ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๘ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๒ ปัจฉิมอนุโลมติกปัฏฐาน
ปัจจยวาร
[๑๓๗๓] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรมขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ขันธ์ทั้งหลายอาศัย หทัยวัตถุ อุปาทา- *รูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ มหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคธรรม อาศัยหทัยวัตถุ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นมหัคคตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ อัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม อาศัยหทัยวัตถุ ปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม อาศัยหทัยวัตถุ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหา- *ภูตรูปทั้งหลาย ปริตตธรรม และมหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหารูป ทั้งหลาย ในปฏิสนธิขณะ อาศัยหทัยวัตถุ [๑๓๗๔] มหัคคตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ฯลฯ ปริตตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ปริตตธรรม และมหัคคตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ฯลฯ [๑๓๗๕] อัปปมาณธรรม อาศัยอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ในอัปปมาณธรรม มีหัวข้อปัจจัย ๓ [๑๓๗๖] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอัปปมาณธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย อัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม และหทัยวัตถุ ปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม และหทัยวัตถุ ขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอัปปมาณธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย [๑๓๗๗] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม และมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ ปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓ ในปฏิสนธิขณะ พึงกระทำหัวข้อปัจจัยแม้ทั้ง ๓ [๑๓๗๘] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ จักขุวิญญาณ อาศัยจักขายตนะ อาศัย กายายตนะ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ หัวข้อปัจจัย ๖ ที่เหลือเหมือนกับเหตุปัจจัย พึงกระทำหัวข้อปัจจัย ๗ เพราะอธิปติปัจจัย ปฏิสนธิไม่มี หัวข้อปัจจัย ๑๓ พึงใส่ให้เต็ม เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย [๑๓๗๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๗ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๗ ในอธิปติปัจจัย มี " ๗ ในอนันตรปัจจัย มี " ๗ ในสมนันตรปัจจัย มี " ๗ ในสหชาตปัจจัย มี " ๑๗ ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๙ ในนิสสยปัจจัย มี " ๑๗ ในอุปนิสสยปัจจัย มีวาระ ๗ ในปุเรชาตปัจจัย มี " ๗ ในอาเสวนปัจจัย มี " ๗ ในกัมมปัจจัย มี " ๑๗ ในวิปากปัจจัย มี " ๑๗ ในอาหารปัจจัย มี " ๑๗ ในอินทริยปัจจัย ในฌานปัจจัย ในมัคคปัจจัย มี " ๑๗ ในสัมปยุตตปัจจัย มี " ๗ ในวิปปยุตตปัจจัย มี " ๑๗ ในอัตถิปัจจัย มี " ๑๗ ในนัตถิปัจจัย มี " ๗ ในวิคตปัจจัย มี " ๗ ในอวิคตปัจจัย มี " ๑๗
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๓๘๐] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทัยวัตถุ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย ฯลฯ จักขุวิญญาณ อาศัยจักขายตนะ กายายตนะ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ อาศัยหทัยวัตถุ โมหะ ที่สหรคตด้วย วิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และหทัยวัตถุ [๑๓๘๑] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย เหมือนกับปฏิจจวาร มีหัวข้อปัจจัย ๕ [๑๓๘๒] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรมขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย ฯลฯ จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ มหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมหัคคตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก อาศัยหทัยวัตถุ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม อาศัยหทัยวัตถุ อัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอัปปมาณธรรม อาศัยหทัยวัตถุ ปริตตธรรม และมหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก อาศัยหทัยวัตถุ จิตตสมุฏฐาน- *รูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๓๘๓] มหัคคตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมหัคคตธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ปริตตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ในปฏิสน- *ธิขณะ ฯลฯ ปริตตธรรม และมหัคคตธรรม อาศัยมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๓๘๔] อัปปมาณธรรม อาศัยอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ ปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอัปปมาณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม [๑๓๘๕] อัปปมาณธรรม อาศัยปริตตธรรม และอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอัปปมาณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม และ หทัยวัตถุ [๑๓๘๖] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม และมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะอธิปติปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบากและมหาภูตรูป ทั้งหลาย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม และมหัคคตธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติ- *ปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมหัคคตธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม และ หทัยวัตถุ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และหทัยวัตถุ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ปริตตธรรม และมหัคคตธรรม อาศัยปริตตธรรม และมหัคคตธรรม ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และหทัยวัตถุ ขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก และมหาภูตรูป ทั้งหลาย ในปฏิสนธิขณะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม [๑๓๘๗] ปริตตธรรม อาศัยปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอนันตรปัจจัย ไม่ใช่เพราะสมนันตรปัจจัย ไม่ใช่เพราะอัญญมัญญปัจจัย ไม่ใช่เพราะอุปนิสสยปัจจัย ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย เหมือนกับปฏิจจวาร มีหัวข้อปัจจัย ๑๒ ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย พึงใส่ให้เต็ม พึงแสดง ว่า วิบาก จิตตสมุฏฐานรูป ไม่พึงแสดงว่า วิบาก ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย แม้ปฏิสนธิและวิบากก็ไม่มี ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย ไม่ใช่เพราะสัมปยุตตปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย ไม่ใช่ เพราะนัตถิปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิคตปัจจัย [๑๓๘๘] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๑๒ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๑๒ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มีวาระ ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๕
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๓๘๙] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๒ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๒ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๕
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๓๙๐] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑ ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ ในสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ ในสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ ในวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
