ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๑๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๔
๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๓๗๐] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัย หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัย ขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัย ขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ... อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
อารัมมณปัจจัย
[๓๗๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๔}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
อธิปติปัจจัย
[๓๗๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๓) เพราะอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ เพราะสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ เพราะสหชาตปัจจัย มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย
[๓๗๓] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูป {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัย มหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (ย่อ) (๑)
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๓๗๔] เหตุปัจจัย มี ๕ วาระ อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ อธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ สมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ อัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๖}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ ปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ อาเสวนปัจจัย มี ๑ วาระ กัมมปัจจัย มี ๕ วาระ วิปากปัจจัย มี ๕ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๕ วาระ) สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ วิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ อัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ อวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๓๗๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่ไม่เป็น อุปาทายรูปอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัย ขันธ์ ๑ ที่ไม่มีเหตุซึ่งไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ใน ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญ- สัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๗}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีเหตุ ซึ่งไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ฯลฯ (พึงเพิ่มข้อความ จนถึงอสัญญสัตตพรหม) (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีเหตุซึ่งไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
นอารัมมณปัจจัยเป็นต้น
[๓๗๖] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัย ขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (พึงเพิ่มข้อความจนถึงอสัญญสัตตพรหม) มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (พึงเพิ่มข้อความจนถึงอสัญญสัตตพรหม) (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๘}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูป และที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓) เพราะนอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ เพราะนอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ เพราะนอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ เพราะนปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ เพราะนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๕ วาระ เพราะนอาเสวนปัจจัย มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย
[๓๗๗] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ สัมปยุตตเจตนาอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้น ที่เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปที่เป็นภายนอก ที่มีอาหาร เป็นสมุฏฐาน มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทายรูปอาศัย มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นภายนอก มีอาหารเป็นสมุฏฐาน มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๒ ฯลฯ (๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๑๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปากปัจจัย
[๓๗๘] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เป็นอุปาทายรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (พึงเพิ่มข้อความจนถึงอสัญญสัตตพรหม โดยนัยนี้ มี ๓ วาระ ในสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเป็นมูล)
นอาหารปัจจัย
[๓๗๙] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ของเหล่าอสัญญสัตตพรหม ที่เป็นภายนอก ซึ่งมีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปของเหล่าอสัญญสัตตพรหม ที่เป็นภายนอก ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ของเหล่าอสัญญสัตตพรหมที่เป็นภายนอก ที่มีอุตุเป็น สมุฏฐาน ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๒ ฯลฯ (๓)
นอินทรียปัจจัย
[๓๘๐] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นภายนอก ที่มี อาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๒๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะ นอินทรียปัจจัย ได้แก่ รูปชีวิตินทรีย์อาศัยมหาภูตรูปของเหล่าอสัญญสัตตพรหมที่ เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่ เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๓)
นฌานปัจจัยเป็นต้น
[๓๘๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วย ปัญจวิญญาณเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ของเหล่าอสัญญสัตตพรหมที่ เป็นภายนอก ซึ่งมีอาหารเป็นสมุฏฐาน มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปของเหล่า อสัญญสัตตพรหมที่เป็นภายนอก ซึ่งมีอาหารเป็นสมุฏฐาน มีอุตุเป็นสมุฏฐาน เกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น อุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ของเหล่าอสัญญสัตตพรหมที่เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็น สมุฏฐานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๒ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป และอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนมัคคปัจจัย มี ๕ วาระ เพราะนสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัยเป็นต้น
[๓๘๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูป เกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๒๑}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ของเหล่า อสัญญสัตตพรหมที่เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้น เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป และอุปาทายรูปอาศัย มหาภูตรูปของเหล่าอสัญญสัตตพรหมที่เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่เป็นอุปาทายรูปและที่ไม่เป็นอุปาทายรูปอาศัยสภาวธรรมที่ไม่ เป็นอุปาทายรูปเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นภายนอก ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ และอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น สำหรับอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น เพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย (๓)
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๓๘๓] นเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๒๒}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๑. ปฏิจจวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๕ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๓ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ นฌานปัจจัย มี ๓ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๕ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๓๘๔] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ นอธิปติปัจจัย ” มี ๕ วาระ ฯลฯ นกัมมปัจจัย ” มี ๑ วาระ นวิปากปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ โนวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๓๘๕] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ อนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๒๒๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๗. อุปาทาทุกะ ๓. ปัจจยวาร

สมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ สหชาตปัจจัย ” มี ๕ วาระ อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๕ วาระ นิสสยปัจจัย ” มี ๕ วาระ อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๑ วาระ อาเสวนปัจจัย ” มี ๑ วาระ ฯลฯ มัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ ฯลฯ อวิคตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
(สหชาตวารเหมือนกับปฏิจจวาร)


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๓ หน้าที่ ๒๑๓-๒๒๔. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=43&siri=36              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=43&A=4898&Z=5117                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=43&i=0              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=43&item=293&items=17              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=43&item=293&items=17                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu43



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :