บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] หน้าต่างที่ ๗ / ๑๑. ข้อความเบื้องต้น พวกเดียรถีย์คิดหาอุบายฆ่าท่าน เดียรถีย์ที่รู้เรื่องก็พากันตอบว่า "ขอรับ พวกข้าพเจ้าทราบ ลาภและสักการะเกิดขึ้นเพราะอาศัยพระเถระรูปหนึ่ง ชื่อมหาโมคคัลลานะ เพราะพระเถระนั้นไปเทวโลก ถามกรรมที่พวกเทวดาทำแล้ว ก็กลับมาบอกกับพวกมนุษย์ว่า ทวยเทพทำกรรมชื่อนี้ ย่อมได้สมบัติเห็นปานนี้ แม้ไปนรก ก็ถามกรรมของหมู่สัตว์ผู้เกิดในนรกแล้วกลับมาบอกพวกมนุษย์ว่า พวก เดียรถีย์จ้างพวกโจรฆ่าพระเถระ พวกโจรรับคำเพราะความโลภในทรัพย์ ตั้งใจว่า "พวกเราจักฆ่าพระเถระ" ดังนี้แล้ว ไปล้อมที่อยู่ของพระมหาโมคคัลลานเถระนั้นไว้. พระเถระถูกพวกโจรทุบ พระเถระทราบแล้วก็ทำลายมณฑลช่อฟ้าเหาะไปสู่อากาศ. เมื่อเป็นเช่นนี้ ในเดือนแรกก็ดี ในเดือนท่ามกลางก็ดี พวกเดียรถีย์นั้นก็มิได้อาจจับพระเถระได้ แต่เมื่อมาถึงเดือนสุดท้าย พระเถระทราบภาวะ คือการชักมาแห่งกรรมอันตนทำไว้แล้ว จึงมิได้หลบเลี่ยง. พวกโจรไปจับพระเถระได้แล้ว ทุบกระดูกทั้งหลายของท่านให้ (แตกยับเป็นชิ้นน้อย) มีประมาณเท่าเมล็ดข้าวสารหัก. ทีนั้น พวกโจรเหวี่ยงท่านไปที่หลังพุ่มไม้แห่งหนึ่ง ด้วยสำคัญว่า ตายแล้ว ก็หลีกไป. พระเถระประสานกระดูกแล้วไปเฝ้าพระศาสดา พระผู้มีพระภาคเจ้า. เธอจักปรินิพพานหรือ? โมคคัลลานะ. พระเถระ. จักปรินิพพาน พระเจ้าข้า. พระศาสดา. เธอจักปรินิพพาน ณ ที่ไหน? พระเถระ. ข้าพระองค์จักไปสู่ประเทศชื่อกาฬสิลา แล้วปรินิพพาน พระเจ้าข้า. พระศาสดา. โมคคัลลานะ ถ้ากระนั้น เธอกล่าวธรรมแก่เราแล้ว จึงค่อยไป เพราะบัดนี้ เราไม่พบเห็นสาวกผู้เช่นเธอ (อีก). พระเถระแสดงฤทธิ์แล้วปรินิพพาน ถ้อยคำ (เล่าลือ) แม้นี้ว่า "ข่าวว่า พวกโจรฆ่าพระเถระเสียแล้ว" ดังนี้ ได้กระฉ่อนไปทั่วชมพูทวีป. พวกโจรถูกจารบุรุษจับได้ ____________________________ ๑- บุรุษสอดแนม. โจรผู้หนึ่ง. เฮ้ย อ้ายโจรชั่วร้าย ก็พระมหาโมคคัลลานะ มึง (ลงมือ) ตีก่อนหรือ? โจรอีกผู้หนึ่ง. ก็มึงไม่รู้ว่าพระโมคคัลลานะถูกกูตีดอกหรือ? เมื่อพวกโจรเหล่านั้นพากันกล่าว (อวดอ้าง) อยู่ว่า "พระโมคคัลลานะ กูเองตีแล้วๆ." จารบุรุษเหล่านั้นได้ยินแล้ว จึงจับโจรเหล่านั้นไว้ทั้งหมดแล้ว กราบทูลแด่พระราชา. พระราชาทรงมีรับสั่งให้เรียกพวกโจรมาแล้ว ตรัสถามว่า "พวกเจ้าฆ่าพระ พวกโจร. เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า. พระราชา. ใครใช้พวกเจ้าเล่า? พวกโจร. พวกสมณะเปลือย พระเจ้าข้า. พวกเดียรถีย์และพวกโจรถูกลงโทษ พระเถระถึงมรณะสมควรแก่กรรมของตน ____________________________ ๑- กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ แปลว่า ยังกถาให้ตั้งขึ้นพร้อม. ๒- มรณํ ปตฺโต แปลว่า ถึงแล้วซึ่งมรณะ พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า "ด้วยกถาชื่อนี้ พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะมรณภาพไม่สมควรแก่อัตภาพนี้เท่านั้น แต่เธอถึงมรณภาพสมควรแท้แก่กรรมที่เธอทำไว้ในกาลก่อน" อันภิกษุทั้งหลายทูลถามว่า "ก็บุรพกรรมของท่านเป็นอย่างไร? พระเจ้าข้า" ได้ตรัส (อดีตนิทาน) อย่างพิสดาร (ดังต่อไปนี้) :- บุรพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะ ต่อมา มารดาบิดาของเขาพูดกะเขาว่า "พ่อ เจ้าผู้เดียวเท่านั้นทำงานทั้งในเรือน ทั้งในป่า ย่อมลำบาก มารดาบิดาจักนำหญิงสาวคนหนึ่งมาให้เจ้า" ถูกเขาห้ามว่า "คุณแม่และคุณพ่อ ผมไม่ต้องการด้วยหญิงสาวเห็นปานนั้น ผมจักบำรุงท่านทั้งสองด้วยมือของผมเอง ตราบเท่าท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่" ก็อ้อนวอนเขาแล้วๆ เล่าๆ แล้วนำหญิงสาวมา (ให้เขา). หญิงชั่วยุยงผัวฆ่ามารดาบิดา เชื่อเมียต้องเสียพ่อแม่ เขาพูดว่า "เอาเถอะ ฉันจักรู้กรรมที่ควรทำแก่ท่านทั้งสอง" ดังนี้แล้ว เชิญมารดาบิดาให้บริโภคแล้ว ก็ชักชวนว่า "ข้าแต่พ่อและแม่ พวกญาติในที่ชื่อโน้น หวังการมาของท่านทั้งสองอยู่ ผมจัก (พา) ไปในที่นั้น" ดังนี้แล้ว ให้ท่านทั้งสองขึ้นสู่ยานน้อยแล้วพาไป ในเวลาถึงกลางดง ลวงว่า "คุณพ่อขอรับ ขอพ่อจงถือเชือกไว้ โคทั้งสองจักไปด้วยสัญญาแห่งปฏัก ในที่นี้มีพวกโจรซุ่มอยู่ ผมจะลงไป" ดังนี้แล้ว มอบเชือกไว้ในมือของบิดา ลงไปแล้ว ได้เปลี่ยนเสียงทำให้เป็นเสียงพวกโจรซุ่มอยู่. มารดาบิดาสิเนหาในบุตรยิ่งกว่าตน ผลของกรรมชั่วตามสนอง พวกเดียรถีย์ ๕๐๐ กับโจร ๕๐๐ ประทุษร้ายต่อบุตรของเราผู้ไม่ประทุษร้าย ก็ได้มรณะที่เหมาะ (แก่กรรมของเขา) เหมือนกัน, ด้วยว่า บุคคลผู้ประทุษร้ายต่อบุคคลผู้ไม่ประทุษร้าย ย่อมถึงความพินาศฉิบหายด้วยเหตุ ๑๐ ประการเป็นแท้" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า
แก้อรรถ บทว่า อปฺปทุฏฺเฐสุ ความว่า ผู้ไม่มีความผิดในชนเหล่าอื่น หรือในตน. บาทพระคาถาว่า ทสนฺนมญฺญตรํ ฐานํ ความว่า ในเหตุแห่งทุกข์ ๑๐ อย่าง ซึ่งเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง. บทว่า เวทนํ ได้แก่ เวทนากล้า อันต่างด้วยโรคมีโรคในศีรษะเป็นต้น. บทว่า ชานึ ได้แก่ ความเสื่อมทรัพย์ที่ได้โดยยาก. บทว่า เภทนํ ได้แก่ ความสลายแห่งสรีระมีการตัดมือเป็นต้น. บทว่า ครุกํ ได้แก่ (หรือ) อาพาธหนักต่างโดยโรคมีโรคอัมพาต๑- มีจักษุข้างเดียว เปลี้ยง่อย และโรคเรื้อนเป็นต้น. บทว่า จิตฺตกฺเขปํ ได้แก่ ความเป็นบ้า. บทว่า อุปสคฺคํ ได้แก่ (หรือ) ความขัดข้องแต่พระราชาเป็นต้นว่า ถอดยศลดตำแหน่งเสนาบดีเป็นต้น. บทว่า อพฺภกฺขานํ ความว่า การถูกกล่าวตู่อย่างร้ายแรงเห็นปานนี้ว่า กรรมมีการตัดที่ต่อเป็นต้นนี้ก็ดี, กรรมคือการประพฤติผิดในพระราชานี้ก็ดี เจ้าทำแล้ว, ซึ่งตนไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน และไม่เคยคิดเลย. บาทพระคาถาว่า ปริกฺขยํ ว ญาตีนํ ได้แก่ ความย่อยยับแห่งเครือญาติ ผู้สามารถเป็นที่พำนักของตน. บทว่า ปภงฺคุณํ คือ ความเสียหาย ได้แก่ ความผุพังไป. ก็ข้าวเปลือกในเรือนของเขา ย่อมถึงความผุ, ทองคำถึงความเป็นถ่านเพลิง, แก้วมุกดาถึงความเป็นเมล็ดฝ้าย, กหาปณะถึงความเป็นชิ้นกระเบื้องเป็นต้น. สัตว์ ๒ เท้า ๔ เท้า ถึงความเป็นสัตว์บอดเป็นอาทิ. สองบทว่า อคฺคิ ฑหตี ความว่า ในปีหนึ่ง เมื่อไฟผลาญอย่างอื่นแม้ไม่มี ไฟคืออสนิบาต ย่อมตกลงเผาผลาญ ๒-๓ ครั้ง, หรือไฟป่าตั้งขึ้นตามธรรมดาของมัน ย่อม บทว่า นิรยํ เป็นต้น ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก" ก็เพื่อแสดงฐานะ อันการกบุคคลแม้ถึงฐานะ ๑๐ อย่าง เหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้แล้ว ก็พึงถึงในสัมปรายภพโดยอย่างเดียวกัน. ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากได้บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. ____________________________ ๑- Caralysis โรคเส้นประสาทพิการทำให้เนื้อตัวตาย. เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ทัณฑวรรคที่ ๑๐ |