![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |||||||||||||
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒] ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ๑. เรื่องพราหมณ์ชื่อจูเฬกสาฎก [๙๕] ข้อความเบื้องต้น พราหมณ์และพราหมณีผลัดกันไปฟังธรรม ภายหลังวันหนึ่ง เมื่อเขาประกาศการฟังธรรมในวิหาร พราหมณ์กล่าวว่า "นางเขาประกาศการฟังธรรม, เจ้าจักไปสู่สถานที่ฟังธรรมในกลางวันหรือกลางคืน? เพราะเราทั้งสองไม่อาจไปพร้อมกันได้ เพราะไม่มีผ้าห่ม" พราหมณีตอบว่า "นาย ฉันจักไปในกลางวัน" แล้วได้ห่มผ้าสาฎกไป. พราหมณ์คิดบูชาธรรมด้วยผ้าสาฎกที่ห่มอยู่ ____________________________ #- ปีติ ๕ คือ ขุททกาปีติ ปีติอย่างน้อย ๑ ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะ ๑ โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นพักๆ ๑ อุพเพงคาปีติ ปีติอย่างโลดโผน ๑ ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน ๑. ชนะมัจเฉรจิตด้วยสัทธาจิต ทานของพราหมณ์ให้ผลทันตาเห็น พราหมณ์นั้นถูกพวกราชบุรุษถาม ได้แจ้งความนั้น. พระราชาได้สดับความนั้นแล้ว ทรงดำริว่า "พราหมณ์ทำสิ่งที่บุคคลทำได้ยาก เราจักทำการสงเคราะห์เขา" จึงรับสั่งให้พระราชทานผ้าสาฎก ๑ คู่. เขาได้ถวายผ้าแม้นั้นแด่พระตถาคตเหมือนกัน พระราชาจึงรับสั่งให้พระราชทานทำให้เป็นทวีคูณอีก คือ ๒ คู่ ๔ คู่ ๘ คู่ ๑๖ คู่. เขาได้ถวายผ้าแม้เหล่านั้นแด่พระตถาคตนั่นเทียว. ต่อมา พระราชารับสั่งให้พระราชทานผ้าสาฎก ๓๒ คู่แก่เขา. พราหมณ์เพื่อจะป้องกันวาทะว่า "พราหมณ์ไม่ถือเอาเพื่อตน สละผ้าที่ได้แล้วๆ เสียสิ้น" จึงถือเอาผ้าสาฎก ๒ คู่จากผ้า ๓๒ คู่นั้นคือ "เพื่อตน ๑ คู่ เพื่อนางพราหมณี ๑ คู่" ได้ถวายผ้าสาฎก ๓๐ คู่แด่พระตถาคตทีเดียว. ฝ่ายพระราชา เมื่อพราหมณ์นั้นถวายถึง ๗ ครั้ง ได้มีพระราชประสงค์จะพระราชทานอีก. พราหมณ์ชื่อมหาเอกสาฎก ในกาลก่อนได้ถือเอาผ้าสาฎก ๒ คู่ในจำนวนผ้าสาฎก ๖๔ คู่. ส่วนพราหมณ์ชื่อจูเฬกสาฎกนี้ ได้ถือเอาผ้าสาฎก ๒ คู่ ในเวลาที่ตนได้ผ้าสาฎก ๓๒ คู่. พระราชาทรงบังคับพวกราชบุรุษว่า "พนาย พราหมณ์ทำสิ่งที่ทำได้ยาก, ท่านทั้งหลายพึงให้นำเอาผ้ากัมพล ๒ ผืนภายในวังของเรามา." พวกราชบุรุษได้กระทำอย่างนั้น. พระราชารับสั่งให้พระราชทานผ้ากัมพล ๒ ผืนมีค่าแสนหนึ่งแก่เขา. พราหมณ์คิดว่า "ผ้ากัมพลเหล่านี้ไม่สมควรแตะต้องที่สรีระของเรา, ผ้าเหล่านั้นสมควรแก่พระพุทธศาสนาเท่านั้น" จึงได้ขึงผ้ากัมพลผืนหนึ่ง ทำให้เป็นเพดานไว้เบื้องบนที่บรรทมของพระศาสดาภายใน ____________________________ #- เป็นชื่อเงินตราชนิดหนึ่ง ซึ่งในอินเดียโบราณ มีค่าเท่ากับ ๔ บาท. รีบทำกุศลมีผลดีกว่าทำช้า พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เธอทั้งหลายนั่งสนทนากันด้วยกถาอะไรเล่า?" เมื่อพวกภิกษุกราบทูลว่า "ด้วยกถาชื่อนี้ พระเจ้าข้า" ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเอกสาฎกนี้จักได้อาจเพื่อถวายแก่เราในปฐมยามไซร้ เขาจักได้สรรพวัตถุอย่างละ ๑๖, ถ้าจักได้อาจถวายในมัชฌิมยามไซร้ เขาจักได้สรรพวัตถุอย่างละ ๘, แต่เพราะถวาย ในเวลาจวนใกล้รุ่ง เขาจึงได้สรรพวัตถุอย่างละ ๔, แท้จริง กรรมงามอันบุคคลผู้เมื่อกระทำ ไม่ให้จิตที่เกิดขึ้นเสื่อมเสีย ควรทำในทันทีนั้นเอง, ด้วยว่า กุศลที่บุคคลทำช้า เมื่อให้สมบัติ ย่อมให้ช้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้น พึงทำกรรมงามในลำดับแห่งจิตตุปบาททีเดียว" เมื่อทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ สองบทว่า ปาปา จิตฺตํ ความว่า ก็บุคคลพึงห้ามจิตจากบาปกรรมมีกายทุจริตเป็นต้น หรือจากอกุศล สองบทว่า ทนฺธญฺหิ กโรโต ความว่า ก็ผู้ใดคิดอยู่อย่างนี้ว่า "เราจักให้ จักทำ ผลนี้จักสำเร็จแก่เราหรือไม่" ชื่อว่าทำบุญช้าอยู่ เหมือนบุคคลเดินทางลื่น ความชั่วของผู้นั้นย่อมได้โอกาส เหมือนมัจเฉรจิตพันดวงของพราหมณ์ชื่อเอกสาฎกฉะนั้น. เมื่อเช่นนั้น ใจของเขาย่อมยินดีในความชั่ว เพราะว่าในเวลาที่ทำกุศลกรรมเท่านั้น จิตย่อมยินดีในกุศลกรรม พ้นจากนั้นแล้ว ย่อมน้อมไปสู่ความชั่วได้แท้. ในกาลจบคาถา ชนเป็นอันมากได้บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. เรื่องพราหมณ์ชื่อจูเฬกสาฎก จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙ |