บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร ๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร เหตุปัจจัย [๒๗๙] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๑}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) เหตุที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่ จิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) เหตุที่เป็นอรูปาวจรเป็น ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย เหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สัปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)อารัมมณปัจจัย [๒๘๐] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ โดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดย อารัมมณปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลพิจารณาอากาสานัญจายตนะ พิจารณาวิญญาณัญ- จายตนะ พิจารณาอากิญจัญญายตนะ พิจารณาเนวสัญญานาสัญญายตนะ เห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นอรูปาวจรด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจร เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว พิจารณา กุศลนั้น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะออกจากมรรคแล้ว พิจารณามรรค พิจารณาผล พิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน มรรค ผล และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว ฯลฯ รู้กิเลสที่เคย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๒}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
เกิดขึ้น ฯลฯ เห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจร โดย เป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียง ด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นอรูปาวจร ด้วยเจโตปริยญาณ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๑)อธิปติปัจจัย [๒๘๑] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอรูปาวจร เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ และสหชาตาธิปติ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลพิจารณาอากาสานัญจายตนะให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น ฯลฯ พิจารณาเนวสัญญานาสัญญายตนะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความ ยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป โดยอธิปติปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) อธิบดีธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓) [๒๘๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจร โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะทำความ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๓}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น บุคคลพิจาณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะออกจาก มรรคแล้วพิจารณามรรค ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาผล ฯลฯ พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน มรรค และผลโดยอธิปติปัจจัย ยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ ทหัยวัตถุ และขันธ์ที่ ไม่เป็นอรูปาวจรให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุ เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต ขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๑)อนันตรปัจจัยเป็นต้น [๒๘๓] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่เป็นอรูปาวจร ภวังคจิตที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่ วุฏฐานะที่ไม่เป็นอรูปาวจร เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็น ปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๒) [๒๘๔] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น อรูปาวจรโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดก่อนๆ เป็น ปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัย แก่โคตรภู ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย อนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอรูปาวจร โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นอรูปาวจรโดย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๔}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย บริกรรมอากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากาสานัญจายตนะโดย อนันตรปัจจัย บริกรรมวิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดย อนันตรปัจจัย (๒) ... เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี ๕ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี ๒ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระอุปนิสสยปัจจัย [๒๘๕] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ โดยอุปนิสสยปัจจัย วิญญาณัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่เป็นอรูปาวจรแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานที่ไม่เป็นอรูปาวจรให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่ เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญาแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ ศรัทธาที่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญาเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญา ... ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ...มรรค และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๕}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
[๒๘๖] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจร โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่เป็นอรูปาวจรแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษาโบสถ ทำฌานที่ไม่เป็นอรูปาวจรให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่ไม่ เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา ฯลฯ สุขทางกาย ฯลฯ ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำ สมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธาที่ไม่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่เป็นอรูปาวจร ฯลฯ ความปรารถนา ... สุข ทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... มรรค และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย อุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บริกรรมอากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากาสานัญ- จายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัย แก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)ปุเรชาตปัจจัย [๒๘๗] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจร โดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็น สภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย ทิพพโสตธาตุ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็น ปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย ปุเรชาตปัจจัย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๖}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย ปุเรชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ที่เป็นอรูปาวจรโดยปุเรชาตปัจจัย (๒) ... เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระกัมมปัจจัย [๒๘๘] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย กัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปและขันธ์ที่ เป็นอรูปาวจรโดยกัมมปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) เจตนาที่เป็นอรูปาวจรเป็น ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย กัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (ย่อ) (๑)วิปากปัจจัยเป็นต้น [๒๘๙] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยวิปากปัจจัย (ย่อ) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย วิปากปัจจัย (ย่อ) ... เป็นปัจจัยโดยอาหารปัจจัย มี ๔ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยอินทรียปัจจัย มี ๔ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๗}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
... เป็นปัจจัยโดยฌานปัจจัย มี ๔ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยมัคคปัจจัย มี ๔ วาระ ... เป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระวิปปยุตตปัจจัย [๒๙๐] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจร โดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (ย่อ) (๑) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะและปัจฉาชาตะ (ย่อ) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย วิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ เป็นอรูปาวจรโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)อัตถิปัจจัยเป็นต้น [๒๙๑] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตะ ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่ เป็นอรูปาวจรโดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตะ (ย่อ) (๓) สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อัตถิปัจจัย มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (ย่อ) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๘}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย อัตถิปัจจัย มี อย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น อรูปาวจรโดยอัตถิปัจจัย (๒) [๒๙๒] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่ สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอรูปาวจรและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่ เป็นอรูปาวจรโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต- สมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้ โดยอัตถิปัจจัย ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่ กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๒) ... เป็นปัจจัยโดยนัตถิปัจจัย ... เป็นปัจจัยโดยวิคตปัจจัย ... เป็นปัจจัยโดยอวิคตปัจจัย๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร [๒๙๓] เหตุปัจจัย มี ๔ วาระ อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ อธิปติปัจจัย มี ๔ วาระ อนันตรปัจจัย มี ๔ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๕๙๙}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
สมนันตรปัจจัย มี ๔ วาระ สหชาตปัจจัย มี ๕ วาระ อัญญมัญญปัจจัย มี ๒ วาระ นิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ อุปนิสสยปัจจัย มี ๔ วาระ ปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ กัมมปัจจัย มี ๔ วาระ วิปากปัจจัย มี ๒ วาระ อาหารปัจจัย มี ๔ วาระ อินทรียปัจจัย มี ๔ วาระ ฌานปัจจัย มี ๔ วาระ มัคคปัจจัย มี ๔ วาระ สัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ อัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ นัตถิปัจจัย มี ๔ วาระ วิคตปัจจัย มี ๔ วาระ อวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ๒. ปัจจนียุทธาร [๒๙๔] สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจร โดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรโดย อารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปัจฉาชาตปัจจัย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๖๐๐}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่ เป็นอรูปาวจรโดยสหชาตปัจจัย (๓) [๒๙๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น อรูปาวจรโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย สภาวธรรมที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรโดย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ เป็นอรูปาวจรโดยสหชาตปัจจัยและปุเรชาตปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นอรูปาวจรและที่ไม่เป็นอรูปาวจรเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น อรูปาวจรโดยสหชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย (๒)๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร [๒๙๖] นเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๗ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ นสหชาตปัจจัย มี ๕ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ นนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ นปุเรชาตปัจจัย มี ๖ วาระ นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๖๐๑}
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]
๙๕. อรูปาวจรทุกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๔ วาระ โนอัตถิปัจจัย มี ๔ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ โนอวิคตปัจจัย มี ๔ วาระ๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ [๒๙๗] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ นอธิปติปัจจัย มี ๔ วาระ นอนันตรปัจจัย มี ๔ วาระ นสมนันตรปัจจัย มี ๔ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย มี ๒ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย มี ๔ วาระ ฯลฯ นสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ โนนัตถิปัจจัย มี ๔ วาระ โนวิคตปัจจัย มี ๔ วาระ๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม [๒๙๘] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ อธิปติปัจจัย มี ๔ วาระ (พึงขยายบทอนุโลมมาติกาให้พิสดาร) ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๗ วาระอรูปาวจรทุกะ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๖๐๒}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๓ หน้าที่ ๕๙๑-๖๐๒. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=43&siri=113 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=43&A=13483&Z=13763 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=43&i=0 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=43&item=797&items=15 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=43&item=797&items=15 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu43
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]