บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
กฐินเภท ว่าด้วยกฐินไม่เป็นอันกรานเป็นต้น [๑๑๒๔] กฐินใครไม่ได้กราน? กฐินใครได้กราน? กฐินไม่เป็นอันกรานด้วยอาการ อย่างไร? กฐินเป็นอันกรานด้วยอาการอย่างไร?กฐินไม่เป็นอันกราน [๑๑๒๕] คำว่า กฐินใครไม่ได้กราน นั้น ความว่า กฐิน บุคคล ๒ พวก คือ ภิกษุผู้ไม่ได้กราน ๑ ภิกษุผู้ไม่อนุโมทนา ๑ ไม่เป็นอันกรานกฐิน บุคคล ๒ พวกนี้ ไม่เป็น อันกราน.กฐินเป็นอันกราน [๑๑๒๖] คำว่า กฐินใครได้กราน นั้น ความว่า กฐิน บุคคล ๒ พวกนี้ คือ ภิกษุผู้กราน ๑ ภิกษุผู้อนุโมทนา ๑ เป็นอันกราน กฐิน บุคคล ๒ พวกนี้ เป็นอันกราน.เหตุที่กฐินไม่เป็นอันกราน [๑๑๒๗] คำว่า กฐินไม่เป็นอันกรานด้วยอาการอย่างไร นั้น คือ กฐินไม่เป็น อันกรานด้วยอาการ ๒๔ คือ:- ๑. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงขีดรอย ๒. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงซักผ้า ๓. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงกะผ้า ๔. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงตัดผ้า ๕. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเนาผ้า ๖. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเย็บด้น ๗. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำลูกดุม ๘. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำรังดุมให้มั่น ๙. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาต ๑๐. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาตด้านหน้า ๑๑. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงดามผ้า ๑๒. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงย้อมเป็นสีหม่น ๑๓. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงผ้าที่ทำนิมิตได้มา ๑๔. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่พูดเลียบเคียงได้มา ๑๕. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ยืมเขามา ๑๖. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เก็บไว้ค้างคืน ๑๗. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เป็นนิสสัคคิยะ ๑๘. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่มิได้ทำกัปปะพินทุ ๑๙. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นผ้าสังฆาฏิ ๒๐. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นผ้าอุตราสงค์ ๒๑. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นผ้าอันตรวาสก ๒๒. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจีวรมีขันธ์ ๕ หรือเกินกว่า ๕ ซึ่งตัดดีแล้ว ทำให้มี มณฑล เสร็จในวันนั้น ๒๓. กฐินไม่เป็นอันกราน นอกจากบุคคลกราน ๒๔. กฐินไม่เป็นอันกรานโดยชอบ ถ้าภิกษุผู้อยู่นอกสีมา อนุโมทนากฐินนั้น กฐินไม่เป็นอันกราน แม้ด้วยอาการอย่างนี้.อธิบายเหตุที่ไม่ได้กรานบางข้อ [๑๑๒๘] ที่ชื่อว่า ทำนิมิต คือ ภิกษุทำนิมิตว่า เราจักกรานกฐินด้วยผ้าผืนนี้. ที่ชื่อว่า พูดเลียบเคียง คือ ภิกษุพูดเลียบเคียงด้วยคิดว่า จักยังผ้ากฐินให้เกิดด้วย การพูดเลียบเคียงนี้. ผ้าที่ทายกไม่ได้หยิบยกให้เรียกว่าผ้ายืมเขามา. ที่ชื่อว่า ผ้าเก็บไว้ค้างคืน มี ๒ อย่าง คือ ผ้าทำค้างคืน ๑ ผ้าเก็บไว้ค้างคืน ๑. ที่ชื่อว่า ผ้าเป็นนิสสัคคิยะ คือ ภิกษุกำลังทำอยู่ อรุณขึ้นมา. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการ ๒๔ อย่างนี้.เหตุที่กฐินเป็นอันกราน [๑๑๒๙] คำว่า กฐินเป็นอันกราน ด้วยอาการอย่างไร นั้น ความว่า กฐิน ย่อมเป็นอันกรานด้วยอาการ ๑๗ อย่าง ดังต่อไปนี้ ๑. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าใหม่ ๒. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเทียมใหม่ ๓. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเก่า ๔. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าบังสุกุล ๕. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าตกตามร้าน ๖. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ทำนิมิตได้มา ๗. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้พูดเลียบเคียงได้มา ๘. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ยืมเขามา ๙. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่มิได้เก็บไว้ค้างคืน ๑๐. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่มิได้เป็นนิสสัคคิยะ ๑๑. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าทำกัปปะพินทุแล้ว ๑๒. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าสังฆาฏิ ๑๓. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าอุตราสงค์ ๑๔. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าอันตรวาสก ๑๕. กฐินเป็นอันกราน ด้วยจีวรมีขันธ์ ๕ หรือเกินกว่า ซึ่งตัดดีแล้วทำให้มีมณฑล เสร็จในวันนั้น ๑๖. กฐินเป็นอันกราน เพราะบุคคลกราน ๑๗. กฐินเป็นอันกรานโดยชอบ ถ้าภิกษุผู้อยู่ในสีมา อนุโมทนากฐินนั้น กฐินเป็นอันกราน แม้ด้วยอาการอย่างนี้ กฐินเป็นอันกราน ด้วยอาการ ๑๗ อย่างนี้.ธรรมที่เกิดพร้อมกัน [๑๑๓๐] ถามว่า ธรรมเท่าไร ย่อมเกิดพร้อมกับการกรานกฐิน? ตอบว่า ธรรม ๑๕ อย่าง ย่อมเกิดพร้อมกับการกรานกฐิน คือ มาติกา ๘ ปลิโพธ ๒ อานิสงส์ ๕ ธรรม ๑๕ อย่างนี้ ย่อมเกิดพร้อมกับการกรานกฐิน.ธรรมที่เป็นปัจจัยแห่งประโยคเป็นต้น [๑๑๓๑] ประโยค มีธรรมเท่าไรเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสมนันตร- *ปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย. บุพพกรณ์ ... การถอนผ้า ... การอธิษฐานผ้า ... การกราน ... มาติกา และปลิโพธ ... วัตถุ มีธรรมเท่าไรเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย เป็น ปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย เป็นปัจจัย โดยปัจฉาชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.บุพพกรณ์เป็นปัจจัย [๑๑๓๒] ประโยค มีบุพพกรณ์เป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสมนันตร- *ปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. บุพพกรณ์ มีประโยคเป็น ปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. ประโยค มีบุพพกรณ์เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย. ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.การถอนผ้าเป็นปัจจัย [๑๑๓๓] บุพพกรณ์ มีการถอนผ้าเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสมนันตร- *ปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. การถอนผ้า มีบุพพกรณ์เป็น ปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. บุพพกรณ์ มีการถอนผ้า เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย. ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.การอธิษฐานผ้าเป็นปัจจัย [๑๑๓๔] การถอนผ้า มีการอธิษฐานผ้าเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. การอธิษฐานผ้า มีการถอนปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. การถอนผ้ามีการอธิษฐานเป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย. ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.การกรานเป็นปัจจัย [๑๑๓๕] การอธิษฐานผ้า มีการกรานเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. การกรานมีการ อธิษฐานเป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. การอธิษฐานผ้ามีการกรานเป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย, ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.