บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
เอกธัมมเปยยาลที่ ๗ กัลยาณมิตตสูตรที่ ๑ กัลยาณมิตรมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๔๗] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความ เกิดขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความเป็นผู้มีมิตรดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้มีมิตรดี พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘. [๑๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการ สละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มาก ซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.จบ สูตรที่ ๑ สีลสัมปทาสูตรที่ ๑ สีลสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๔๙] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกิด ขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความถึงพร้อมแห่งศีล ฯลฯจบ สูตรที่ ๒ ฉันทสัมปทาสูตรที่ ๑ ฉันทสัมปทามีอุปการมากแก่อริยมรรค [๑๕๐] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งฉันทะ ฯลฯจบ สูตรที่ ๓ อัตตสัมปทาสูตรที่ ๑ อัตตสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๑] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งตน ฯลฯจบ สูตรที่ ๔ ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๑ ทิฏฐิสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๒] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ ฯลฯจบ สูตรที่ ๕ อัปปมาทสูตรที่ ๑ ความไม่ประมาทมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๓] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งความไม่ประมาท ฯลฯจบ สูตรที่ ๖ โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑ โยนิโสมนสิการมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๔] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกิด ขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความถึงพร้อมแห่งการ กระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดย แยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่ง อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘. [๑๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อม เจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่าง ไรเล่า? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัย วิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดย แยบคาย ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มาก ซึ่งอริยมรรคอันประกอบ ด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.จบ สูตรที่ ๗ กัลยาณมิตตสูตรที่ ๒ กัลยาณมิตรมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๖] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความ เกิดขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความเป็นผู้มีมิตรดี พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มาก ซึ่งอริยมรรคอัน ประกอบด้วยองค์ ๘. [๑๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ มีอันกำจัดราคะเป็น ที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ มีอัน กำจัดราคะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอัน ประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.จบ สูตรที่ ๘ สีลสัมปทาสูตรที่ ๒ สีลสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๘] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกิด ขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความถึงพร้อมแห่งศีล ฯลฯจบ สูตรที่ ๙ ฉันทสัมปทาสูตรที่ ๒ ฉันทสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๕๙] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งฉันทะ ฯลฯจบ สูตรที่ ๑๐ อัตตสัมปทาสูตรที่ ๒ อัตตสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๖๐] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งตน ฯลฯจบ สูตรที่ ๑๑ ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๒ ทิฏฐิสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๖๑] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ ฯลฯจบ สูตรที่ ๑๒ อัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๒ ความไม่ประมาทมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๖๒] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งความไม่ประมาท ฯลฯจบ สูตรที่ ๑๓ โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๒ โยนิโสมนสิการมีอุปการะมากแก่อริยมรรค [๑๖๓] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความ เกิดขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความถึงพร้อมแห่งการ กระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดย แยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่ง อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘. [๑๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อม เจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มาก ซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ มีอันกำจัดราคะเป็น ที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ มีอัน กำจัดราคะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.จบ สูตรที่ ๑๔ จบ เอกธัมมเปยยาลที่ ๗ ----------------------------------------------------- รวมพระสูตรที่มีในเปยยาลนี้ คือ ๑. กัลยาณมิตตสูตรที่ ๑ ๒. สีลสัมปทาสูตรที่ ๑ ๓. ฉันทสัมปทาสูตรที่ ๑ ๔. อัตตสัมปทาสูตรที่ ๑ ๕. ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๑ ๖. อัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๑ ๗. โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑ ๘. กัลยาณมิตตสูตรที่ ๒ ๙. สีลสัมปทาสูตรที่ ๒ ๑๐. ฉันทสัมปทาสูตรที่ ๒ ๑๑. อัตตสัมปทาสูตรที่ ๒ ๑๒. ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๒ ๑๓. อัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๒ ๑๔. โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๒----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ บรรทัดที่ ๗๙๕-๙๐๔ หน้าที่ ๓๕-๓๙. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=795&Z=904&pagebreak=0 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=19&siri=43 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=19&i=147 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [147-164] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=19&item=147&items=18 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=13&A=4305 The Pali Tipitaka in Roman :- [147-164] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=19&item=147&items=18 The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=13&A=4305 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ https://84000.org/tipitaka/read/?index_19 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/19i147-e.php# https://suttacentral.net/sn45.63/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.63/en/bodhi https://suttacentral.net/sn45.64-68/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.64-68/en/bodhi https://suttacentral.net/sn45.69/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.69/en/bodhi https://suttacentral.net/sn45.70/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.70/en/bodhi https://suttacentral.net/sn45.71-75/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.71-75/en/bodhi https://suttacentral.net/sn45.76/en/sujato https://suttacentral.net/sn45.76/en/bodhi
บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]