บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] หน้าต่างที่ ๑๑ / ๑๑. ข้อความเบื้องต้น บิดาจ้างบุตรให้ฟังธรรม ลำดับนั้น บิดาของเขาคิดว่า เจ้ากาละนี้ เมื่อถือทิฏฐิเห็นปานนี้เที่ยวไป จักเป็นผู้มีอเวจีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ก็เมื่อเรายังเห็นอยู่ บุตรของเราพึงไปสู่นรก ข้อนั้นไม่สมควรแก่เราเลย ก็ขึ้นชื่อว่าสัตว์ผู้ไม่เพ่งเล็งเพราะการให้ทรัพย์ ไม่มีในโลกนี้เลย เราจักทำลายทิฏฐิของบุตรนั้นด้วยทรัพย์." ลำดับนั้น เศรษฐีพูดกะนายกาละนั้นว่า "พ่อ เจ้าจงเป็นผู้รักษาอุโบสถ ไปสู่วิหารฟังธรรมแล้วมาเถิด เราจักให้กหาปณะ ๑๐๐ แก่เจ้า." กาละ. จักให้หรือ? พ่อ. เศรษฐี. จักให้ ลูก. นายกาละนั้นรับปฏิญญา ๓ ครั้งแล้ว เป็นผู้รักษาอุโบสถ ได้ไปสู่วิหารแล้ว แต่กิจด้วยการฟังธรรมของเขาไม่มี เขานอนในที่ตามความสำราญแล้ว ได้ไปบ้านแต่เช้าตรู่. ลำดับนั้น บิดาของเขาพูดว่า "บุตรของเราได้เป็นผู้รักษาอุโบสถ ท่านทั้งหลายจงนำข้าวต้มเป็นต้นมาแก่เขาเร็ว" ดังนี้แล้ว ก็สั่งคนใช้ให้ๆ. นายกาละนั้นห้ามอาหารเสีย ด้วยพูดว่า "เรายังมิได้รับกหาปณะจักไม่บริโภค" ลำดับนั้น บิดาของเขา เมื่ออดทนการรบกวนไม่ได้ จึงให้ห่อกหาปณะแล้ว. นายกาละ ต่อมาในวันรุ่งขึ้น เศรษฐีส่งเขาไป ด้วยพูดว่า "พ่อ เราจักให้กหาปณะ ลำดับนั้น พระศาสดาได้ทรงทำอาการ คือการกำหนดไม่ได้แก่เขา. เขา ก็ธรรมดา เมื่อชนทั้งหลายฟังอยู่อย่างนี้ ธรรมย่อมให้โสดาปัตติมรรคเป็นต้น. ถึงนายกาละนั้นก็ฟังอยู่ด้วยคิดว่า "จักเรียนให้ได้." แม้พระศาสดาก็ทรงทำอาการคือการกำหนดไม่ได้แก่เขา. เขากำลังยืนฟังอยู่เทียว ด้วยคิดว่า "จักเรียนต่อไป" จึงตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล. บรรลุโสดาปัตติผลแล้วไม่รับค่าจ้าง แต่พระศาสดาได้ทรงทราบความที่นายกาละนั้น เป็นผู้รักษาอุโบสถ เพราะ ในเวลาเสร็จภัตกิจของพระศาสดา มหาเศรษฐีให้บุคคลวางห่อกหาปณะพันหนึ่งไว้ตรงหน้าบุตรแล้ว พูดว่า "พ่อ พ่อพูดว่า จักให้กหาปณะพันหนึ่งแก่เจ้า จึงให้เจ้าสมาทานอุโบสถ ส่งไปวิหาร นี้กหาปณะพันหนึ่งของเจ้า." นายกาละนั้นเห็นกหาปณะที่บิดาให้เฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดา ละอายอยู่ จึงพูดว่า "ผมไม่ต้องการด้วยกหาปณะทั้งหลาย" แม้ถูกบิดาพูดว่า "จงรับเถิด พ่อ" ก็ไม่รับแล้ว. โสดาปัตติผลเลิศกว่าสมบัติทุกอย่าง เมื่อพระศาสดาตรัสถามว่า "อะไร? มหาเศรษฐี" จึงกราบทูลว่า "ในวันก่อน บุตรของข้าพระองค์นี้ อันข้าพระองค์พูดว่า เราจักให้กหาปณะ ๑๐๐ แก่เจ้า แล้วส่งไปวิหาร ในวันรุ่งขึ้น ยังไม่ได้รับกหาปณะแล้ว ไม่ปรารถนาจะบริโภค แต่วันนี้ เขาไม่ปรารถนากหาปณะแม้ที่ข้าพระองค์ให้." พระศาสดาตรัสว่า "อย่างนั้น มหาเศรษฐี. วันนี้ โสดาปัตติผลนั่นแลของบุตรของท่าน ประเสริฐแม้กว่าสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ แม้กว่าสมบัติในเทวโลก และพรหมโลก" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
แก้อรรถ บาทพระคาถาว่า สคฺคสฺส คมเนน วา ความว่า กว่าการกล่าวถึงสวรรค์ ๒๖ ชั้น. บาทพระคาถาว่า สพฺพโลกาธิปจฺเจน ความว่า กว่าความเป็นใหญ่ในโลก มีประมาณเท่านั้นๆ คือในโลกทั้งปวง พร้อมด้วยนาค ครุฑ และเวมานิกเปรต. บาทพระคาถาว่า โสตาปตฺติผลํ วรํ ความว่า เพราะพระราชา แม้เสวยราชสมบัติในที่มีประมาณเท่านั้น ก็เป็นผู้ไม่พ้นจากนรกเป็นต้นได้เลย ส่วนพระโสดาบันเป็นผู้มีประตูอบายอันปิดแล้ว แม้มีกำลังเพลากว่าพระโสดาบัน๑- ทั้งสิ้น ก็ไม่เกิดในภพที่ ๘ ฉะนั้น โสดาปัตติผลนั่นแล จึงประเสริฐ คือสูงสุด. ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. ____________________________ ๑- พระโสดาบัน ๓ พวก คือ สัตตักขัตตุปรมะ ๑ โกลังโกละ ๑ เอกพิชี ๑. พวกแรกมีกำลังเพลากว่า ๒ พวกหลัง. เรื่องนายกาละบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี จบ. โลกวรรควรรณนา จบ. วรรคที่ ๑๓ จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท โลกวรรคที่ ๑๓ จบ. |