![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() #- บาลีเป็น โปสาลปัญหา. โปสาลสูตร มีคำเริ่มต้นว่า โย อตีตํ เป็นต้น. ในบทเหล่านั้น บทว่า โย อตีตํ อาทิสติ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงแสดงอ้างสิ่งที่ล่วงไปแล้ว คือพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดทรงแสดงอ้างถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วมีชาติเป็นต้นแม้ชาติหนึ่งของพระองค์ และของสัตว์พวกอื่น. บทว่า วิภูตรูปสญฺญิสฺส คือ บุคคลผู้มีความสำคัญในรูปก้าวล่วงแล้ว. บทว่า สพฺพกายปฺปหายิโน คือ ละรูปกายได้ทั้งหมดด้วยการละชั่วคราวและละด้วยการข่มไว้. อธิบายว่า ละปฏิสนธิในรูปภพได้แล้ว. บทว่า นตฺถิ กิญฺจีติ ปสฺสโต เห็นอยู่ว่าไม่มีอะไร คือเห็นอยู่ว่าไม่มีอะไรเพราะเห็นแจ้งว่าวิญญาณไม่มี. ท่านอธิบายว่า ได้อากิญจัญญายตนสมาบัติ. บทว่า ญาณํ สกฺกานุปุจฺฉามิ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นศากยะ ข้าพระองค์ทูลถามถึงญาณ โปสาลมาณพเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า สักกะ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นศากยะ ข้าพระองค์ทูลถามถึงญาณของบุคคลนั้นว่าควรปรารถนาเช่นไร. บทว่า กถํ เนยฺโย คือ บุคคลนั้นควรแนะนำอย่างไร ควรให้ญาณเกิดแก่เขายิ่งขึ้นได้อย่างไร. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงประกาศญาณของพระองค์ที่อันใครๆ กำจัดไม่ได้ในบุคคลเช่นนั้น เพื่อทรงพยากรณ์ญาณนั้นแก่โปสาลมาณพ จึงตรัสคาถาสองคาถาต่อไป. บทว่า วิญฺญาณฏฺฐิติโย สพฺพา อภิชานํ ตถาคโต พระตถาคตทรงรู้ยิ่งซึ่งภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณทั้งปวง คือทรงรู้ยิ่งวิญญาณฐิติทั้งปวงอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมมีได้ ด้วยอภิสังขาร ด้วยปฏิสนธิ ๔. บทว่า ติฏฺฐนฺตเมนํ ชานาติ ทรงทราบบุคคลนั้นผู้ดำรงอยู่ คือทรงทราบบุคคลนั้นผู้ดำรงอยู่ได้ด้วยกรรมคืออภิสังขารว่า ต่อไปสัตว์นี้จักมีคติเป็นอย่างนี้. บทว่า วิมุตฺตํ คือ น้อมไปแล้วในอากิญจัญญายตนสมาบัติเป็นต้น. บทว่า ตปฺปรายนํ ผู้มีอากิญจัญญายตนสมาบัตินั้นเป็นที่ไปในเบื้องหน้า คือสำเร็จด้วยอากิญจัญญายตนสมบัตินั้น. บทว่า อากิญฺจญฺญาสมฺภวํ ญตฺวา ทรงทราบผู้ที่เกิดในอากิญจัญญายตนภพ คือทรงทราบกรรมคืออภิสังขารที่ให้เกิดในอากิญจัญญายตนภพ. เป็นอย่างไร นี้เป็นเครื่องห่วงใย. บทว่า นนฺทิสํโยชนํ อิติ ว่ามีความเพลิดเพลินเป็นเครื่องประกอบ คือรู้ความเพลิดเพลินที่นับว่าอรูปราคะในภพนั้นว่าเป็นเครื่องประกอบ. บทว่า ตโต ตตฺถ วิปสฺสติ แต่นั้นย่อมเห็นแจ้งในอากิญจัญญายตนสมาบัตินั้น คือ แต่นั้นออกจากอากิญจัญญายตนสมาบัติแล้ว เห็นแจ้งสมาบัตินั้นโดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น. บทว่า เอวํ ญาณํ ตถํ ตสฺส ญาณของบุคคลนั้นเป็นญาณถ่องแท้อย่างนี้ คืออรหัตญาณเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นผู้เห็นแจ้งอย่างนี้ตามลำดับไม่วิปริต. บทว่า วุสีมโต คือ อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว. บทที่เหลือในบททั้งปวงชัดเจนดีแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระสูตรแม้นี้ด้วยธรรมเป็นยอดคือพระอรหัตนั่นแล. เมื่อจบเทศนา ได้มีผู้บรรลุธรรมเช่นกับครั้งก่อนนั่นแล. จบอรรถกถาโปสาลสูตรที่ ๑๔ แห่งอรรถกถาขุททกนิกาย ชื่อปรมัตถโชติกา -------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ปารายนวรรค โปสาลปัญหาที่ ๑๔ จบ. |