ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
ญาณัง อนารัมมณันติกถา
[๑๓๓๘] สกวาที ญาณ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว ส. เป็นรูป เป็นนิพพาน เป็นจักขายตนะ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพายตนะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ญาณ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ สัมมาทิฏฐิ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ สัมมาทิฏฐิ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ญาณ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๓๓๙] ส. ญาณ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. นับเนื่องในขันธ์ไหน ป. นับเนื่องในสังขารขันธ์ ส. สังขารขันธ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สังขารขันธ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๓๔๐] ส. ญาณ นับเนื่องในสังขารขันธ์ แต่เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ส. ถูกแล้ว ส. ปัญญา นับเนื่องในสังขารขันธ์ แต่เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ปัญญา นับเนื่องในสังขารขันธ์ และเป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ญาณ นับเนื่องในสังขารขันธ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๓๔๑] ส. ญาณ นับเนื่องในสังขารขันธ์ แต่เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ ส่วนปัญญานับ เนื่องในสังขารขันธ์ และเป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สังขารขันธ์ส่วนหนึ่ง เป็นธรรมมีอารมณ์ แต่อีกส่วนหนึ่ง เป็นธรรมไม่มี อารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สังขารขันธ์ ส่วนหนึ่งเป็นธรรมมีอารมณ์ แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นธรรมไม่มี อารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ ส่วนหนึ่งเป็นธรรมมีอารมณ์ แต่ อีกส่วนหนึ่ง เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๓๔๒] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ญาณเป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. พระอรหันต์ผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณ พึงกล่าวว่ามีญาณ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. อารมณ์ของญาณนั้น มีหรือ? ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ป. ถ้าอย่างนั้น ญาณก็เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ น่ะสิ ส. อรหันต์ผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณ พึงกล่าวว่า มีปัญญา หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อารมณ์ของปัญญานั้น มีหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ถ้าอย่างนั้น ปัญญาก็เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ นะสิ
ญาณัง อนารัมมณันติกถา จบ
-----------------------------------------------------
อตีตารัมมณกถา
[๑๓๔๓] สกวาที จิตที่มีอดีตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว ส. มีอดีตเป็นอารมณ์ มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า มีอดีตเป็นอารมณ์ ก็ไม่ต้องกล่าวว่า จิตที่มีอดีตเป็นอารมณ์ เป็น ธรรมไม่มีอารมณ์ และดังนั้น การกล่าวว่าจิตที่มีอดีตเป็นอารมณ์ เป็นธรรม ไม่มีอารมณ์ จึงผิด ก็หรือหากว่า จิตเป็นธรรมไม่มีอารมณ์ ก็ต้องไม่กล่าว ว่า มีอดีตเป็นอารมณ์ และดังนั้น การกล่าวว่า จิตที่เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ เป็นธรรมมีอดีตเป็นอารมณ์ จึงผิด [๑๓๔๔] ส. จิตที่มีอดีตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอดีตมี มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอดีต มีอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า จิต ที่มีอดีตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์
อตีตารัมมณกถา จบ
-----------------------------------------------------
อนาคตารัมมณกถา
[๑๓๔๕] สกวาที จิตที่มีอนาคตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว ส. มีอนาคตเป็นอารมณ์ มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า มีอนาคตเป็นอารมณ์ ก็ต้องไม่กล่าวว่า จิตที่มีอนาคตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ และดังนั้น การกล่าวว่า จิตที่มีอนาคตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ จึงผิด ก็หรือหากว่า จิตเป็นธรรมไม่มีอารมณ์ ก็ ต้องไม่กล่าวว่า จิตมีอนาคตเป็นอารมณ์ และดังนั้น การกล่าวว่า จิตที่เป็น ธรรมไม่มีอารมณ์ เป็นธรรมมีอนาคตเป็นอารมณ์ จึงผิด [๑๓๔๖] ส. จิตที่มีอนาคตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอนาคตมี มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอนาคต มีอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า จิตที่มีอนาคตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ [๑๓๔๗] ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภปัจจุบันมีอยู่ และจิตที่มีปัจจุบัน เป็นอารมณ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอดีต มีอยู่ และจิตมีอดีตเป็นอารมณ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๓๔๘] ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภปัจจุบัน มีอยู่ และจิตที่มีปัจจุบันเป็น อารมณ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ปรารภอนาคต มีอยู่ และจิตที่มีอนาคตเป็น อารมณ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๑๓๓๒๔-๑๓๔๒๙ หน้าที่ ๕๕๕-๕๖๐. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=13324&Z=13429&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=1338&items=11              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=1338&items=11&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=1338&items=11              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=1338&items=11              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1338              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37 https://84000.org/tipitaka/english/?index_37

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]