ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒
อุปสัมบันด่าอุปสัมบัน
พูดกดกระทบชาติ
[๑๙๗] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชาติทราม ด้วยกล่าวกระทบชาติทรามคือ พูดกะอุปสัมบันชาติคน จัณฑาล, ชาติคนจักสาน, ชาติพราน, ชาติคนช่างหนัง, ชาติคนเทดอกไม้, ว่าเป็น ชาติคนจัณฑาล, ว่าเป็นชาติคนจักสาน, ว่าเป็นชาติพราน, ว่าเป็นชาติคนช่างหนัง, ว่าเป็น ชาติคนเทดอกไม้, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด. [๑๙๘] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันกำเนิดอุกฤษฏ์ด้วยกล่าวกระทบชาติทราม คือ พูดกะอุปสัมบันกำเนิด กษัตริย์, กำเนิดพราหมณ์, ว่าเป็นชาติคนจัณฑาล, ว่าเป็นชาติคนจักสาน, ว่าเป็นชาติพราน, ว่าเป็นชาติคนช่างหนัง, ว่าเป็นชาติคนเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดประชดกระทบชาติ
[๑๙๙] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันกำเนิดทรามด้วยกล่าวกระทบชาติอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันกำเนิดคน จัณฑาล, กำเนิดคนจักสาน, กำเนิดพราน, กำเนิดคนช่างหนัง กำเนิดคนเทดอกไม้ ว่าเป็นชาติกษัตริย์, ว่าเป็นชาติพราหมณ์, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดยกยอกระทบชาติ
[๒๐๐] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันกำเนิดอุกฤษฏ์ด้วยกล่าวกระทบชาติอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันกำเนิด กษัตริย์ กำเนิดพราหมณ์ ว่าเป็นชาติกษัตริย์ ว่าเป็นชาติพราหมณ์ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดกดกระทบชื่อ
[๒๐๑] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชื่อทรามด้วยกล่าวกระทบชื่อทราม คือ พูดกะอุปสัมบันชื่ออวกัณณกะ ชวกัณณกะ ชื่อธนิฏฐกะ ... ชื่อสวิฏฐกะ ... ชื่อกุลวัฑฒกะ ว่าท่านอวกัณณะ ว่าท่าน ชวกัณณกะ ว่าท่านธนิฏฐกะ ว่าท่านสวิฏฐกะ ว่าท่านกุลวัฑฒกะ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด
พูดกดให้เลวกระทบชื่อ
[๒๐๒] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชื่ออุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบชื่อทราม คือ พูดกะอุปสัมบันชื่อ พุทธรักขิต ... ชื่อธัมมรักขิต ... ชื่อสังฆรักขิต ว่าท่านอวกัณณกะ ว่าท่านชวกัณณกะ ว่าท่านธนิฏฐกะ สวิฏฐกะ ว่าท่านกุลวัฑฒกะ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดประชดกระทบชื่อ
[๒๐๓] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชื่อทราม ด้วยกล่าวกระทบชื่ออุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันชื่อ อวกัณณกะ ... ชื่อชววัณณกะ ... ชื่อธนิฏฐกะ ... ชื่อสวิฏฐกะ ... ชื่อกุลวัฑฒกะ ว่าท่านพุทธ รักขิต ว่าท่านธัมมรักขิต ว่าท่านสังฆรักขิต ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดยกยอกระทบชื่อ
[๒๐๔] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีชื่ออุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบชื่ออุกฤษฏ์ คือพูดกะอุปสัมบันชื่อ พุทธรักขิต ... ชื่อธัมมรักขิต ... ชื่อสังฆรักขิต ว่าท่านพุทธรักขิต ว่าท่านธัมมรักขิต ว่าท่าน สังฆรักขิต ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดกดกระทบโคตร
[๒๐๕] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีโคตรทรามด้วยกล่าวกระทบโคตรทราม คือพูดกะอุปสัมบันโกสิยโคตร, ภารทวาชโคตร ว่าท่านโกสิยโคตร ว่าท่านภารทวาชโคตร ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดกดให้เลวกระทบโคตร
[๒๐๖] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีโคตรอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบโคตรทราม คือ พูดกะอุปสัมบัน- *โคตมโคตร ... โมคคัลลานโคตร ... กัจจายนโคตร ... วาเสฏฐโคตร ว่าท่านโกสิยโคตร ว่าท่านภารทวาชโคตร, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดประชดกระทบโคตร
[๒๐๗] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีโคตรทรามด้วยกล่าวกระทบโคตรอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบัน โกสิยโคตร ... ภารทวาชโคตร ว่าท่านโคตมโคตร ว่าท่านโมคคัลลานโคตร ว่าท่าน กัจจายนโคตร ว่าท่านวาเสฏฐโคตร ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดยกยอกระทบโคตร
[๒๐๘] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีโคตรอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบโคตรอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบัน โคตมโคตร ... โมคคัลลานโคตร ... กัจจายนโคตร ... วาเสฏฐโคตร ว่าท่านโคตมโคตร ว่าท่าน โมคคัลลานโคตร ว่าท่านกัจจายนโคตร ว่าท่านวาเสฏฐโคตร ดังนี้ เป็นต้น ต้องอาบัติ ปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดกระทบการงาน
[๒๐๙] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีการงานทรามด้วยกล่าวกระทบการงานทราม คือ พูดกะอุปสัมบันเป็น ช่างไม้ ... เป็นคนเทดอกไม้ ว่าท่านทำงานช่างไม้ ว่าท่านทำงานเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดกดให้เลวกระทบการงาน
[๒๑๐] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีการงานอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบการงานทราม คือพูดกะอุปสัมบัน เป็นชาวนา ... เป็นพ่อค้า ... เป็นคนเลี้ยงโค ว่าท่านทำงานช่างไม้ ว่าท่านทำงานเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
พูดประชดกระทบการงาน
[๒๑๑] อุปสัมบันปรารถนาจะด่า ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ปรารถนาจะทำให้ อัปยศ พูดกะอุปสัมบันมีการงานทราม ด้วยกล่าวกระทบการงานอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบัน เป็นช่างไม้ ... เป็นคนเทดอกไม้ ว่าท่านทำงานไถนา ว่าท่านทำงานค้าขาย ว่าท่านทำงาน เลี้ยงโค ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ บรรทัดที่ ๕๐๒๒-๕๐๙๙ หน้าที่ ๒๐๘-๒๑๑. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=2&A=5022&Z=5099&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=2&item=197&items=15              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=2&item=197&items=15&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=2&item=197&items=15              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=2&item=197&items=15              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=2&i=197              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ https://84000.org/tipitaka/read/?index_2 https://84000.org/tipitaka/english/?index_2

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]