฺรมุโข แปลว่า หน้าดี. ได้ยินว่า วันหนึ่ง พระราชาเสด็จออกประทับนั่ง ฟังการพิจารณาคดีความ. ในคดีนั้น พวกอมาตย์รับสินบนเข้ามาก่อนนั่งวินิจฉัยคดี ก็ตัดสินให้ผู้มิใช่เจ้าของทรัพย์สินกลายเป็นเจ้าของทรัพย์สินไป. พระราชาทรงทราบเรื่องนั้นแล้ว ทรงพระดำริว่า ต่อหน้าเราผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อำมาตย์พวกนี้ยังกระทำถึงเพียงนี้ ลับหลังเรา เขาจักไม่ทำกระไรได้. บัดนี้ วิฑูฑภเสนาบดีจักปรากฏเป็นพระราชาเอง ประโยชน์อะไรของเราจะนั่งที่เดียวกับพวกอมาตย์กินสินบน พูดมดเท็จเห็นปานนี้ เพราะฉะนั้น จึงตรัสอย่างนี้. บทว่า ขิปฺปํว โอฑฺฑิตํ ได้แก่ เหมือนปลาเข้าไปสู่เครื่องดัก. อธิบายว่า ปลาทั้งหลายเข้าไปสู่เครื่องดักที่เขาดักไว้ยังไม่รู้สึกตัวฉันใด สัตว์ทั้งหลายล่วงเข้าไปสู่วัตถุกามด้วยกิเลสกาม ก็ไม่รู้สึกตัว ฉันนั้น. จบอรรถกถาอัตถกรณสูตรที่ ๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค โกสลสังยุตต์ ปฐมวรรคที่ ๑ อรรถกรณสูตรที่ ๗ จบ. |