บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
๘. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ ว่าด้วยวาระการให้มานัตแก่ภิกษุ ๒ รูป ๑๑ กรณี [๑๘๑] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๗๙}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]
๘. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ
พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏและพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๑) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นไม่แน่ใจในอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๒) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๓) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติเจือกัน๑- ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น แสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้ มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๔) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติเจือกัน ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่า เป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น แสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้ มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๕) ภิกษุ ๒ รูป ต้องลหุกาบัติ(อาบัติเบา)ล้วน ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นใน ลหุกาบัติล้วนว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น แสดงอาบัติทุกกฏ พึงปรับภิกษุทั้ง ๒ รูปตามธรรม (๖) @เชิงอรรถ : @๑ อาบัติเจือกัน หมายถึงอาบัติสังฆาทิเสสและอาบัติเบาๆ อื่น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๘๐}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]
๘. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ
ภิกษุ ๒ รูป ต้องลหุกาบัติล้วน ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในลหุกาบัติล้วน ว่าเป็นลหุกาบัติล้วน รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น แสดงอาบัติทุกกฏ พึงปรับภิกษุทั้ง ๒ รูปตามธรรม (๗) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งคิดว่า จักบอก รูปหนึ่งคิดว่า จักไม่บอก ภิกษุนั้นปิดไว้ถึงยามที่หนึ่งบ้าง ปิดไว้ถึงยามที่สองบ้าง ปิดไว้ถึงยามที่สามบ้าง เมื่อ อรุณขึ้นแล้วเป็นอันปิดอาบัติ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และ พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๘) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส จึงไปด้วยคิดว่า จักบอก ในระหว่างทาง รูป หนึ่งเกิดความคิดลบหลู่ว่า จักไม่บอก ภิกษุนั้นปิดไว้ถึงยามที่หนึ่งบ้าง ปิดไว้ถึง ยามที่สองบ้าง ปิดไว้ถึงยามที่สามบ้าง เมื่ออรุณขึ้นแล้วเป็นอันปิดอาบัติ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๙) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส แล้วเกิดวิกลจริต ภายหลังหายวิกลจริตแล้ว รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏและ พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๑๐) ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เมื่อภิกษุกำลังยกพระปาติโมกข์ขึ้น แสดงอยู่ ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบเดี๋ยวนี้เองว่า ได้ยิน ว่า ธรรมแม้นี้มาในสูตร นับเนื่องในสูตร มาสู่อุทเทสทุกกึ่งเดือน ภิกษุเหล่านั้นมี ความเห็นในอาบัติสังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๘๑}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]
๙. มูลายอวิสุทธินวกะ
ไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติ ตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง ๒ รูป (๑๑)เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๒๗๙-๒๘๒. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=6&siri=42 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=6&A=7409&Z=7459 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=6&i=555 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=6&item=555&items=11 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=6&item=555&items=11 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu6 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/brahmali#pli-tv-kd13:34.1.0 https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/horner-brahmali#BD.5.88
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]