นสนิทัสนัตติกนปริตตัตติกสนิทัสสนัตติกปริตตัตติกะ
[๑๑๗๒] ปริตตธรรมที่เป็นสนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่ปริตตธรรมที่
ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๗๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๒๑
[๑๑๗๔] มหัคคตธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มหัคคตธรรม
ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๗๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๗๖] อัปปมาณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัปปมาณ-
*ธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๗๗] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
นสนิทัสสนัตติกนปริตตารัมมณัตติกะ
สนิทัสสนัตติกปริตตารัมมณัตติกะ
[๑๑๗๘] ปริตตารัมมณธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่ปริตตา-
*รัมมณธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๗๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๘๐] มหัคคตารัมมณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มหัคคตา
รัมมณธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๘๑] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๘๒] อัปปมาณารัมมณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่
อัปปมาณารัมมณธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๘๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
นสนิทัสสนัตติกนหีนัตติกสนิทัสสนัตติกหีนัตติกะ
[๑๑๘๔] หีนธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่หีนธรรม ที่ไม่ใช่
สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๘๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๘๖] มัชฌิมธรรมที่เป็นสนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มัชฌิมธรรม
ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๘๗] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๒๑
[๑๑๘๘] ปณิตธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่ปณีตธรรม
ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๘๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
นสนิทัสสนัตติกนมิจฉัตตัตติกกสนิทัสสนัตติกมิจฉัตตัตติกะ
[๑๑๙๐] มิจฉัตตนิยตธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มิจฉัตต-
*นิยตธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๙๑] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๙๒] สัมมัตตนิยตธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่สัมมัตต-
*นิยตธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๙๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๙๔] อนิยตธรรมที่เป็นสนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อนิยตธรรมที่
ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๙๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๒๑
นสนิทัสสนัตติกนมัคคารัมมณัตติกะ
สนิทัสสนัตติกมัคคารัมมณัตติกะ
[๑๑๙๖] มัคคารัมมณธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มัคคารัม-
*มณธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๙๗] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๑๙๘] มัคคเหตุกธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มัคคเหตุก-
*ธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๑๙๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๒๐๐] มัคคาธิปติธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่มัคคาธิปติ-
*ธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๐๑] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
นสนิทัสสนัตติกนอุปปันนัตติกสนิทัสสนัตติกอุปปันนัตติกะ
[๑๒๐๒] ธรรมที่ไม่ใช่อุปปันนธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เป็นปัจจัยแก่
อุปปันนธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม โดยอารัมมณปัจจัย
[๑๒๐๓] ในอารัมมณปัจจัย มีวาระ ๖
นสนิทัสสนัตติกนอตีตัตติกสนิทัสสนัตติกอตีตัตติกะ
[๑๒๐๔] ธรรมที่ไม่ใช่ปัจจุปปันนารัมมณธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เป็น
ปัจจัยแก่ปัจจุปปันนธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม โดยอารัมมณปัจจัย
[๑๒๐๕] ในอารัมมณปัจจัย มีวาระ ๖
นสนิทัสสนัตติกนอตีตารัมมณัตติกะ
สนิทัสสนัตติกอตีตารัมมณัตติกะ
[๑๒๐๖] อตีตารัมมณธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อตีตา-
*รัมมณธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๐๗] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๒๐๘] อนาคตารัมมณธรรม ที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่
อนาคตารัมมณธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๐๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๒๑๐] ปัจจุปปันนารัมมณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่
ปัจจุปปันนารัมมณธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๑๑] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
นสนิทัสสนัตติกนอัชฌัตตารัมมณัตติกะ
สนิทัสสนัตติกอัชฌัตตารัมมณัตติกะ
[๑๒๑๒] อัชฌัตตารัมมณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่
อัชฌัตตารัมมณธรรม ที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๑๓] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
[๑๒๑๔] พหิทธารัมมณธรรมที่เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่พหิทธา-
*รัมมณธรรมที่ไม่ใช่สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
[๑๒๑๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
ในอวิคตปัจจัย มี " ๓
สหชาตวารก็ดี ปัจจยวารก็ดี สังสัฏฐวารก็ดี สัมปยุตตวารก็ดี ปัญหาวารก็ดี พึง
ให้พิสดาร
ปัจจนียานุโลมติกติกปัฏฐาน จบ.
-----------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๕ บรรทัดที่ ๑๑๐๗๓-๑๑๑๕๖ หน้าที่ ๔๔๖-๔๔๙.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=45&A=11073&Z=11156&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=45&item=2864&items=44
อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :-
http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=45&item=2864&items=44&mode=bracket
อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :-
http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=45&item=2864&items=44
อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :-
http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=45&item=2864&items=44
ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=45&i=2864
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๕
http://84000.org/tipitaka/read/?index_45
บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com