มาติกาและปลิโพธิเป็นปัจจัย [๑๑๓๖] การกราน มีมาติกาแลปลิโพธเป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. มาติกาและปลิโพธ มีการกรานเป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. การกรานมีมาติกาและปลิโพธเป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาต- *ปัจจัย. ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.ความหวังและหมดหวังเป็นปัจจัย [๑๑๓๗] วัตถุ มีความหวังและหมดหวังเป็นปัจจัย โดยอนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย. ความหวังและหมด หวัง มีวัตถุเป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย. วัตถุมีความหวังและหมดหวัง เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาต ปัจจัย. ธรรม ๑๕ อย่าง เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย.นิทานเป็นต้นแห่งบุพพกรณ์เป็นต้น [๑๑๓๘] ถามว่า บุพพกรณ์ มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็น ชาติ? มีอะไรเป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? การถอนผ้า มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็น แดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? การอธิษฐานผ้า มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไร เป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน. การกราน มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็น แดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? มาติกาและปลิโพธ มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? ความหวังและหมดหวัง มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? ตอบว่า บุพพกรณ์ มีประโยคเป็นนิทาน มีประโยคเป็นสมุทัย มีประโยคเป็นชาติ มีประโยคเป็นแดนเกิดก่อน มีประโยคเป็นองค์ มีประโยคเป็นสมุฏฐาน. การถอนผ้า มีบุพพกรณ์เป็นนิทาน มีบุพพกรณ์เป็นสมุทัย มีบุพพกรณ์เป็นชาติ มี บุพพกรณ์เป็นแดนเกิดก่อน มีบุพพกรณ์เป็นองค์ มีบุพพกรณ์เป็นสมุฏฐาน. การอธิษฐานผ้า มีการถอนเป็นนิทาน มีการถอนเป็นสมุทัย มีการถอนเป็นชาติ มี การถอนเป็นแดนเกิดก่อน มีการถอนเป็นองค์ มีการถอนเป็นสมุฏฐาน. การกราน มีการอธิษฐานเป็นนิทาน มีการอธิษฐานเป็นสมุทัย มีการอธิษฐานเป็นชาติ มีการอธิษฐานเป็นแดนเกิดก่อน มีการอธิษฐานเป็นองค์ มีการอธิษฐานเป็นสมุฏฐาน. มาติกาและปลิโพธ มีการกรานเป็นนิทาน มีการกรานเป็นสมุทัย มีการกรานเป็นชาติ มีการกรานเป็นแดนเกิดก่อน มีการกรานเป็นองค์ มีการกรานเป็นสมุฏฐาน. ความหวังและหมดหวัง มีวัตถุเป็นนิทาน มีวัตถุเป็นสมุทัย มีวัตถุเป็นชาติ มีวัตถุ เป็นแดนเกิดก่อน มีวัตถุเป็นองค์ มีวัตถุเป็นสมุฏฐาน. ถ. ประโยค มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไร เป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? บุพพกรณ์ ... การถอนผ้า ... การอธิษฐานผ้า ... การกราน ... มาติกาและปลิโพธ ... วัตถุ ... ความหวังและหมดหวัง มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? ต. ประโยค มีเหตุเป็นนิทาน มีเหตุเป็นสมุทัย มีเหตุเป็นชาติ มีเหตุเป็นแดนเกิด ก่อน มีเหตุเป็นองค์ มีเหตุเป็นสมุฏฐาน. การถอนผ้า ... การอธิษฐานผ้า ... การกราน ... มาติกาและปลิโพธ ... วัตถุ ... ความหวังและหมดหวัง มีเหตุเป็นนิทาน มีเหตุเป็นสมุทัย มีเหตุเป็นชาติ มีเหตุ เป็นแดนเกิดก่อน มีเหตุเป็นองค์ มีเหตุเป็นสมุฏฐาน. ถ. ประโยค มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไร เป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน ... บุพพกรณ์ ... การถอนผ้า ... การอธิษฐานผ้า ... การกราน ... มาติกาและปลิโพธ ... วัตถุ ... ความหวังและหมดหวัง มีอะไรเป็นนิทาน? มีอะไรเป็นสมุทัย? มีอะไรเป็นชาติ? มีอะไรเป็นแดนเกิดก่อน? มีอะไรเป็นองค์? มีอะไรเป็นสมุฏฐาน? ต. ประโยค มีปัจจัยเป็นนิทาน มีปัจจัยเป็นสมุทัย มีปัจจัยเป็นชาติ มีปัจจัยเป็น แดนเกิดก่อน มีปัจจัยเป็นองค์ มีปัจจัยเป็นสมุฏฐาน. บุพพกรณ์ ... การถอนผ้า ... การอธิษฐานผ้า ... การกราน ... มาติกาและปลิโพธ ... วัตถุ ... ความหวังและหมดหวัง มีปัจจัยเป็นนิทาน มีปัจจัยเป็นสมุทัย มีปัจจัยเป็นชาติ มี ปัจจัยเป็นแดนเกิดก่อน มีปัจจัยเป็นองค์ มีปัจจัยเป็นสมุฏฐาน.