ปัจจยวาร จบ
นิสสยวาร เหมือนกับปัจจยวาร
สังสัฏฐวาร
[๑๓๙๑] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ [๑๓๙๒] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ [๑๓๙๓] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ [๑๓๙๔] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ปฏิสนธิ ไม่มี เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญ- *มัญญปัจจัย เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย ปฏิสนธิ ไม่มี เพราะอาเสวนปัจจัย วิบากก็ดี ปฏิสนธิก็ดี ไม่มี เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทริยปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะ อัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย [๑๓๙๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๓ ในอธิปติปัจจัย มี " ๓ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๑๓๙๖] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ คลุก เคล้ากับขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ [๑๓๙๗] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิ- *ขณะ ฯลฯ [๑๓๙๘] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณ- *ปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นมหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๓๙๙] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ อธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม [๑๔๐๐] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาต- *ปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๔๐๑] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปุเรชาต- *ปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๔๐๒] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ ปุเรชาตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม [๑๔๐๓] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาต- *ปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๔๐๔] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาเสวน- *ปัจจัย คือ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๔๐๕] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ อาเสวนปัจจัย คือ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ซึ่งเป็นวิบาก [๑๔๐๖] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นปริตตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม [๑๔๐๗] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมม- *ปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นมหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม [๑๔๐๘] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ กัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัปปมาณธรรม [๑๔๐๙] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม [๑๔๑๐] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปาก- *ปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม [๑๔๑๑] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ วิปากปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ คลุกเคล้ากับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม [๑๔๑๒] ปริตตธรรม คลุกเคล้ากับปริตตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นปริตตธรรม ฯลฯ [๑๔๑๓] มหัคคตธรรม คลุกเคล้ากับมหัคคตธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตต- *ปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นมหัคคตธรรม ฯลฯ [๑๔๑๔] อัปปมาณธรรม คลุกเคล้ากับอัปปมาณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ วิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัปปมาณธรรม ฯลฯ [๑๔๑๕] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย มีวาระ ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๓
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๑๔๑๖] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๓
พึงนับอย่างนี้
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๔๑๗] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๑ ในอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๑
พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียานุโลม จบ
สัมปยุตตวาร เหมือนกับ สังสัฏฐวาร
ปัญหาวาร
[๑๔๑๘] ปริตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ปริตตธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๑๔๑๙] มหัคคตธรรม เป็นปัจจัยแก่มหัคคตธรรม โดยเหตุปัจจัย มี ๓ นัย พึงกระทำ ปวัตติ ปฏิสนธิ [๑๔๒๐] อัปปมาณธรรม เป็นปัจจัยแก่อัปปมาณธรรม โดยเหตุปัจจัย มี ๓ นัย [๑๔๒๑] ปริตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ปริตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรมแล้ว พิจารณากุศลกรรมนั้น พิจารณากุศลกรรมทั้งหลายที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน พระอริยะทั้งหลายพิจารณาโคตรภู พิจารณาโวทาน พิจารณากิเลสที่ละแล้ว พิจารณา กิเลสที่ข่มแล้ว รู้ซึ่งกิเลสทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นแล้วในกาลก่อน จักขุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ พิจารณาเห็นขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม โดยความ เป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักขุเป็นต้นนั้น ราคะ เกิดขึ้น โทมนัส เกิดขึ้น รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่ จักขุ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ โดยอารัมมณปัจจัย [๑๔๒๒] ปริตตธรรม เป็นปัจจัยแก่มหัคคตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็นปริตตธรรม โดยเจโตปริยญาณ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปริตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโตปริยญาณ แก่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย [๑๔๒๓] มหัคคตธรรม เป็นปัจจัยแก่มหัคคตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เป็น ปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ โดยอารัมมณปัจจัย บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็นมหัคคตธรรม โดยเจโตปริยญาณ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโตปริยญาณ แก่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย [๑๔๒๔] มหัคคตธรรม เป็นปัจจัยแก่ปริตตธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลพิจารณาปฐมฌาน พิจารณาเนวสัญญานาสัญญายตนะ พิจารณาทิพพจักขุ ทิพพโสตธาตุ ฯลฯ พิจารณาอิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ฯลฯ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ ยถากัมมุปคญาณ ฯลฯ พิจารณาอนาคตังสญาณ บุคคลพิจารณาเห็นขันธ์ทั้งหลายที่เป็นมหัคคตธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ราคะ เกิดขึ้น ทิฏฐิ เกิดขึ้น

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ บรรทัดที่ ๑๐๐๕๑-๑๐๓๗๖ หน้าที่ ๔๒๗-๔๔๑. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=10051&Z=10376&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=41&item=1373&items=52              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=41&item=1373&items=52&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=41&item=1373&items=52              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=41&item=1373&items=52              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=1373              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ https://84000.org/tipitaka/read/?index_41 https://84000.org/tipitaka/english/?index_41

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]