บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร ๑. ปัจจยานุโลม เหตุปัจจัย [๔๗] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒. .. มี ๗ วาระ ... ทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... มี ๕ วาระ (ปัจจัยนี้เหมือน กับปฏิจจวาร) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๓๕}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำ หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและจิตต- สมุฏฐานรูปทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิตก ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๖) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๓๖}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำภาว- ธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและ วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๗) [๔๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและ ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (ปฏิสนธิขณะที่มีในอุทาหรณ์แรก พึงเพิ่มเป็น ๗ วาระ) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มี ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตกและหทัย- วัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่ มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๒) สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง วิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง วิจารและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำวิตกและมหาภูตรูป ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิจารทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น (ในปฏิสนธิขณะ มีอาการ ๔ เหมือนกัน) (๓) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๓๗}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
ทำวิตกและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำวิตกและมหาภูตรูป ให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มี วิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ และ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และวิจารทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ฯลฯ (๕) (ในฆฏนาทั้ง ๒ ฝ่ายที่เหลือพึงขยายปวัตติกาลและปฏิสนธิกาลให้พิสดาร)เหตุปัจจัย จบ (ผู้รู้เหตุปัจจัย พึงขยายปัจจยวารให้พิสดาร พึงนับเหมือนการนับปฏิจจวาร อธิปติปัจจัย มี ๓๗ วาระ ปุเรชาตปัจจัยและอาเสวนปัจจัย มี ๒๑ วาระ นี้ เป็นความต่างกันในปัจจยวารนี้)๒. ปัจจยปัจจนียะ [๔๙] ในปัจจนียะ นเหตุปัจจัย มี ๓๓ วาระ ในฐานทั้ง ๗ พึงยกโมหะ ทั้ง ๗ ขึ้นแสดงไว้เฉพาะในบทที่เป็นมูล ในนอารัมมณปัจจัยพึงยกสภาวธรรมที่มี จิตเป็นสมุฏฐานทั้ง ๗ ขึ้นแสดงนอธิปติปัจจัย [๕๐] ในนอธิปติปัจจัย พึงเพิ่มวาระที่มีสภาวธรรมซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเป็น มูลไว้ ๗ วาระ สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๓๘}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่ มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) ... ทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... (พึงเพิ่ม ๕ วาระเหมือนนัย แห่งปฏิจจวาร) [๕๑] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ซึ่งไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำวิจารที่เป็น วิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ วิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ใน ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีวิตก มีเพียงวิจารทำวิจารที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตก มีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มี ทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและจิตต- {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๓๙}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สมุฏฐานรูปทำวิจารที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมี เพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูป ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารทำหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกทำหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๖) (ในฆฏนาแรก พึงเพิ่มให้ครบทั้ง ๗ วาระ) [๕๒] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตก และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตก มีเพียงวิจาร ทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจาร ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น ๕ วาระ พึงเพิ่มวิบากไว้ในที่มาแห่งสภาว- ธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ในนัยที่มีนอธิปติปัจจัยเป็นมูล พึงเพิ่มเป็น ๓๗ วาระ)นอนันตรปัจจัยเป็นต้น [๕๓] นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัยและนอุปนิสสย- ปัจจัย ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๗ วาระ มีเฉพาะรูปเท่านั้น นปุเรชาตปัจจัยมี ๓๗ วาระ เหมือนกับปัจจนียะในปฏิจจวาร นปัจฉาชาตปัจจัยมี ๓๗ วาระ แม้นอาเสวนปัจจัย ก็เหมือนกัน พึงเพิ่มวิบากไว้ในที่มาแห่งสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๔๐}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
นกัมมปัจจัย [๕๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้ง วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและ วิจารทำวิตกให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒) สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ (พึงเพิ่มให้บริบูรณ์) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมี เพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓) [๕๕] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้ง วิตกวิจาร และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มี ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตกและหทัย- วัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์ที่ ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๔๑}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมี เพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้งวิตก วิจารและทำวิตกให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียง วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มี ทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารวิตกและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑) (นวิปากปัจจัยพึงเพิ่มเป็น ๓๗ วาระ พึงขยายนอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัยให้พิสดาร)๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร สุทธนัย [๕๖] นเหตุปัจจัย มี ๓๓ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๓๗ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ นอาเสวนปัจจัย มี ๓๗ วาระ นกัมมปัจจัย มี ๑๑ วาระ นวิปากปัจจัย มี ๓๗ วาระ นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๔๒}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ นมัคคปัจจัย มี ๓๓ วาระ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ [๕๗] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ โนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระอนุโลมปัจจนียะ จบ ๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม [๕๘] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๔ วาระ อนันตรปัจจัย มี ๑๔ วาระ สมนันตรปัจจัย มี ๑๔ วาระ สหชาตปัจจัย มี ๓๓ วาระ อัญญมัญญปัจจัย มี ๒๒ วาระ นิสสยปัจจัย มี ๓๓ วาระ อุปนิสสยปัจจัย มี ๑๔ วาระ ปุเรชาตปัจจัย มี ๑๔ วาระ อาเสวนปัจจัย มี ๑๓ วาระ กัมมปัจจัย มี ๓๓ วาระ วิปากปัจจัย มี ๓๓ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า : ๔๓}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน]
๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
อาหารปัจจัย มี ๓๓ วาระ อินทรียปัจจัย มี ๓๓ วาระ ฌานปัจจัย มี ๓๓ วาระ มัคคปัจจัย มี ๕ วาระ สัมปยุตตปัจจัย มี ๑๔ วาระ วิปปยุตตปัจจัย มี ๓๓ วาระ อัตถิปัจจัย มี ๓๓ วาระ ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๓๓ วาระปัจจนียานุโลม จบ ปัจจยวาร จบ (แม้นิสสยวาร ก็ไม่ต่างกัน) เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๑ หน้าที่ ๓๕-๔๔. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=41&siri=3 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=41&A=911&Z=1100 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=41&i=99 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=41&item=99&items=15 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=41&item=99&items=15 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu41
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]