สงเคราะห์ธรรม [๑๑๓๙] ถามว่า บุพพกรณ์ สงเคราะห์ด้วยธรรมเท่าไร? ตอบว่า บุพพกรณ์ สงเคราะห์ด้วยธรรม ๗ อย่าง คือ ซักผ้า ๑ กะผ้า ๑ ตัดผ้า ๑ เนาผ้า ๑ เย็บผ้า ๑ ย้อมผ้า ๑ ทำกัปปะพินทุ ๑ บุพพกรณ์ สงเคราะห์ด้วยธรรม ๗ นี้. ถ. การถอนผ้า สงเคราะห์ด้วยธรรมเท่าไร? ต. การถอนผ้า สงเคราะห์ด้วยธรรม ๓ อย่าง คือ ผ้าสังฆาฏิ ๑ ผ้าอุตราสงค์ ๑ ผ้าอันตรวาสก ๑. ถ. การอธิษฐานผ้า สงเคราะห์ด้วยธรรมเท่าไร? ต. การอธิษฐานผ้า สงเคราะห์ด้วยธรรม ๓ อย่าง คือ ผ้าสังฆาฏิ ๑ ผ้าอุตราสงค์ ๑ ผ้าอันตรวาสก ๑. ถ. การกราน สงเคราะห์ด้วยธรรมเท่าไร? ต. การกราน สงเคราะห์ด้วยธรรมอย่างเดียว คือ เปล่งวาจา.มูลเหตุแห่งกฐินเป็นต้น [๑๑๔๐] ถามว่า กฐินมีมูลเท่าไร? มีวัตถุเท่าไร? มีภูมิเท่าไร? ตอบว่า กฐิน มีมูลอย่างเดียว คือ สงฆ์ มีวัตถุ ๓ คือ ผ้าสังฆาฏิ ๑ ผ้าอุตราสงค์ ๑ ผ้าอันตรวาสก ๑ มีภูมิ ๖ คือ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้ ๑ ผ้าทำด้วยฝ้าย ๑ ผ้าทำด้วยไหม ๑ ผ้าทำด้วยขนสัตว์ ๑ ผ้าทำด้วยป่าน ๑ ผ้าทำด้วยสัมภาระเจือกัน ๑.เป็นต้นแห่งกฐินเป็นต้น [๑๑๔๑] ถามว่า กฐิน มีอะไรเป็นเบื้องต้น? มีอะไรเป็นท่ามกลาง? มีอะไรเป็นที่สุด? ตอบว่า กฐินมีบุพพกรณ์เป็นเบื้องต้น มีการทำเป็นท่ามกลาง มีการกรานเป็นที่สุด.องค์ของภิกษุผู้กรานกฐิน [๑๑๔๒] ถามว่า ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไร ไม่ควรกรานกฐิน? ภิกษุประกอบ ด้วยองค์เท่าไร ควรกรานกฐิน? ตอบว่า ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ ไม่ควรกรานกฐิน ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ ควร กรานกฐิน. ถ. ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นไฉน ไม่ควรกรานกฐิน? ต. ภิกษุไม่รู้บุพพกรณ์ ๑ ไม่รู้การถอนผ้า ๑ ไม่รู้การอธิษฐานผ้า ๑ ไม่รู้การกราน ๑ ไม่รู้มาติกา ๑ ไม่รู้ปลิโพธ ๑ ไม่รู้การเดาะกฐิน ๑ ไม่รู้อานิสงส์ ๑. ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ นี้ ไม่ควรกรานกฐิน. ถ. ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นไฉน ควรกรานกฐิน? ต. ภิกษุรู้บุพพกรณ์ ๑ รู้การถอนผ้า ๑ รู้การอธิษฐานผ้า ๑ รู้การกราน ๑ รู้มาติกา ๑ รู้ปลิโพธ ๑ รู้การเดาะกฐิน ๑ รู้อานิสงส์ ๑. ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๘ นี้ ควรกรานกฐิน.เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๑๐๑๐๐-๑๐๓๑๒ หน้าที่ ๓๘๗-๓๙๕. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=8&A=10100&Z=10312&pagebreak=0 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=8&siri=104 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=1124 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1124-1142] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=8&item=1124&items=19 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=11497 The Pali Tipitaka in Roman :- [1124-1142] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=8&item=1124&items=19 The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=11497 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ https://84000.org/tipitaka/read/?index_8 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr16/en/brahmali https://suttacentral.net/pli-tv-pvr16/en/horner-brahmali
บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]